รอบการอัปเดตสมาร์ทวอทช์ของ Samsung ในปีนี้ถือว่าปรับปรุงมาได้น่าสนใจ ที่เน้นรับกับเทรนด์ความใส่ใจในเรื่องสุขภาพ ทั้งการวัดไขมันในร่างกาย วัดคลื่นไฟฟ้าหัวใจ อัตราการเต้นของหัวใจ และตรวจจับการนอน พร้อมปรับให้แบตเตอรี่ใหญ่ขึ้น รองรับการชาร์จเร็ว ทำให้ใช้เวลาไม่นานก็สามารถสวมใส่ต่อได้
เบื้องต้น ซัมซุงออกมาด้วยกัน 2 รุ่นหลักคือ Watch5 มีขนาด 40 มม. น้ำหนัก 28.7 กรัม และ 44 มม. น้ำหนัก 33.5 กรัม และ Watch5 Pro ในขนาด 45 มม. น้ำหนัก 46.5 กรัม
ในภาพรวมมีการปรับความแข็งแกร่งด้วยการเปลี่ยนจอแสดงผลเป็นกระจกแซฟไฟร์ จากเดิมเป็นจอกระจก Gorilla Glass ส่วนวัสดุที่ใช้จะมีทั้งรุ่นที่เป็น Armor Aluminium ใน Watch5 และไทเทเนียมใน Watch5 Pro
สำหรับจุดเด่นในการวัดข้อมูลสุขภาพ สมาร์ทวอทช์ของซัมซุงจะใช้ Samsung BioActive Sensor ที่มีทั้ง Bioelectrical Impedance (BIA) หรือการวัดมวลไขมันร่างกาย ตามด้วยคลื่นไฟฟ้าหัวใจ ECG และเซ็นเซอร์อัตราการเต้นของหัวใจแบบออปติคัล
นอกจากนี้ ก็ยังมีการวัดการออกกำลัง วัดจำนวนก้าว คำนวณปริมาณแคลอรี และกิจกรรมต่างๆ กว่า 90 แบบ ซึ่งในรุ่น Watch5 Pro จะมีความโดดเด่นเพิ่มเติมจากการมีระบบติดตามเส้นทางด้วย GPS และมีแบตเตอรี่ที่ใหญ่ขึ้น ซึ่งรองรับสำหรับการออกกำลังกายแบบเอาต์ดอร์
โดยในรุ่น Watch5 จะมากับแบตเตอรี่ขนาด 284 mAh และ 410 mAh ใหญ่ขึ้นกว่ารุ่นก่อน 15% ที่สามารถชาร์จเร็วขึ้น 30% ทำให้สามารถชาร์จจาก 0 เป็น 45% ในเวลา 30 นาที ส่วน Watch5 Pro จะให้แบตเตอรี่มา 590 mAh
จุดสำคัญของการที่แบตเตอรี่ใหญ่ขึ้น คือทำให้ผู้ใช้งานสามารถใช้ในการติดตามการนอนหลับได้ ซึ่งทางซัมซุง มองว่าการนอนหลับที่เพียงพอจะเป็นส่วนสำคัญของการดูแลสุขภาพให้ดี ที่จะมี Sleep Coaching มาช่วยให้คำแนะนำเพิ่มเติม โดยจะใช้งานแบบสแตนด์บายได้ราว 80 ชั่วโมง หรือใช้แบบวัดการออกกำลังกายต่อเนื่องราว 20 ชั่วโมง
ทั้งนี้ Watch5 รุ่น 40 มม. มีสีกราไฟต์ ชมพูทอง และเงิน ส่วนรุ่น 44 มม. มากับสีกราไฟต์ เงิน และน้ำเงินแซฟไฟร์ ส่วน Watch5 Pro จะมีสีเกรย์ไทเทเนียม และดำไทเทเนียม วางจำหน่ายในราคาเริ่มต้นที่ 8,490-16,900 บาท มีให้เลือกทั้งรุ่นบลูทูธ และ LTE
