หลังจากที่โซนี่ (Sony) เริ่มผลิต และพัฒนาหูฟังบลูทูธไร้สายออกสู่ตลาดมาอย่างต่อเนื่อง พร้อมก้าวขึ้นเป็นผู้นำในธุรกิจหูฟังไร้สาย พร้อมระบบตัดเสียงรบกวนที่ดีลำดับต้นๆ ของโลกจาก WF-1000XM4 ที่ทำตลาดในช่วงปีที่ผ่านมา
ล่าสุด ในช่วงต้นปีนี้ Sony เริ่มขยายตลาดหูฟังไร้สายให้กว้างขึ้น เพื่อจับกลุ่มผู้ใช้งานที่ไม่ต้องการหูฟังแบบ In-Ears ที่ผู้ใช้งานหลายคนอาจจะรู้สึกว่าสวมใส่แล้วไม่สบาย หรือไม่สามารถใส่ใช้งานเป็นเวลานานต่อเนื่องได้
ทำให้ Sony LinkBuds รุ่นนี้กลายเป็นหนึ่งในหูฟังที่สวมใส่สบายมากที่สุดในเวลานี้ และการันตีได้เลยว่าทุกคนสามารถใส่ใช้งานได้อย่างสบายใจ ไม่ต้องกังวลว่าจะหลุดแม้ว่าจะมีหูเล็ก หรือหูใหญ่ก็ตาม
Sony LinkBuds ยังมากับความสามารถที่น่าสนใจทั้งรูปแบบการสั่งงานที่แตกต่างจากหูฟังในท้องตลาดแทบทั้งหมด รวมถึงจุดเด่นในเรื่องของเสียงที่ไม่เป็นรองใคร โดยราคาค่าตัวของ LinkBuds อยู่ที่ 6,990 บาท
ข้อดี
หูฟังไร้สาย สวมใส่สบาย
ใช้งานบนแบตเตอรี่ รวมเคสได้กว่า 17.5 ชั่วโมง
กันน้ำ IPX4 ทำให้สามารถใส่ออกกำลังกายได้
ข้อสังเกต
ไม่รองรับการชาร์จไร้สาย
ไม่รองรับการเชื่อมต่อหลายอุปกรณ์พร้อมกัน
ด้วยตัวหูฟังที่มีขนาดเล็ก เสียงเบสจะไม่แน่นมาก
ภาพรวม และดีไซน์ Sony LinkBuds
สำหรับที่มาที่ไปของการออกแบบ LinkBuds คือการที่ Sony นำความเชี่ยวชาญในการผลิตวอล์กแมน คู่กับหูฟังแบบอินเอียร์มาตั้งแต่ปี 1982 ทำให้ที่ผ่านมา Sony มีข้อมูลสรีรศาสตร์ของใบหูผู้คนทั่วโลกเก็บไว้ และนำมาออกแบบในดีไซน์ที่ผสมผสานรูปทรงเข้ากับหูของมนุษย์ได้อย่างลงตัวมากที่สุด
โดยตัวหูฟังจะมาในลักษณะของตัวเครื่องทรงกลม ที่มีวงแหวนยื่นออกมาข้างๆ เป็นส่วนของช่องลำโพงที่ปล่อยเสียงออกมา และในขณะเดียวกัน การที่มีรูตรงกลางทำให้ผู้สวมใส่ได้ยินเสียงจากรอบตัว เพื่อให้สามารถใส่ใช้งานได้ในทุกสภาพแวดล้อม
ที่น่าสนใจคือวัสดุที่นำมาผลิต LinkBuds ทางโซนี่ให้ข้อมูลว่า ทำมาจากวัสดุรีไซเคิลของรถยนต์ ทั้งส่วนของหูฟัง และเคส นี่จึงกลายเป็นหนึ่งในผลิตภัณฑ์ที่อยู่ในไลน์อัปของสินค้าที่แสดงให้เห็นนโยบายการทำธุรกิจอย่างยั่งยืนของโซนี่ ในการผลิตสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ออกสู่ตลาดด้วย
LinkBuds มีให้เลือกด้วยกัน 2 สีคือ ขาว และดำ โดยบริเวณเคสจะมีปุ่มกดด้านหน้า สำหรับปลดล็อกฝาครอบ และมีปุ่มสำหรับควบคุม รีเซ็ตการเชื่อมต่อ เช็กสถานะแบตเตอรี่อยู่ด้านหลัง พร้อมกับช่องเสียบสายชาร์จ USB-C
ขณะที่ตัวหูฟังมีน้ำหนักข้างละประมาณ 4.1 กรัมเท่านั้น ส่วนตัวเคสน้ำหนักอยู่ที่ราว 34 กรัม ซึ่งตัวหูฟังสามารถใช้งานได้ต่อเนื่อง 5.5 ชั่วโมง เมื่อรวมกับแบตฯ ในเคสอีก 12 ชั่วโมง ทำให้สามารถฟังได้ต่อเนื่อง 17.5 ชั่วโมง
อุปกรณ์ที่ให้มาในกล่องของ LinkBuds ยังมีสายชาร์จ USB-C และยางเกี่ยวหูอีก 4 ขนาด เพื่อให้สามารถเลือกสวมใส่ได้ตามขนาดของรูหู ซึ่งด้วยการที่มีตัวเสริมมาให้หลากหลาย จึงทำให้ใส่ใช้งานกันได้ทุกคนแน่นอน
ฟีเจอร์เด่น LinkBuds
ความโดดเด่นของ LinkBuds แรกมาจากเรื่องของดีไซน์ที่ถูกออกแบบมาใหม่ แม้ว่าจะดูแล้วไม่เหมือนหูฟังในแว่บแรก แต่เมื่อลองสวมใช้งานจะพบว่าเป็นหูฟังไร้สายที่ใส่สบาย ไม่รู้สึกหนักหู และที่สำคัญเมื่อสวมใส่อย่างถูกต้อง จะไม่ถูกสลัดหลุดจากหูแม้ใช้ออกกำลังกาย
ถัดมาคือระบบการควบคุมที่ Sony นำเซ็นเซอร์ตรวจจับการสั่นสะเทือนมาใช้งาน ทำให้ผู้สวมใส่สามารถแตะ 2 ครั้ง หรือ 3 ครั้ง บริเวณด้านหน้าของหู (Wide Area Tap) เพื่อสั่งงานหูฟังได้ ไม่ว่าจะเป็นการเล่นเพลง รับสาย เพิ่มลดเสียง จนถึงเรียกใช้งานผู้ช่วยส่วนตัวด้วยเสียง
นอกจากนี้ ยังมีระบบตรวจจับการพูดคุย (Speak to Chat) ที่เมื่อเราพูดคุยกับคนรอบข้าง เสียงเพลงที่ฟังอยู่จะหยุดแบบอัตโนมัติ ทำให้การสนทนาสะดวกมากขึ้น แม้ใส่หูฟังอยู่ก็ตาม
ในส่วนของการเชื่อมต่อด้วยการที่ LinkBuds เชื่อมต่อผ่านบลูทูธ 5.2 ที่หูฟังทั้ง 2 ข้างจะเชื่อมต่อกับอุปกรณ์โดยตรง ทำให้ช่วยลดความหน่วง และช่วยให้ได้คุณภาพเสียงที่สูงอยู่แม้จะใช้งานแบบไร้สายก็ตาม
โดยไดรเวอร์ของ LinkBuds จะมาในลักษณะของวงแหวนขนาด 12 มม. ที่ให้รายละเอียดเสียงช่วงกลาง และสูงได้อย่างชัดเจน พร้อมมีระบบ DSEE (Digital Sound Enhancement Engine) มาช่วยรีดคุณภาพเสียงจากไฟล์ดิจิทัลที่ใช้งานกันด้วย
ในแง่ของไมโครโฟนรับเสียง ต้องยอมรับว่า LinkBuds ทำได้เหนือจากที่คาดหมายไว้ เนื่องจากตัวหูฟังมีขนาดค่อนข้างเล็ก ทำให้เบื้องต้นคาดว่าเสียงจากไมโครโฟนที่ได้จะค่อนข้างไกล และไม่ชัดเจน
แต่กลายเป็นว่า LinkBuds ทำออกมาได้อย่างน่าสนใจ เพราะเก็บเสียงได้เป็นอย่างดี พร้อมมีระบบตัดเสียงรอบข้างพบสมควร ทำให้สามารถใช้ใส่เพื่อสนทนา หรือประชุมวิดีโอคอลได้สบายๆ ไม่ต้องกังวลเรื่องคุณภาพเสียงอีกต่อไป
สรุป
Sony LinkBuds ถือเป็นหูฟังไร้สายที่มีความโดดเด่น และมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ทั้งในแง่ของดีไซน์ ความสบายในการสวมใส่ และคุณภาพของเสียงที่ได้ เมื่อเทียบกับราคาจำหน่ายที่ 6,990 บาทถือว่าค่อนข้างคุ้มค่า
ติดอยู่นิดหน่อยตรงที่ในตลาดในระดับราคาใกล้เคียงกัน AirPods 3 นั้นสามารถรองรับการชาร์จไร้สายได้ หรือแม้แต่ WF-1000XM4 ของโซนี่ที่ราคาขยับขึ้นไปนิดหน่อยก็ยังรองรับการชาร์จไร้สาย ซึ่งไม่เข้าใจเหมือนกันว่าทำไมโซนี่ไม่ใส่มาให้ด้วย