การขยายกลุ่มผลิตภัณฑ์จากสมาร์ทโฟน มาสู่คอมพิวเตอร์ของหัวเว่ย (Huawei) ถือว่าทำการบ้านมาเป็นอย่างดี โดยเฉพาะในกลุ่มอุปกรณ์เสริมที่ใช้งานร่วมกับโน้ตบุ๊ก หรือแม้แต่สมาร์ทโฟนอย่างจอมอนิเตอร์ ที่ผสมผสานอีโคซิสเต็มเข้ามาได้อย่างน่าสนใจ
ตัวมอนิเตอร์ HUAWEI MateView นอกจากมากับจอความคมชัด 4K ขนาดหน้าจอ 28.2 นิ้ว ให้ใช้งานได้อย่างเต็มตาแล้ว ยังมากับการเชื่อมต่ออัจฉริยะทั้งบลูทูธ และ WiFi เมื่อรวมกับ HDMI และ USC-C ที่เป็น Display Port จึงครอบคลุมการใช้งานได้ครบถ้วน
HUAWEI MateView วางจำหน่ายแล้วในราคา 22,990 บาท จะเห็นได้ว่าระดับราคาค่อนข้างสูง แต่เมื่อเทียบกับสเปก คุณภาพของการแสดงผล และรูปแบบการเชื่อมต่อที่ได้แล้ว ถือว่าเป็นรุ่นที่คุ้มค่าในช่วงราคาใกล้เคียงกัน
ข้อดี
- จอ 28.2 นิ้ว ความละเอียด 4K ขอบเขตสี 98% DCI-P3
- พอร์ตเชื่อมต่อ HDMI / Mini Display / USB-C / USB 3.0 และช่องเสียบหูฟัง 3.5 มม.
- แสดงผลภาพจากอุปกรณ์อื่นแบบไร้สาย
ข้อสังเกต
- ไม่สามารถหมุนใช้งานในแนวตั้งได้
- ไม่รองรับการต่อกับ Versa Mount วางใช้ได้เฉพาะตั้งโต๊ะ
- คุณภาพของลำโพงยังอยู่ในระดับทั่วไป
ดีไซน์โมเดิร์น ค่าสีตรง ใช้ได้กับทุกงาน
การออกแบบของ Huawei MateView ถือว่าทำมาได้น่าสนใจทั้งขอบจอเครื่องที่บาง พร้อมขาตั้งสไตล์โมเดิร์น ทำให้เมื่อวางใช้งานบนโต๊ะทำงานจะได้หน้าจอที่โล่ง โปร่ง พร้อมทำงานร่วมกับโน้ตบุ๊กในช่วงที่ทุกคนต้อง Work from Home ได้เป็นอย่างดี
ตัวหน้าจอของ MateView มีขนาดอยู่ที่ 28.2 นิ้ว โดยอัตรารส่วนหน้าจอต่อตัวเครื่องอยู่ที่ 94% ความละเอียดหน้าจออยู่ที่ 4K UHD (3840 x 2560 พิกเซล) ที่ให้ขอบเขตสี 98% DCI-P3 100% sRGB จึงเหมาะกับการใช้งานทางด้านโปรดักชันเพิ่มเติมด้วย
การแสดงผลของหน้าจอสามารถปรับมุมมองได้ -5 - 18 องศา และปรับความสูงได้ถึง 110 มม. ทำให้สามารถปรับมุมมองให้เหมาะกับการใช้งานในระยะเวลานานๆ ได้สบายๆ การปรับมุมมองถึงว่าทำได้ง่ายมากๆ มีความลื่นไหล และแข็งแรงในตัว
ด้านหลังเครื่องจะมีโลโก้ HUAWEI สีเงินสะท้อนแสง แฝงไปกับตัวเครื่องสี Mystic Silver ทำให้ตัวเครื่องดูสว่าง ซึ่งตัวจอจะยึดติดกับขาตั้งมาให้ ไม่ต้องคอยประกอบเพิ่มเติมหลังจากแกะกล่องใช้งาน
บริเวณขาตั้งในส่วนหน้าจะเป็นที่อยู่ของลำโพง โดยมีพอร์ตเชื่อมต่อเสริมอย่าง USB 3.0 2 พอร์ต USB-C ที่รองรับการแสดงผล ถ่ายโอนข้อมูล ให้กำลังไฟ 65W นั่นแปลว่าไฟจากหน้าจอสามารถใช้ชาร์จโน้ตบุ๊กที่เชื่อมต่อใช้งานได้ด้วย ยังมีช่องเสียบหูฟัง 3.5 มม. มาให้ และปุ่มเปิดปิดจออยู่ที่ขาจอ
หลังเครื่องจะมีพอร์ต USB-C สำหรับเชื่อมต่ออะแดปเตอร์ 135W ที่มาให้ในกล่องด้วยเพื่อใช้จ่ายไฟให้หน้าจอ และอุปกรณ์ที่เชื่อมต่อ พร้อมกับพอร์ต HDMI และ Mini Display Port ใช้เชื่อมต่อเพิ่มเติม
เชื่อมต่อได้ทั้งมีสาย และไร้สาย
ความน่าสนใจอย่างหนึ่งของ MateView คือนอกจากสามารถเชื่อมต่อกับโน้ตบุ๊ก หรือเดสก์ท็อปผ่าน HDMI Mini Display Port และ USB-C ที่ให้ความละเอียดสูงระดับ 4K Refresh Rate 60 Hz แล้ว
ยังรองรับการเชื่อมต่อแบบไร้สาย เพราะในตัวหน้าจอรองรับการเชื่อมต่อ WiFi 5 (802.11ac) และ Bluetooth 5.1 มาด้วย ทำให้ผู้ที่ใช้งานดีไวซ์ในอีโคซิสเต็มของหัวเว่ย ไม่ว่าจะเป็นสมาร์ทโฟน แท็บเล็ตในตระกูล MatePad และโน้ตบุ๊ก MateBook สามารถใช้งาน Huawei Share เพื่อเชื่อมต่อดีไวซ์กับจอแบบไร้สายได้ทันที
ที่น่าสนใจยิ่งกว่านั้นคือ หัวเว่ย ไม่ได้ปิดกั้นเฉพาะดีไวซ์ภายในอีโคซิสเต็มเท่านั้นที่สามารถเชื่อมต่อไร้สายได้ เพราะยังรองรับการแชร์สกรีนจาก Windows 10 รวมถึง MiraCast ที่มีอยู่บนสมาร์ทโฟน Android ด้วย
ดังนั้น นอกจากใช้งานร่วมกับพีซีแล้ว MateView สามารถเชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟนเพื่อใช้งานแทนหน้าจอแสดงผลได้เลย ซึ่งถ้าเป็นสมาร์ทโฟน หรือแท็บเล็ตที่มา Desktop Mode ก็สามารถเชื่อมต่อคีย์บอร์ด และเมาส์ ผ่านบลูทูธ หรือเสียบสายใช้งานแทนคอมพิวเตอร์ได้ด้วย
ควบคุมง่ายผ่าน Smart Bar
ด้วยการที่ออกแบบมาให้เน้นการใช้งานง่าย ทำให้ MateView ไม่มีปุ่มควบคุมที่วุ่นวาย ใช้การควบคุมผ่าน Smart Bar ที่เป็นแถบนิ่มๆ บริเวณใต้หน้าจอตรงกลางเท่านั้น โดยผู้ใช้สามารถใช้นิ้วปาดซ้าย-ขวาเพื่อปรับระดับเสียงได้ทันที
หรือแตะเพื่อเข้าสู่เมนูสั่งงาน อย่างการสลับการเชื่อมต่อระหว่างพอร์ตต่างๆ และการเชื่อมต่อไร้สาย จนถึงการตั้งค่าหน้าจออย่างการเชื่อมต่อ ปรับความสว่าง เปิดโหมดประหยัดพลังงาน
วิธีควบคุมจะใช้การปาดซ้าย-ขวาเพื่อเลือก แตะหนึ่งครั้งเพื่อตกลง และแตะสองครั้งเพื่อย้อนกลับ นอกจากนี้ ยังสามารถใช้สองนิ้วปาดเพื่อสลับการเชื่อมต่อระหว่างอุปกรณ์ต่างๆ ได้ทันทีอีกด้วย
สรุป
HUAWEI MateView ถือเป็นจอมอนิเตอร์ที่หัวเว่ย ทำมาได้อย่างน่าสนใจสำหรับกลุ่มผู้ใช้งานมืออาชีพ หรือผู้ที่ต้องการจอเสริมในช่วงที่ Work from Home กัน เพราะด้วยหน้าจอขนาดใหญ่ 28.2 นิ้ว ความละเอียด 4K ในสัดส่วน 3:2 เรียกว่ารองรับการทำงานได้หลากหลาย
แต่กลับกันถ้าเป็นสายเกมเมอร์ก็อาจจะต้องมองข้ามหน้าจอนี้ไปมองรุ่นอย่าง MateView GT ที่มี Refresh Rate ที่สูงขึ้นเหมาะกับการเล่นเกมมากขึ้นแทน เพราะ MateView จะเหมาะกับการทำงาน หรือใช้เพื่อความบันเทิงทั่วไปมากกว่า
