xs
xsm
sm
md
lg

สรุปทุกรายละเอียด Samsung Galaxy Z Fold 2 สมาร์ทโฟนจอพับรุ่นที่ 3 เปิดราคา 69,900 บาท

เผยแพร่:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



ซัมซุง (Samsung) เปิดตัวสมาร์ทโฟนจอพับรุ่นที่ 3 อย่างเป็นทางการในชื่อ Samsung Galaxy Z Fold 2 ที่เป็นการแยกไลน์ที่ชัดเจนของสมาร์ทโฟนจอพับ ในตระกูล Galaxy Z ที่เน้นนำเสนอนวัตกรรม และรูปแบบการใช้งานสมาร์ทโฟนที่เกิดขึ้นในยุคปัจจุบัน

โดยก่อนหน้านี้ในปีที่ผ่านมา Samsung ได้นำเสนอ Galaxy Fold ออกสู่ตลาดในการเป็นสมาร์ทโฟนจอพับรุ่นแรกของโลกในลักษณะของการกางจอออกเพื่อใช้ให้ได้ใช้งานจอภายในที่มีขนาดใหญ่ขึ้น ตามด้วย Galaxy Z Flip ในช่วงต้นปีที่ผ่านมา ในรูปแบบของการกางจอออกในแนวตั้ง เหมือนกับสมาร์ทโฟนฝาพับในยุคก่อน


จนมาถึงรุ่นล่าสุดที่เพิ่งเปิดตัวมาคือ Samsung Galaxy Z Fold 2 ที่เป็นการพัฒนาต่อยอดจาก Galaxy Fold รุ่นแรก ให้รองรับการใช้งานในรูปแบบของจอพับได้มากยิ่งขึ้น และปรับรูปดีไซน์ให้มีความพรีเมียมเหมือน Note 20 Ultra ที่เปิดตัวไปก่อนหน้านี้ ด้วยวัสดุกระจก และโลหะ พร้อมผิวด้านบริเวณหลังเครื่อง


ในภาพรวมแล้ว Galaxy Z Fold 2 มีจุดที่ปรับปรุงขึ้นจาก Galaxy Fold อย่างชัดเจนอยู่ 5 ส่วนด้วยกัน ไล่ตั้งแต่ 1.หน้าจอแสดงผลภายนอก หรือ Cover Display ที่ปรับขนาดให้ใหญ่ขึ้นเป็น Super AMOLED 6.2 นิ้ว ความละเอียด HD+ 2260 x 816 พิกเซล เพียงพอกับการใช้งานทั่วไปได้ โดยไม่ต้องกางจอเพื่อใช้งานตลอดเวลา จากรุ่นเดิมที่ให้มาเพียง 4.6 นิ้ว


2.จอแสดงผลด้านในที่ปรับมาใช้จอแสดงผลแบบ Dynamic AMOLED 2X Infinity Flex ขนาด 7.6 นิ้ว ความละเอียด QXGA+ 2208 x 1768 พิกเซล จากรุ่นก่อนอยู่ที่ 7.3 นิ้ว และหันมาใช้กล้องแบบเจาะรูบนหน้าจอแทน และมีขอบจอบางลงถึง 27%


3.กล้องจากเดิมที่ Fold มีกล้องมาให้ทั้งหมด 6 เลนส์ พอเป็น Fold 2 จะลดลงมาเหลือ 5 เลนส์ ประกอบด้วยเลนส์ที่หน้าจอด้านนอก 1 เลนส์ ด้านใน 1 เลนส์ ทั้งคู่ให้ความละเอียด 10 ล้านพิกเซล ในขณะที่กล้องหลัก 3 เลนส์ มุมกว้าง มุมปกติ และเทเลโฟโต้ ให้ความละเอียดมาที่ 12 ล้านพิกเซล


4.บานพับ (Hinge) ที่เปลี่ยนมาใช้ระบบ CAM เหมือนใน Galaxy Z Flip ทำให้สามารถปรับองศาในการกางใช้งานได้ 75 - 115 องศา มาพร้อมเส้นใยที่คลุมบริเวณบานพับเพื่อไม่ให้ฝุ่นเข้าไปติดอยู่ภายในได้ ซึ่งใน Fold รุ่นแรกจะไม่สามารถกางใช้งานแบบครึ่งๆ กลางๆ ได้


ความพิเศษของ Samsung Galaxy Z Fold ที่วางจำหน่ายในประเทศไทย คือนอกจากตัวเครื่องที่มีให้เลือก 2 สีหลัก คือ Mystic Bronze และ Mystic Black แล้ว ผู้ใช้งานยังสามารถเข้าไปเลือกปรับสีบานพับเป็นสีเงิน แดง น้ำเงิน และทอง ได้ด้วย


5.สเปกตัวเครื่อง โดย Fold 2 มีการปรับปรุงหน่วยประมวลผลมาใช้งาน Qualcomm Snapdragon 865+ ที่รองรับการใช้งาน 5G RAM 12 GB ROM 256 GB พร้อมกับเพิ่มความสามารถในการเชื่อมต่อ WiFi 6 เพิ่มแบตเตอรีเป็น 4,500 mAh ทำให้ใช้งานได้ยาวนานขึ้น


นอกจากนี้ ยังมีเทคโนโลยีใหม่ที่ใส่เข้ามาให้ใช้งานใน Fold 2 ไม่ว่าจะเป็นหน้าจอแสดงผลหลักที่รองรับ Adaptive Refresh Rate 120 Hz โดยระบบจะคอยประมวลผลคอนเทนต์ที่แสดงผลหน้าจอ และปรับการแสดงผลให้เหมาะสมแบบอัตโนมัติ ซึ่งช่วยให้ประหยัดแบตเตอรี ให้ใช้งานได้นานขึ้นด้วย

ในแง่ของความปลอดภัย Fold 2 มีเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือให้ใช้งานบริเวณปุ่มเปิด-ปิดเครื่อง และรองรับการสแกนใบหน้าเพื่อปลดล็อกใช้งานด้วย เพียงแต่ยังไม่ใช่การสแกนใบหน้าแบบ 3มิติ

ขณะที่ในส่วนของการดีไซน์เมื่อพับเครื่องขนาดจะอยู่ที่ 68 x 159.2 x 13.8 - 16.88 มิลลิเมตร น้ำหนัก 282 กรัม กางเครื่องออกมาจะอยู่ที่ 128.2 x 159.2 x 6 - 6.9 มิลลิเมตร

เน้นใช้งานแบบ Multi-Tasking


เมื่อ Galaxy Z Fold 2 เป็นสมาร์ทโฟนจอพับ ทำให้ทาง ซัมซุง ต้องมีการออกแบบยูสเซอร์ อินเตอร์เฟส ให้รองรับการแสดงผลแบบไร้รอยต่อ อย่างกรณีที่เปิดใช้งานแอปพลิเคชันอยู่บนจอนอก เมื่อกางหน้าจอออกมาใช้จอหลัก แอปฯ ที่เปิดอยู่ก็จะทำงานต่อเนื่อง

โดยในตอนที่เริ่มทำตลาด Galaxy Fold จะมีแอปฯ ที่แสดงผลแบบไร้รอยต่อเพียงไม่กี่แอป แต่ในปัจจุบันแอปพลิเคชันที่ซัมซุง ไมโครซอฟท์ และกูเกิล พัฒนาขึ้นรองรับการแสดงผล 2 รูปแบบแล้ว ทำให้ประสบการณ์ใช้งานโดยรวมดีขึ้นด้วย

แน่นอนว่า ฟีเจอร์หลักที่ผู้ใช้ Fold นิยมใช้งานคงหนีไม่พ้นการใช้งานหลายๆ แอปในหน้าจอเดียว Fold 2 นั้นได้พัฒนาให้สามารถใช้งาน Multi-Active Window พร้อมกัน 3 แอปภายในหน้าจอหลัก และ 2 แอปพร้อมกันในหน้าจอภายนอก

ต่อเนื่องไปยังการใช้งานระหว่างแอปพลิเคชัน ที่สามารถลากเนื้อหาอย่างรูปภาพ ข้อความ ข้ามไปมาระหว่างแอปฯ ที่รองรับได้ อย่างการลากรูปที่อยู่ในอัลบั้ม ไปใส่ไว้ใน PowerPoint เพื่อทำพรีเซ็นเทชัน หรือลากข้อความจากอีเมล มาแปะในเอกสาร ก็ได้เช่นกัน

เพิ่มประสบการณ์จอพับ


ในตอนที่ Samsung เปิดตัว Z Flip ได้เปิดประสบการณ์ในการใช้งาน Flex Mode หรือการกางเครื่องวางเพื่อใช้งานกับพื้นราบ โดยหน้าจอส่วนบนจะแสดงผลคอนเทนต์ และส่วนล่างจะเปิดแถบควบคุมเพิ่มเติม




พอมาเป็น Fold 2 ที่มีทั้งจอภายใน และภายนอก ก็จะรองรับการวางเครื่องเพื่อแสดงผลในรูปแบบใหม่ อย่างกางเครื่องเพื่อรับชมคอนเทนต์จากจอภายนอก หรือจะกลับกันให้คอนเทนต์แสดงผลในครึ่งจอหลักข้างบนแทน และเปลี่ยนครึ่งจอล่างให้เป็นแถบควบคุม


พร้อมยกตัวอย่างให้เห็นรูปแบบการใช้งานที่น่าสนใจ อย่างการวางเครื่องเพื่อถ่ายภาพนิ่ง หรือวิดีโอ ที่จอส่วนบนจะแสดงผลภาพให้เห็น และจอส่วนล่างจะแบ่งครึ่งแสดงตัวอย่างภาพที่ถ่ายไว้ก่อนหน้า กับอีกครึ่งใช้เลือกโหมด และปุ่มชัตเตอร์ให้กด

ฟีเจอร์ในการใช้งานกล้องบน Fold 2 นั้น เรียกได้ว่าถอดแบบมาจาก Note 20 ซีรีส์ อย่างการเพิ่มโหมดในการบันทึกเสียงจากอุปกรณ์ไร้สาย และมีโหมด Auto Framing มาคอยจับการเคลื่อนไหว และปรับมุมมองโดยอัตโนมัติ

นอกจากนี้ ถ้าต้องการถ่ายเซลฟี่คุณภาพสูง ก็สามารถกางจอพับออกมาเพื่อให้ใช้จอภายนอกแสดงภาพตัวอย่าง ขณะบันทึกภาพจากกล้องหลังได้ด้วย ทำให้สามารถถ่ายภาพเซลฟี่จากกล้องหลังได้ หรือในกรณีที่ถ่ายภาพกับตัวแบบก็เปิดจอให้เห็นเฟรมที่ถ่ายได้เช่นกัน

โดยซัมซุงเตรียมวางจำหน่าย Samsung Galaxy Z Fold 2 ในวันที่ 16 กันยายนนี้ โดยเริ่มเปิดให้จองระหว่างวันที่ 2 - 13 กันยายน ผ่านหน้าเว็บไซต์ Samsung.com  และเครือข่ายโอเปอเรเตอร์ ที่จะได้รับ Samsung Galaxy Buds Live และบริการหลังการขาย Galaxy Butler Gold ที่เป็นผู้ช่วยส่วนตัว 24 ชั่วโมง




กำลังโหลดความคิดเห็น