xs
xsm
sm
md
lg

จับเครื่องจริง 'Samsung Galaxy S10e | S10 | S10+’

เผยแพร่:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์

Samsung Galaxy S10e และ Galaxy S10
ภายในงาน ‘Galaxy Unpacked 2019’ ทีมงานมีโอกาสได้สัมผัสเครื่องจริงของทั้ง Samsung Galaxy S10 Galaxy S10+ และ Galaxy S10e เลย มีโอกาสเก็บภาพเครื่องจริงมาให้ชมกัน พร้อมเก็บรายละเอียดที่น่าสนใจมาให้
Galaxy S10e
เริ่มต้นกันที่ความต่างของเครื่องทั้ง 3 รุ่น คือ S10e S10 และ S10+ รุ่นที่แตกต่างจากใครเพื่อนเลยคือ S10e ที่จะใช้งานจอ Infitity O ที่เป็น AMOLED แบบ Flat ขนาด 5.8 นิ้ว ความละเอียด Full HD+ ในอัตราส่วน 19:9
Galaxy S10e Galaxy S10 และ Galaxy S10+
ส่วนของ S10 และ S10+ จะเป็นจอ Curve AMOLED ขนาด 6.1 และ 6.4 นิ้ว ตามลำดับ ความละเอียดเท่ากันที่ Quad HD+ ทำให้ขนาดตัวเครื่องของ S10e จะเล็กที่สุดอยู่ที่ 69.9 x 142.2 x 7.9 มิลลิเมตร น้ำหนัก 150 กรัม ตามมาด้วย S10 ขนาด 70.4 x 149.9 x 7.8 มิลลิเมตร น้ำหนัก 157 กรัม และ S10+ 74.1 x 157.6 x 7.8 มิลลิเมตร น้ำหนัก 175 กรัม
Galaxy S10e (เครื่องกลาง เป็น Dual Camera)
อีกจุดที่มีความแตกต่างคือเรื่องของกล้องหลัง ที่ S10e เป็น Dual Camera ส่วน S10 และ S10+ เป็น Triple Camera โดยทั้ง 3 รุ่นจะมี 2 เลนส์ที่เหมือนกันคือ Wide Angle (77°) ความละเอียด 12 ล้านพิกเซล ที่สามารถปรับรูรับแสงได้ f/1.5 / f.24 พร้อมกันสั่น OIS และเลนส์ Ultra Wide (123°) ความละเอียด 16 ล้านพิกเซล f/2.2

แต่เฉพาะใน S10 และ S10+ จะมีเลนส์ Telephoto (45°) ที่ความละเอียด 12 ล้านพิกเซล f/2.4 กันสั่น OIS เพิ่มเข้ามา ให้ใช้งานกัน ทำให้รวมๆแล้ว S10 และ S10+ จะมีกล้องที่ถ่ายภาพระยะไกลได้ดีกว่า S10e
กล้องหน้าของ S10+ เป็นกล้องคู่
ขณะที่กล้องหน้าทั้ง 3 รุ่นจะมากับเลนส์เซลฟี่ (80°) ความละเอียด 10 ล้านพิกเซล f/1.9 โดย S10​+ จะพิเศษขึ้นมาด้วยการใส่กล้องหน้าคู่ (Dual Camera) เพิ่มเลนส์ RGB Depth (90°) ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล f/2.2 เข้ามาด้วย

ถัดมาคือเรื่องของแบตเตอรี ไล่ตั้งแต่ S10e จะอยู่ที่ 3,100 mAh S10 3,400 mAh และ S10+ 4,100 mAh โดยทั้ง 3 รุ่นจะรองรับการชาร์จแบบไร้สาย และมีโหมด Wireless Power Share ในการชาร์จแบตไร้สายให้อุปกรณ์อื่นเพิ่มเข้ามาด้วย

ในการใช้งาน Wireless Power Share ผู้ใช้จำเป็นต้องเข้าไปเปิดการทำงานของโหมดนี้ ได้จากหน้าจอตั้งค่าด่วน ที่ใช้การลากนิ้วจากขอบบนลงมา เลือกโหมด Wireless Power Share หลังจากนั้นก็สามารถคว่ำเครื่อง และนำอุปกรณ์อื่นมาชาร์จด้วยการแปะไว้ที่หลังเครื่องได้ทันที
Galaxy S10+
ในส่วนของการสแกนลายนิ้วมือ S10 และ S10+ จะมากับการปลดล็อกด้วยลายนิ้วมือแบบ Ultrasonic ที่ผู้ใช้สามารถแตะนิ้วลงบนหน้าจอเพื่อปลดล็อกได้ทันที ในขณะที่ S10e จะใช้เซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือที่ปุ่มเปิดเครื่องทางด้านขวาแทน

รอบๆตัวเครื่องของทั้ง 3 รุ่นจะคล้ายๆกัน คือมือปุ่มปรับระดับเสียงอยู่ทางด้านซ้าย ถัดลงมาเป็นปุ่มเรียกใช้งาน Bixby ส่วนทางขวาเป็นปุ่มเปิดเครื่อง (ในรุ่น S10e จะเป็นสแกนลายนิ้วมือด้วย) ด้านบนเป็นช่องใส่ถาดซิมการ์ด และด้านล่างจะมีพอร์ต USB-C ช่องเสียบหูฟัง 3.5 มม. และลำโพงตามปกติ

สำหรับสเปกภายในของทั้ง 3 รุ่น จะมาพร้อมกับหน่วยประมวลผล Exynos 9820 ที่ใช้สถาปัตยกรรม 8 นาโนเมตร ให้ความเร็วในการประมวลผลสูงสุด 2.7 GHz + 2.3 GHz + 1.9 GHz RAM 6 GB สำหรับ S10e และ S10 ส่วน S10+ มีให้เลือกทั้งรุ่น RAM 8 GB และ 12 GB พื้นที่เก็บข้อมูลเริ่มต้นที่ 128 GB

ส่วนสีที่คาดว่าจะวางจำหน่ายในประเทศไทยจะมีด้วยกันหลักๆ 3 สีคือ เขียว (Prism Green)
ขาว (Prism White) และ ดำ (Prism Black) เฉพาะในรุ่น S10e จะมีสีเหลือง Canary Yellow เพิ่มเข้ามา และรุ่นพิเศษ S10+ ที่จะมีสีเซรามิคขาว และดำ (Ceramic White / Ceramic Black) ด้วย
Galaxy S10+
Galaxy S10+
Galaxy S10+ ด้านซ้าย
Galaxy S10+ ด้านขวา
Galaxy S10+ ด้านหลัง
พอร์ต USB-C และช่องเสียบหูฟัง
ฝาหลังเซรามิค
Galaxy S10e
Galaxy S10e
Galaxy S10e
Galaxy S10e
Galaxy S10 และ Galaxy S10+
Galaxy S10+
Galaxy S10+
Galaxy S10+
Galaxy S10e ปุ่มสแกนลายนิ้วมือ
Galaxy S10e ปุ่มปรับระดับเสียง และ Bixby
พอร์ตจัดเรียงเหมือนกัน ทั้ง 3 รุ่น
ด้านหลัง Galaxy S10e
Galaxy S10e
Galaxy S10
Galaxy S10
Galaxy S10
Galaxy S10
Galaxy S10
Galaxy S10
Galaxy S10
Galaxy S10
Galaxy S10
Galaxy S10e และ Galaxy S10
Galaxy S10e Galaxy S10 และ Galaxy S10+
เคสมีให้เลือกหลากสี
มีเคสที่เป็นไฟ LED ด้วย


กำลังโหลดความคิดเห็น