xs
xsm
sm
md
lg

Review : Asus Zenfone 5 สมาร์ทโฟนสุดคุ้มราคาโดน

เผยแพร่:   โดย: MGR Online




กลายเป็น 1 ในสมาร์ทโฟนราคาสุดคุ้มในตลาดตอนนี้ไปอย่างไม่ต้องสงสัย กับ Asus Zenfone 5 ที่ออกมาจับตลาดกลุ่มผู้บริโภคที่ต้องการสมาร์ทโฟนราคาประหยัด แต่ประสิทธิภาพสูง ส่งผลให้ช่วงแรกที่วางขายถึงกับของขายตลาด และถือเป็นแนวโน้มที่ดีของแบรนด์ไอที ที่เข้ามาลุยในตลาดสมาร์ทโฟนอีกราย

จุดเด่นหลักของ Zenfone 5 คือเรื่องของความคุ้มค่าด้วยหน่วยประมวลผลระดับควอดคอร์ หน้าจอ 5 นิ้ว ในราคา 5,990 บาท ประกอบกับชื่อชั้นของแบรนด์เอซุส ที่ได้รับการยอมรับจากตลาดพีซี และโน้ตบุ๊ก ช่วยให้สินค้าในตระกูล Zenfone มีที่ยืนได้ตลาดได้

การออกแบบและสเปก



ในแง่ของการออกแบบ ถือว่าเป็นไปตามสมัยนิยมของสมาร์ทโฟนหน้าจอใหญ่ ประกอบกับเอซุส ได้นำแนวคิดของการออกแบบผลิตภัณฑ์ภายใต้ปรัชญา เซน (Zen) เช่นเดียวกับในสินค้าโน้ตบุ๊กตระกูล Zen ทำให้ Zenfone 5 จะมีควบโฉบเฉี่ยวของขอบเครื่อง และฝาหลังที่เป็นแนวโค้งรับกับการถือใช้งาน ตัวเครื่องมีขนาด 148.2 x 72.8 x 10.34 มิลลิมเตร น้ำหนักราว 145 กรัม มีให้เลือกด้วยกัน 3 สี คือ ขาว ดำ และทอง



ด้านหน้า - ที่เห็นเป็นหลักเลยคือหน้าจอ Gorilla Glass 3 ที่เป็นแบบ IPS ขนาด 5 นิ้ว ความละเอียด HD (1,280 x 720 พิกเซล) โดยมีโลโก้ ‘ASUS’ สีเงินพาดอยู่ส่วนบนจอ แนวเดียวกับลำโพงสนทนา และมีกล้องหน้าความละเอียด 2 ล้านพิกเซล ส่วนล่างหน้าจอเป็นปุ่มสัมผัส ย้อนกลับ โฮม และแอปฯที่ใช้งานล่าสุด ที่ไม่มีไฟแอลอีดีส่อง ทำให้เวลาใช้งานในที่มืดต้องใช้ความเคยชิน



ด้านหลัง - อย่างที่บอกว่าฝาหลังจะมีความโค้งอยู่จากบริเวณขอบที่บาง เข้ามาตรงกลางจะหนาขึ้น โดยมีกล้องหลักความละเอียด 8 ล้านพิกเซล พร้อมไฟแฟลช ที่มีโลโก้อยู่กึ่งกลาง ถัดลงมาส่วนล่างจะเป็นสัญลักษณ์ของหน่วยประมวลผล ชื่อซีรีส์ และช่องลำโพง



ฝาหลังสามารถถอดออกมาได้ โดยจะมีช่องใส่ไมโครซิม 2 ช่อง อยู่ตรงกลาง และมีไมโครเอสดีการ์ดอยู่ที่มุมขวาบน ตัวเครื่องไม่สามารถถอดเปลี่ยนแบตได้ โดยแบตเตอรีที่ให้มามีขนาด 2,110 mAh




ด้านซ้าย - จะถูกปล่อยว่างไว้ โดยมีช่องสำหรับงัดฝาหลังที่มุมล่าง ด้านขวา - มีปุ่มเปิด-ปิดเครื่อง และปุ่มปรับระดับเสียง สีเงินติดอยู่




ด้านบน - มีช่องเสียบหูฟังขนาด 3.5 มม. และไมโครโฟนตัดเสียง ด้านล่าง - เป็นพอร์ตไมโครยูเอสบี และไมโครโฟนสนทนา



สำหรับสเปกภายในของ Zenfone 5 ใช้หน่วยประมวลผล Intel Atom Z2560 ที่เป็นควอดคอร์ 1.6 GHz RAM 2 GB พื้นที่เก็บข้อมูลภายในตัวเครื่อง 8 GB (เอซุสแจ้งว่าโมเดลที่ขายหลังสิงหาคมจะเป็นรุ่น 16 GB) ที่สามารถใส่ไมโครเอสดีการ์ดเพิ่มได้สูงสุด 64 GB ทำงานบนระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์ 4.3

ด้านการเชื่อมต่อรองรับการใช้งาน 3G ทุกคลื่นความถี่ ที่ความเร็วในการดาวน์โหลดสูงสุด 42 Mpbs และ 5.76 Mbps ส่วน Wi-Fi รองรับมาตรฐาน 802.11 b/g/n บลูทูธ 4.0 วิทยุ FM และจีพีเอส

ฟีเจอร์ที่น่าสนใจ



ในส่วนของการติดต่อผู้ใช้ หรือยูสเซอร์อินเตอร์เฟส ต้องยอมรับว่าเอซุสทำการบ้านมาได้ค่อนข้างดี จากทั้งการนำ Zen UI มาครอบแอนดรอยด์ เพื่อสร้างความแตกต่าง ในขณะเดียวกันก็ผสานความเหมือนในการใช้งาน Zenfone ทุกรุ่นเข้าด้วยกัน ดังนั้นเมื่อผู้ที่เคยได้ลองสัมผัสมาแล้ว ก็จะใช้งานได้อย่างต่อเนื่อง

โดยหน้าจอของ Zen UI จะเน้นความโล่ง เรียบง่าย มีหน้าเปล่าให้นำวิตเจ็ตมาใส่ โดยมีไอค่อนหลักอยู่ขอบล่างคือโ?รศัพท์ ข้อความ เข้าสู่เมนูทั้งหมด เว็บเบราว์เซอร์​ และกล้อง ในส่วนของแถบการแจ้งเตือน ก็มีการรวบรวมการตั้งค่าลัด ในดีไซน์ที่ดูแล้วเข้าใจง่ายมารวมไว้ด้วย



อย่างไรก็ตาม ถ้าต้องการนำเครื่องมาให้ผู้สูงอายุใช้งาน ก็สามารถเข้าไปเปิด 'โหมดง่าย’ ในหน้าจอตั้งค่า ตัวอินเตอร์เฟสก็จะเปลี่ยนไป กลายเป็นมีนาฬิกา และไอค่อนหลักเข้าสู่แอปฯสำคัญ และอีกหน้าหนึ่งสำหรับเลือกแอปฯที่ใช้งานบ่อยๆมารวมไว้ด้วยกัน



ส่วนของหน้าจอล็อกสกรีน ผู้ใช้สามารถตั้งได้ว่า จะให้โชว์ปุ่มลัดเพื่อเข้าสู่โหมดการใช้งานกล้อง โทรศัพท์ ข้อความ รวมถึงการแสดงข้อมูลตารางนัดหมาย พยากรณ์อากาศด้วยหรือไม่ ซึ่งในส่วนของปฏิทิน จะแสดงผลภายใต้แอปฯอย่าง What’s Next ที่จะทำงานคล้ายๆกับ Google Now คือนำตารางนัดหมายในปฏิทิน เฟซบุ๊ก พยากรณ์อากาศมาแจ้งต่อผู้ใช้งาน



นอกจากนี้ เอซุสยังเปิดโอกาสให้ผู้ใช้งานสามารถเลือกตั้งค่าปุ่ม แอปฯ ที่ใช้งานล่าสุด ว่าจะให้แสดงผลเป็นอย่างไร เช่น แสดงแอปฯที่ใช้งานล่าสุด ใช้การกดค้างเพื่อจับภาพหน้าจอ หรือ กดค้างเพื่อเข้าสู่หน้าเมนู ขณะที่หน้าจอตั้งค่าลัดก็สามารถปรับแต่งได้เช่นเดียวกัน



สำหรับแอปพลิเคชันที่ติดตั้งมาให้ในเครื่อง จะมีทั้งกระจก กล้อง แกลลอรี่ ข้อความ ค้นหาด้วยเสียง เครื่องคิดเลข ตัวจัดการไฟล์ โปรไฟล์เสียง ตัวช่วยประหยัดพลังงาน โทรศัพท์ นาฬิกา บันทึกย่อ บันทึกเสียง รายชื่อ เว็บเบราว์เซอร์ ปฏิทิน เพลง ไฟฉาย วิทยุ อีเมล บริการต่างๆจากกูเกิล และของเอซุสเอง



โดยแอปฯที่มีมาให้ใน Zenfone ที่น่าสนใจคือ Splendid ที่เปิดโอกาสให้ผู้ปรับปรับสีหน้าจอได้ด้วยตนเอง หรือจะเลือกตามโหมดที่มีมาให้ก็ได้ Super Note เป็นโปรแกรมจดบันทึก ที่ผู้ใช้สามารถใช้นิ้วเขียนเป็นตัวอักษรเพื่อบันทึกได้ทันที หรือจะใช้การพิมพ์ก็ได้



Web Storage เป็นเหมือนบริการคลาวด์เก็บข้อมูลของเอซุส ที่ให้ผู้ใช้งานสามารถเข้าถึงผ่านสมาร์ทโฟน แท็บเล็ต หรือ โน้ตบุ๊ก เพื่อซิงค์ข้อมูล และยังสามารถใช้แชร์ข้อมูลให้เพื่อนก็ได้เช่นเดียวกัน โดยเบื้องต้นจะมีพื้นที่เก็บข้อมูลมาให้ 5 GB



แอปฯ พยากรณ์อากาศ เป็นอีกหนึ่งตัวที่น่าสนใจ เพราะนอกจากจะบอกอุณหภูมิ ยังมีบอกปริมาณน้ำฝน ความชื่น ความเร็วลม โอกาสที่ฝนจะตก รวมไปถึงดูอุณหภูมิล่วงหน้า เวลาพระอาทิตย์ขึ้น และพระอาทิตย์ตกด้วย



นอกจากนี้ ในเอซุสยังมีแอปฯที่ติดมากับตัวเครื่องอย่าง Share Link เพื่อเชื่อมต่อกับอุปกรณ์อื่น และแชร์ไฟล์ให้แก่กัน Remote Link ใช้สมาร์ทโฟนในการควบคุมโน้ตบุ๊ก หรือ พีซี และ Party Link ที่ใช้เชื่อมต่อสมาร์ทโฟนและแท็บเล็ตของเอซุส เข้าด้วยกันเพื่อสั่งให้เล่นเพลง ภาพยนต์ ดูรูปภาพไปได้พร้อมๆกัน



ในส่วนของการบันทึกเสียง ใช้งานง่ายเพียงแค่กดปุ่มบันทึกขนาดใหญ่ตรงกลาง ถัดมาโปรไฟล์เสียง จะมีให้เลือกทั้งดนตรี ภาพยนตร์ การบันทึก เกม และคำพูด ส่วนการแชร์ภาพบนหน้าจอผ่านระบบ DLNA ก็สามารถใช้งานได้



ตัวจัดการไฟล์ นอกจากจะใช้เข้าถึงไฟล์ในตัวเครื่องแล้ว ยังสามารถใช้ดูไฟล์ในระบบคลาวด์อย่าเว็บสตอเรจของเอซุส ดรอบบ็อกซ์ วันไดร์ฟ และกูเกิลไดร์ฟได้ด้วย ซึ่งผู้ใช้สามารถเลือกย้าย คัดลอก เปลี่ยนชื่อ ลบได้จากภายในแอปฯนี้



เว็บเบราว์เซอร์ที่ให้มาในตัวเครื่อง ยังรองรับการใช้งานแฟลชด้วย ซึ่งเมื่อแสดงผลบนหน้าจอขนาด 5 นิ้ว ก็ต้องยอมรับว่าทำงานได้รวดเร็วดี



ส่วนของโทรศัพท์ ที่มีมาให้ใช้งานถึง 2 ซิม ผู้ใช้สามารถใช้ระบบคาดเดาเบอร์จากการกดเลขหมายนำหน้าได้ เมื่อกดแล้วจะเลือกซิมโทรได้จากปุ่มด้านล่าง ส่วนหน้าจอขณะสนทนาจะมีไอค่อนอย่างเปิดลำโพง ปิดไมค์ พักสาย เพิ่มสาย จดบันทึก บันทึกเสียงสนทนา เรียกปุ่มกด และรายชื่อได้ ขณะที่หน้าจอสายเรียกเข้าก็จะใช้การสไลด์เพื่อรับสาย ตัดสาย



กล่องจดหมาย หรือ อีเมลที่ให้มาถือว่าใช้งานได้ค่อนข้างง่าย สามารถใส่เพิ่มได้หลายบัญชี และเลือกดูรวมกันทั้งหมด หรือเลือกเฉพาะบัญชีที่ต้องการก็ได้



ในส่วนของกล้อง ที่ทางเอซุสใช้ระบบ PixelMaster ช่วยในการประมวลผลภาพ ทำให้ภาพที่ได้จากกล้องออกมาในระดับที่โอเค ที่สำคัญคือมีโหมดให้เลือกใช้งานหลากหลายทั้ง Low Light Time Rewind Shake-free Selfies DOF ClearZoom Instant Camera Best Pic Smart Remove



ส่วนของการตั้งค่ากล้องก็จะมีให้เลือกอย่างความละเอียดภาพสูงสุด 8 ล้านพิกเซล ปรับ ISO ชดเชยแสง การโฟกัส ระบบตรวจจับใบหน้า การถ่ายภาพต่อเนื่อง ส่วนวิดีโอ สามารถบันทึกภาพได้ที่ความละเอียด 1080p



สุดท้ายในส่วนของการตั้งค่า โดยทั่วไปแล้วจะแบ่งเป็นการตั้งค่าการเชื่อมต่อ อุปกรณ์ ส่วนบุคคล บัญชีผู้ใช้ และอื่นๆ ซึ่งมีส่วนที่น่าสนใจอยู่อย่าง โหมดการอ่าน เมื่อเปิดใช้งานโหมดนี้ หน้าจอจะปรับสีให้กลายเป็นเหลืองนวลเพื่อเหมาะกับสายตาแทน สีขาวที่สว่างจ้า นอกจากนี้ก็ยังมีโหมดประหยัดพลังงานให้เลือกใช้ด้วย



ในส่วนของผลการทดสอบ ผ่านโปรแกรมทดสอบประสิทธิภาพบนแอนดรอยด์อย่าง Quadrant Standart และ Antutu ได้คะแนน 9,026 คะแนน และ 19,342 คะแนน ตามลำดับ หน้าจอรองรับการสัมผัส 10 จุดพร้อมกัน

ทดสอบการใช้งาน HTML 5 ผ่าน Vellamo ได้คะแนนเบราว์เซอร์ 1,808 คะแนน Multicore 1,037 คะแนน ส่วนประสิทธิภาพตัวเครื่องได้ 770 คะแนน ทดสอบกราฟิกผ่าน Nenamark1 ได้ 60.8 fps Nenamark2 60.7 fps An3dBench 8,118 คะแนน และ An3dBenchXL 43,766 คะแนน



ขณะที่คะแนน 3DMark Ice Storm ได้ 6,529 คะแนน Ice Storm Extream ได้ 3,660 คะแนน และ Ice Storm Unlimited ได้ 5,800 คะแนน ส่วนการทดสอบ CF-Bench และ 3D Mark ดูรายละเอียดได้จากรูปด้านล่าง



จุดขาย

- สมาร์ทโฟนประสิทธิภาพสูง ราคา 5,990 บาท
- หน้าจอ 5 นิ้ว ความละเอียด 720p
- รองรับการเชื่อมต่อ 3G ดาวน์โหลดสูงสุด 42 Mbps
- Zen UI ที่ช่วยให้ใช้งานได้ง่าย
- ฟังก์ชันกล้องที่มีให้เลือกเล่นได้หลากหลาย

ข้อสังเกต/ตอบจุดขายหรือไม่

- แบตเตอรีที่ให้มา 2,110 mAh ไม่เพียงพอต่อการใช้งานใน 1 วัน
- วัสดุตัวเครื่องที่ได้ตามราคา แต่การประกอบถือว่าแน่หนาดี
- ไม่มี NFC

ฟันธง! ความคุ้มค่ากับเม็ดเงินที่เสียไป

Zenfone 5 ถือเป็นสมาร์ทโฟนสุดคุ้มในระดับราคา 5,990 บาท ก็ว่าได้ เพราะจากข้อมูลล่าสุดของเอซุส ที่แจ้งว่าเครื่องล็อตใหม่ที่จำหน่ายช่วงเดือนสิงหาคม จะมีพื้นที่เก็บข้อมูลเพิ่มเป็น 16 GB แทนรุ่นเดิมที่มีอยู่ 8 GB แม้ว่าจะทำให้ผู้บริโภคที่ซื้อก่อนเสียใจไปเล็กน้อย แต่ก็ถือว่ายังดีที่ไม่มีการปรับราคาใดๆ

ด้วยประสิทธิภาพของหน่วยประมวลผล อินเทล อะตอม ยิ่งทำให้ความโดดเด่นของ Zenfone 5 ไม่แตกต่างจากเครื่องในระดับราคาหมื่นกว่าบาท ดังนั้นถ้าไม่คิดอะไรมาก และกำลังมองหาสมาร์ทโฟนในระดับราคาหกพันบาท ตอนนี้คงไม่มีรุ่นไหนคุ้มไปกว่า Zenfone 5

Company Related Links :
Asus

Instagram

CyberBiz Social
















กำลังโหลดความคิดเห็น