ด้วยความเร็วอินเตอร์เน็ตในปัจจุบันเพิ่มสูงขึ้น ทำให้บริการสตรีมมิ่งวิดีโอผ่านระบบอินเตอร์เน็ตเติบโตตามไปด้วย และ IPTV หรือบริการทีวีออนไลน์ผ่านระบบอินเตอร์เน็ต (Internet Protocol Television) ก็เป็นส่วนหนึ่งของเทคโนโลยีสตรีมมิ่งวิดีโอผ่านเครือข่ายอินเตอร์เน็ตที่พัฒนาอย่างไม่หยุดนิ่งเช่นกัน
มาวันนี้ทีโอทีก็นำเทคโนโลยีดังกล่าวมาพัฒนาปรับระบบ IPTV ใหม่เพื่อตอบสนองผู้ใช้ที่อยากรับชมรายการทีวีแบบจานดาวเทียมแต่ไม่อยากติดจานเพราะเงื่อนไขต่างๆ โดยกล่อง TOT IPTV หรือ Set top Box MeTV รุ่นนี้จะทำหน้าที่คล้ายกล่อง Set top Box ที่มากับจานดาวเทียมแบรนด์ต่างๆ โดยผู้อ่านสามารถรับชมรายการทั้งจากช่องฟรีทีวีหรือช่องพิเศษตามแพกเกจที่สมัครได้ เพียงแต่ข้อแตกต่างจากกล่องที่มากับจานดาวเทียมก็คือ TOT IPTV ใช้อินเตอร์เน็ตบ้านทั่วไปในการดึงคอนเทนต์จากระบบกลาง ในขณะที่กล่อง Set top Box ทั่วไปต้องใช้สัญญาณจากดาวเทียม
เพราะฉะนั้นผู้ใช้กล่อง TOT IPTV (MeTV) จึงไม่ต้องกลัวเรื่องสภาพอากาศที่มีผลให้สัญญาณภาพติดๆ ขัดๆ รวมถึงความสามารถในการหยุดชั่วคราว (PAUSE) รายการสดที่กำลังรับชมอยู่ได้และเล่นต่อได้ตามต้องการ แถมบริการ IPTV จากทีโอทียังสามารถใช้งานบนพีซี สมาร์ทโฟนและแท็บเล็ตได้ผ่านระบบคลาวด์คอมพิวติ้งของทีโอทีอีกด้วย
การออกแบบและสเปก
TOT IPTV ใช้บริการกล่องจาก MeTV (จับมือเป็นพาร์ทเนอร์กัน) โดยตัวกล่องมีขนาด 120x120x30 มิลลิเมตร น้ำหนัก 300 กรัม ใช้แนวคิดการออกแบบสไตล์แอนดรอยด์แท็บเล็ตที่มีแอปพลิเคชันดูทีวีของ MeTV ติดตั้งมาให้
ภายในตัวเครื่องบรรจุด้วยหน่วยประมวลผล ARM Cortex A9 ความเร็วประมาณ 1GHz สามารถเล่นไฟล์วิดีโอ 1080p ได้ แรม 1GB มี WiFi ในตัวเอง พื้นที่เก็บข้อมูลภายในเหลือให้ใช้งานประมาณ 2GB ขับเคลื่อนด้วยระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์ 4.0.4 สามารถติดตั้งแอปพลิเคชันผ่าน App Store ของทีโอทีและไฟล์ apk จากการดาวน์โหลดได้ มาพร้อมรีโมทที่วางตำแหน่งปุ่มคำสั่งได้ครอบคลุมทุกการใช้งาน
ด้านพอร์ตและช่องเชื่อมต่อต่างๆ รอบตัวเครื่อง จากด้านหน้าซ้ายสุดจะเป็นสวิตซ์เปิด-ปิดเครื่อง ถัดมาเป็นช่องรับสัญญาณอินฟาเรดจากรีโมท ไฟแสดงสถานะเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตและสถานะเครื่อง ด้านล่างเป็นช่องอ่าน SD Card ส่วนด้านขวาสุดเป็นพอร์ต USB สำหรับใช้เชื่อมต่อแฟลชไดร์ฟและ HDD External สำหรับนำไฟล์มัลติมีเดียจากข้างนอกมาเล่นผ่านกล่องได้เหมือนแอนดรอยด์แท็บเล็ตทั่วไป พร้อมรองรับการเชื่อมต่อเมาส์ คีย์บอร์ดเพื่อสะดวกต่อการใช้งาน
มาถึงพอร์ตเชื่อมต่อด้านหลังที่ให้มาครอบคลุมทั้ง AV OUT สำหรับทีวีรุ่นเก่า HDMI สำหรับ LCD/LED ที่สามารถจ่ายภาพความละเอียดสูงสุด 480p-1080p พอร์ตแลน และ SPDIF (Optical) สำหรับ bypass สัญญาณเสียง Dolby Digital และ DTS มาให้โฮมเธียเตอร์ถอดรหัสเสียงแบบรอบทิศทางสำหรับการเล่นไฟล์มัลติมีเดียเช่น ภาพยนตร์หรือเพลงได้ (สามารถปรับระบบจ่ายสัญญาณเสียงได้ที่เมนู Setting และเลือกเป็น RAW)
ส่วนช่องรับกระแสไฟ DC ด้วยความที่ภายในเป็นวงจรของแอนดรอยด์แท็บเล็ตที่ใช้กระแสไฟ 5V 2A นอกจากจะใช้อะแดปเตอร์ไฟบ้านที่ให้มาแล้ว ผู้ใช้ยังสามารถนำ Power Bank หรือพอร์ต USB ในรถยนต์และคอมพิวเตอร์ที่สามารถจ่ายไฟ 2A เชื่อมต่อและใช้งานได้อย่างไม่มีปัญหาแน่นอน
แถมภายในกล่อง ทางทีโอทียังจัดเต็มสายสัญญาณภาพมาให้อย่างครบครันตั้งแต่สาย AV OUT ทั้งแบบ CVBS (Composite Video) และ RCA (ขาว แดง เหลือง) ไปถึงสาย HDMI และสายแลนก็มีแถมมาให้ไม่ต้องไปค้นหาให้เสียเวลา
เริ่มต้นใช้งานและฟีเจอร์เด่น
ในส่วนการใช้งานอยากให้ผู้อ่านทุกท่านกดรับชมคลิปวิดีโอด้านบนเพื่อทำความเข้าใจระบบการทำงานและให้เห็นถึงลักษณะการสตรีมมิ่งภาพและเสียงผ่านอินเตอร์เน็ตบ้าน (สามารถใช้กับค่ายอื่นได้ อย่างในวิดีโอรีวิวใช้อินเตอร์เน็ตของ True Online 10Mbps แต่ระบบ TOT IPTV ต้องการความเร็วอินเตอร์เน็ตแค่ 2-3Mbps เท่านั้น) จากนั้นค่อยกลับมาอ่านบทความรีวิวต่อจากนี้ก็จะเห็นภาพรวมที่ชัดเจนมากยิ่งขึ้น
หลังจากเชื่อมต่อกล่อง IPTV นี้เข้ากับทีวีและเปิดเครื่องใช้งานพร้อมเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตเรียบร้อยแล้ว จะเข้ามาสู่หน้าเมนูที่มีการแบ่งหมวดหมู่และไอคอนอย่างชัดเจน โดยผู้ใช้สามารถกดสั่งงานจากรีโมทหรือเชื่อมต่อเมาส์ก็จะมีเคอร์เซอร์ปรากฏขึ้นแบบเดียวกับคอมพิวเตอร์
ซึ่งถ้าผู้ใช้ต้องการรับชมทีวีให้เข้าเมนู ดูทีวีซึ่งสำหรับการเข้าใช้งานครั้งแรกจะต้องทำการ Log in ด้วยยูสเซอร์เนมและรหัสผ่านที่ได้จากการสมัครแพกเกจจาก TOT IPTV
โดยแพกเกจจะแบ่งเป็น 5 กลุ่ม (มีค่าบริการกล่องรายเดือน 150 บาท) ได้แก่
Free Choice ไม่มีค่าบริการช่องรายเดือน มีช่องให้ชม 91 ช่องพื้นฐาน (HD 7 ช่อง)
Choice S เก็บค่าบริการ 290 บาทต่อเดือน มีช่องให้ชม 91 ช่องพื้นฐาน (HD 17 ช่อง) พร้อมช่องพรีเมียม 21 ช่อง
Choice M เก็บค่าบริการ 580 บาทต่อเดือน มีช่องให้ชม 91 ช่องพื้นฐาน (HD 22 ช่อง) พร้อมช่องพรีเมียม 37 ช่อง
Choice L เก็บค่าบริการ 1,300 บาทต่อเดือน มีช่องให้ชม 91 ช่องพื้นฐาน (HD 36 ช่อง) พร้อมช่องพรีเมียม 60 ช่อง
เมื่อเข้าสู่หน้าเมนู “ดูทีวี” พร้อมล็อคอินแพกเกจเรียบร้อยแล้วจะพอกับหน้ารวมช่องรายการที่แบ่งหมวดหมู่ไว้ตั้งแต่ วาไรตี้ ช่อง HD ภาพยนตร์ เพลง เป็นต้น โดยผู้ใช้สามารถเลือกรับชมช่องรายการต่างๆ ได้ตามต้องการหรือถ้าจำเลขช่องได้ก็สามารถกดเลขช่องที่รีโมทได้เลย
สำหรับการสตรีมมิ่งภาพและเสียงผ่านอินเตอร์เน็ต ผู้อ่านหลายท่านอาจกำลังสงสัยว่าแล้วอย่างนี้ต้องใช้เวลาในการโหลด Buffer นานและจะเกิดอาการสะดุดระหว่างรับชมหรือเหมือนกับชมทีวีออนไลน์ทั่วไปบนคอมพิวเตอร์หรือไม่ ส่วนนี้ผม @dorapenguin ได้ทดสอบตลอดหนึ่งอาทิคย์แล้วพบว่า ถ้าอินเตอร์เน็ตสามารถจ่ายความเร็วดาวน์โหลดแค่เพียง 3-5Mbps (ขอแค่ความเร็วระดับนี้แบบคงที่เท่านั้น) อาการที่หลายท่านกังวลกันจะเกิดน้อยมาก เพราะตัวกล่องใช้วิธีลดบิตเรตช่วงเปลี่ยนช่องเพื่อให้ภาพและเสียงปรากฏขึ้นได้เร็วแบบจานดาวเทียม พอช่องเปลี่ยนเสร็จพร้อมภาพปรากฏขึ้น ระบบจะสั่งให้บิตเรตภาพและเสียงถูกดันขึ้นตามค่ามาตรฐานก็คือ ช่อง SD ใช้บิตเรตประมาณ 1,200K ช่อง HD ใช้บิตเรต 1,500K (สังเกตจะได้ยินเสียงชัดและใสขึ้น) ด้วยหลักนี้ทำให้การเปลี่ยนช่องและจัดการ Buffer ช่วงเริ่มต้นทำได้รวดเร็ว แน่นอนถ้ารับชมแบบติดหน้าจอทีวีย่อมเห็นภาพแตกเล็กน้อย แต่ถ้านั่งรับชมในระยะมาตรฐานจะแยกความแตกต่างระหว่างทีวีจากสัญญาณภาพเคเบิลหรือจานดาวเทียมกับ TOT IPTV ได้ยากมาก
อีกทั้งด้วยการเป็น IPTV ทำให้ระบบมีความสามารถในการรับชมทีวีย้อนหลัง (Time Shift) ถึง 72 ชั่วโมง เพียงแค่ระหว่างรับชมช่องที่ต้องดูแบบย้อนหลังแล้วกดปุ่ม EPG ที่รีโมทเท่านั้นจะปรากฏเมนูรายการที่ฉายไปแล้วให้ผู้ใช้สามารถเลือกรับชมได้ตามต้องการ
รวมถึงความสามารถในการกดหยุดรายการสดที่กำลังรับชมอยู่ได้ และกดเล่นต่อจากที่หยุดไว้ได้ทุกช่องด้วย
นอกจากนั้นกล่อง IPTV นี้ยังมาพร้อมระบบ On Demand หรือรับชมภาพยนตร์และรายการตามสั่งคล้ายการเช่ามาชมทั้งแบบฟรีและจ่ายเงินแบบ 1 เดือนในราคา 40 บาทต่อเรื่อง โดยใช้บัตร TOT Prepaid ที่สามารถหาซื้อได้จาก TOT Shop และ 7-11 ทุกสาขา
และสำหรับผู้ใช้ที่ชอบเดินทางบ่อยๆ ทางทีโอทีก็มีแอปฯ TOTiptv by MeTV บนสมาร์ทโฟนและแท็บเล็ตทั้งแอนดรอยด์และไอโอเอส ที่สามารถเข้าใช้งานด้วยรหัสผ่านเดียวกันกับกล่อง จากนั้นก็สามารถรับชมช่องรายการตามแพกเกจได้แบบเดียวกับที่รับชมผ่านกล่องทั้งหมด หรือระหว่างรับชมผ่านกล่องอยู่ก็สามารถใช้รหัสผ่านแพกเกจเข้า Log in บนสมาร์ทโฟนดูช่องอื่นๆ ได้พร้อมกันไปด้วย
จบจากเรื่องการรับชมทีวี มาถึงความสามารถพิเศษจากการเป็นระบบแอนดรอยด์อย่างแรกก็คือ สามารถติดตั้งแอปฯ จาก App Store ของทีโอทีได้ตามต้องการ (ไม่มี Google Play Store มาให้ แต่สามารถหาวิธีติดตั้งได้) ทำให้ตัวกล่องสามารถเล่นแอปฯ เหมือนแท็บเล็ตและสมาร์ทโฟนได้เช่น Facebook, Twitter หรือแม้กระทั่ง Line หรือเกมก็ติดตั้งได้
รวมถึง Web Browser ก็มีมาให้และสามารถเข้าสู่เว็บไซต์ต่างๆ ได้อย่างสมบูรณ์ทั้งภาษาไทยและหน้า Layout ทั้งหมด แม้แต่ Adobe Flash Player ก็สามารถเล่นได้หรือจะรับชมภาพยนตร์ออนไลน์ผ่านหน้าเว็บก็สามารถทำได้แบบเดียวกับสมาร์ทโฟนและแท็บเล็ต
มาถึงจุดเด่นสุดท้ายกับ Killer Feature ก็คือสามารถเล่นไฟล์มัลติมีเดีย โดยเฉพาะ mkv blu-ray rip 1080p พร้อมเสียง Digital Surround ผ่าน SPDIF ได้อย่างยอดเยี่ยม เพียงแต่แอปฯ Movie Player ที่ติดตั้งมาพร้อมกับกล่องอาจทำหน้าที่ได้ไม่ดีเพราะ Subtitle จะตัวเล็กมาก ต้องไปดาวน์โหลด MX Player จาก TOT AppStore มาใช้จะแก้ปัญหาเหล่านี้ได้
โดยไฟล์ที่ผมทดสอบเป็น blu-ray rip 1080p ขนาดไฟล์ 14GB สามารถเล่นได้อย่างไม่กระตุก แต่ถ้าเป็นไฟล์ Full Rip แบบ 40-50GB จะไม่สามารถเล่นได้ครับ เพราะกระตุกสุดๆ
และภาพนี้คงเป็นหลักฐานได้ดีครับว่า เมื่อผมต่อสาย SPDIF (ซื้อแยก ไม่มีแถม) จะสามารถส่งสัญญาณเสียงดิจิตอล DTS แบบรอบทิศทาง 5.1CH เข้าไปให้เครื่องเสียงถอดรหัสได้ โดยผมทราบมาว่าสัญญาณเสียงที่กล่อง MeTV นี้รับจะได้แค่ Dolby Digital และ DTS 5.1CH เท่านั้น
ทดสอบประสิทธิภาพและสรุป
อย่างที่ผมบอกไปว่าจุดประสงค์หลักของกล่อง IPTV นี้ก็คือใช้รับชมอินเตอร์เน็ตทีวีจากแพกเกจของทีโอที ซึ่งในส่วนนี้ถือว่าตัวกล่องและบริการจากทีโอทีทำได้ดีเกินความคาดหมาย เพราะผมเองมีประสบการณ์ไม่ดีกับระบบสตรีมมิ่งทีวีผ่านอินเตอร์เน็ตที่ช้าและดึงอินเตอร์เน็ตมาก แต่สำหรับกล่อง MeTV นี้กลับไม่เป็นอย่างนั้น เพราะระบบจัดการได้ค่อนข้างดีและรวดเร็วใช้ได้ แต่อาจจะมีข้อสังเกตที่เกิดขึ้นบางครั้งเช่น บางที Subtitle กับเสียงไม่ตรงกันในช่อง StarWorld HD หรือแม้แต่สัญญาณภาพขาดหายไปทั้งที่อินเตอร์เน็ตผมยังวิ่งเต็มสปีดอยู่ ซึ่งคาดว่าจะเป็นที่ Server ของทีโอที รวมถึงการปรับความดังเสียงแต่ละช่องไม่เท่ากัน อย่างวันที่ผมเขียนบทความรีวิวชิ้นนี้อยู่ เสียงช่อง 7 เบาและขาดมิติเสียงมาก (ประมาณบิตเรตวิ่งต่ำกว่า 800K แล้วเสียงเหมือนฟังจากวิทยุ AM ตลอดเวลา 20 นาทีที่ผมนั่งชมอยู่) ไม่เหมือนสัญญาณภาพจากดาวเทียมที่ชัดเจนดี ซึ่งปัญหาเหล่านี้คงต้องให้ทีโอทีช่วยปรับปรุงบริการต่อไป
ส่วนฟีเจอร์เสริมที่กล่องรุ่นนี้สามารถทำได้ก็เป็นเหมือนพระรองที่แสดงได้ดีจนแย่งบทพระเอกได้เลยทีเดียว โดยเฉพาะ Killer Feature เล่นไฟล์มัลติมีเดียพร้อมเสียง Digital ผ่าน USB ที่ผมมองว่าใช้งานง่ายมากและมีความยืดหยุ่นสูงไปถึงความสามารถแบบแอนดรอยด์ที่ผู้ผลิตไม่ทิ้งไปไหน เช่น ต่อเมาส์ คีย์บอร์ด เล่น Web Browser หรือหาไฟล์ apk มาติดตั้งจนถึงขั้นรูทระบบได้
สิ่งเหล่านี้ทำให้กล่อง Set top Box TOT IPTV (MeTV) มีความน่าสนใจมากกว่าคู่แข่งและทีโอทีก็จัดให้เป็นสิทธิพิเศษเฉพาะลูกค้าอินเตอร์ของทีโอทีเท่านั้น เพราะฉะนั้นผู้ใช้ทั่วไปที่สนใจกล่องรุ่นนี้ก็คงต้องยอมสมัครบริการอินเตอร์ของทีโอทีอย่างเดียวถึงจะได้กล่องรุ่นนี้มาใช้อย่างถูกต้อง
สรุปข้อดีข้อสังเกตของ TOT IPTV (MeTV)
ข้อดี
- เป็นแอนดรอยด์ 4.0.4 ที่สามารถใช้งานได้แบบสมาร์ทโฟนและแท็บเล็ต เช่น ติดตั้งแอปฯ เพิ่มเติม
- มีเว็บบราวเซอร์ในตัว แสดงผลได้สมบูรณ์
- มี AppSotre ในตัว สามารถหาไฟล์ apk มาติดตั้งต่างหากได้แบบแอนดรอยด์
- เป็นกล่องมัลติมีเดียได้ทุกรูปบบทั้งเล่นไฟล์ภาพยนตร์ เพลง รูปภาพ เช็คเมล์ โซเชียล
- ใช้งานง่าย แค่เปิดกล่อง ต่ออินเตอร์เน็ตเจ้าไหนก็ได้ และ Login ครั้งแรกก็ดูทีวีได้แล้ว
- สามารถชมรายการย้อนหลังและหยุดชั่วคราวได้
- ใช้ความเร็วอินเตอร์เน็ตแค่ 3-5Mbps เท่านั้นก็เล่นได้ลื่นไหลแล้ว
- UI ใช้งานง่าย และดูดีกว่า MeTV รุ่นแรกมาก
- พอร์ตเชื่อมต่อครบครัน
- bypass สัญญาณเสียง Dolby Digital และ DTS ไปโฮมเธียรเตอร์ได้
- สามารถรับชมผ่าน คอมพิวเตอร์ สมาร์ทโฟนและแท็บเล็ตได้พร้อมกันกับรับชมผ่านกล่อง โดยใช้ Username และ Password ชุดเดียวกัน
ข้อสังเกต
- กำจัดสิทธิ์เฉพาะลูกค้าทีโอทีเท่านั้น ไม่มีขายขาดเฉพาะ Set top Box
- ปัญหาการสตรีมมิ่งต่างๆ เช่น Subtitle ไม่ตรงกับเสียงพูด หรือภาพและเสียงไม่ตรงกัน ซึ่งยังมีให้เห็นเป็นระยะๆ และปัญหามาจาก Server ทีโอทีเอง
Company Related Link :
TOT IPTV
CyberBiz Social