หากต้องการมองหาเครื่องพิมพ์ที่ครอบคลุมการใช้งานทั้งแฟกซ์ พิมพ์ สแกน และถ่ายเอกสารสักเครื่องเพื่อใช้งานที่บ้าน หรือใช้ที่สำนักงานเครื่องพิมพ์ Fuji Xerox DocuPrint CM215FW แบบเลเซอร์สี น่าจะเป็นอีกตัวเลือกหนึ่งที่โดดเด่นด้านคุณภาพของงานพิมพ์ ด้วยความละเอียดของเม็ดสีกว่า 1200x2400 dpi พร้อมหัวพิมพ์อัจฉริยะ S-LED ที่ควบคุมงานพิมพ์ได้อย่างมีประสิทธิภาพและช่วยให้ระบบการพิมพ์เงียบเป็นพิเศษ แต่กระนั้นสิ่งสำคัญของการเลือกเครื่องพิมพ์ที่จะต้องใช้งานอยู่ตลอดทั้งวันคือคุณสมบัติของการประหยัดพลังงานที่ต้องบอกว่าเครื่องรุ่นนี้ตอบโจทย์ได้ทั้งเรื่องของพลังงานและปริมาณหมึกพิมพ์ได้เป็นอย่างดี
การออกแบบและสเปก
DocuPrint CM215FW ถูกออกแบบภายใต้มาตรฐานเครื่องพิมพ์ขนาดกลางทั่วไปที่สามารถใช้งานได้ครบ 4 ฟังก์ชันในเครื่องเดียว ทั้งคุณสมบัติการพิมพ์ การสแกน การส่งแฟกซ์และการถ่ายเอกสารอย่างสะดวก ตัวเครื่องทำจากพลาสติกอย่างดีสีขาวเป็นหลัก ขนาดพอเหมาะด้วยความกว้าง 410 มม. ยาว 389 มม.และสูง 33 มม. ช่วยให้การจัดวางเข้ามุมได้อย่างสะดวก
ด้านหน้า - มีแผงปุ่มควบคุมพร้อมหน้าจอโมโนโครมขนาด 3 นิ้ว(วัดตามมุมแทยง) เหนือจอขึ้นมาเล็กน้อยจะเห็นชื่อรุ่น DocuPrint CM215fw บนพื้นสีดำเด่นชัด แผงควบคุมมีการแบ่งกลุ่มการใช้งานอย่างชัดเจนทั้งในส่วนของด้านซ้ายสำหรับการบันทึกเลขหมายโทรสาร ถัดมาเป็นบริเวณหน้าจอที่มีปุ่มเลือกฟังก์ชันการใช้งานทั้ง 4 อย่างเรียงอย่างสวยงาม เมื่อเลือกใช้ฟังก์ชันใดจะมีสีแสดงสถานะใช้งานอย่างชัดเจน
ย้อนมาที่ด้านซ้ายจะมีปุ่มการเชื่อมต่อไร้สายแบบไวไฟพร้อมไฟแสดงสถานะเช่นกัน ด้านขวาของจอมีปุ่มมัลติฟังก์ชัน ปุ่มย้อนกลับ ปุ่มสมุดโทรศัพท์ ปุ่มตั้งค่าระบบและปุ่มแสดงสถานะพิมพ์ของเครื่อง
ขณะที่ด้านขวาของเครื่องนอกจากจะมีปุ่มที่เกี่ยวกับการกดเลขหมายโทรศัพท์แล้ว ยังมีปุ่มถ่ายเอกสารสีเขียวให้เห็นเด่นชัด ปุ่มหยุดและปุ่มล้างการใช้งานที่ตั้งค่าไว้ และที่สำคัญมีปุ่มประหยัดพลังงาน และไฟแสดงสถานะโอนย้ายข้อมูลและไฟแสดงสถานะเมื่อเกิดข้อผิดพลาดระหว่างพิมพ์
ถัดมาด้านล่างเมื่อเปิดฝาครอบออกจะเห็นช่องใส่กระดาษมาตรฐานขนาด A4 ที่ใส่ได้มากถึง 150+10 แผ่น สามารถดึงก้านตั้งกระดาษออกมาเพื่อนำกระดาษเข้าวางได้อย่างสะดวกตามขนาดของกระดาษ ทั้งนี้นอกจากก้านกั้นกระดาษแล้วยังมีฝาครอบพลาสติกเพื่อป้องกันกระดาษสกปรกด้านบนอีกด้วย
เหนือขึ้นไปบนช่องกระดาษออกสามารถดึงแผ่นกระดาษออกมาเพื่อป้องกันกระดาษตก และเมื่อเกิดข้อผิดพลาดเรื่องกระดาษสามารถเปิดเครื่องบริเวณนี้ขึ้นเพื่อแก้ปัญหาได้ทันที ขณะที่ด้านขวามีจะมีโลโก Fuji Xerox พร้อมโลโกให้เห็นอย่างสวยงาม
มุมซ้ายด้านล่างของเครื่องจะเห็นช่องเสียบ USB 2.0 สำหรับการเชื่อมต่อหน่วยความจำภายนอก เพื่อสั่งงานพิมพ์และสแกนได้อย่างสะดวก
ด้านขวา - จะเห็นปุ่มกดเปิด-ปิดเครื่องอยู่มุมล่างด้านซ้าย และเมื่อเปิดฝาครอบออกจะเห็นช่องเก็บสีขนาดใหญ่ 4 สี โดยรองรับตลับหมึกมาตรฐานของฟูจิซีรอกที่แม่สีทั้งสามสามารถพิมพ์ได้มากกว่า 1,400 แผ่นต่อสี และสีดำพิมพ์ได้กว่า 2,000 แผ่น พร้อมกันนี้ด้านบนยังมีช่องระบายอากาศขนาดเล็กสำหรับระบายความร้อนที่เกิดจากการพิมพ์
ด้านซ้าย - มีเพียงช่องระบายอากาศขนาดใหญ่ สำหรับระบายความร้อนที่เกิดขึ้นจากกระบวนการพิมพ์นั่นเอง
ด้านหลัง - มีสติ๊กเกอร์แสดงชื่อรุ่น ยี่ห้อ พร้อมรายละเอียดของขนาดกระแสไฟฟ้าที่เครื่องต้องการ ถัดมาที่ด้านขวาจะเห็นพอร์ตสำหรับต่อสายซึ่งมีทั้งช่องต่อสายโทรศัพท์ทั้งเข้าและออก ช่องต่อสายแลนเพื่อเชื่อมต่อเครื่องพิมพ์เข้าสู่เครือข่าย และสุดท้ายเป็นพอร์ตพรินเตอร์ยูเอสบีสำหรับเชื่อมต่อเครื่องเข้ากับคอมพิวเตอร์นั่นเอง ขณะที่ด้านซ้ายจะมีช่องต่อสายไฟขนาดใหญ่สำหรับกระแสไฟฟ้าหลักเท่านั้น
ด้านบน - มีช่องป้อนกระดาษอัตโนมัติ รองรับกระดาษได้ครั้งละ 15 แผ่น ขนาดกระดาษ 4 ขนาด ได้แก่ A5 B5 A4 และ 8.5 นิ้ว (Letter) สามารถเลือกปรับที่กั้นกระดาษได้ตามต้องการ โดยระบบการป้อนกระดาษอัตโนมัติจะดูดกระดาษเข้าจากด้านบนและคายกระดาษออกทางด้านล่าง สำหรับเพิ่มความสะดวกในการส่งแฟกซ์และสแกนเก็บเป็นไฟล์ดิจิตอลหลายแผ่นในครั้งเดียว
DocuPrint CM215FW เป็นเทคโนโลยีการพิมพ์ขนาด A4 Color Multifunction LED Printer มีความเร็วของหน่วยประมวลผล 295MHz พร้อมระบบป้องกันความปลอดภัยภายในแบบ Host Based มีหน่วยความจำขนาด 128MB ความเร็วในการพิมพ์สี 12 แผ่น/นาที และความเร็วในการพิมพ์ขาว-ดำ 15 แผ่น/นาที ความละเอียดในการพิมพ์ 1,200 x 1,200 dpi (จุดต่อตารางนิ้ว) มีพอร์ตเชื่อมต่อ USB 2.0 ที่ความเร็ว 10/100Base-TX รองรับไวไฟ 802.11b/g ขนาดกระดาษ A4, Letter, Legal, US Folio, Offcio, JIS B5, ISO B5 ถาดบรรจุกระดาษได้ 150 แผ่น + 10 แผ่นต่อครั้ง ขณะที่ช่องป้อนกระดาษอัตโนมัติด้านบนรองรับกระดาษได้ครั้งละ 15 แผ่น
ความละเอียดในการถ่ายเอกสารสูงถึง 600 x 600 dpi (จุดต่อตารางนิ้ว) ความละเอียดในการสแกนสูงสุด 1,200 x 1,200 dpi (Optical) / สูงถึง 4,800 x 4,800 dpi (จุดต่อตารางนิ้ว) สามารถจัดเก็บไฟล์ในการสแกนผ่านเครื่องสู่พื้นที่เก็บข้อมูลได้โดยตรง ผ่านสาย USB หรือผ่านโปรแกรมได้อย่างสะดวก โดยสามารถเลือกชนิดไฟล์ที่สแกนได้ 3 แบบ ได้แก่ PDF JPEG TIFF ขณะที่ความเร็วในการรับ-ส่งแฟกซ์แบบโมเด็มอยู่ที่ 33.6 kbps รองรับตลับหมึกแยกสีรหัส CT201591, CT201592, CT201593, CT201594
ฟีเจอร์ที่น่าสนใจ
ฟังก์ชันการเชื่อมต่อไวไฟเข้าสู่เน็ตเวิร์ก ทำให้คอมพิวเตอร์ทุกเครื่องที่เชื่อมต่อเน็ตเวิร์กเดียวกันสามารถใช้งานเครื่อง DocuPrint CM215FW ได้อย่างสะดวก แน่นอนว่าประโยชน์แฝงในมุมของการจัดวางพื้นที่ช่วยลดจำนวนสายที่ยุ่งยากและสะดวกต่อการเคลื่อนย้ายหรือปรับเปลี่ยนสถานที่วางเครื่องในอนาคต ทั้งนี้รูปแบบการเชื่อมต่อผ่านระบบไวไฟสามารถเลือกได้ว่าจะติดตั้งเครื่องรูปแบบใด โดยสามารถเข้าไปตั้งการเชื่อมต่อแบบด้วยตนเองหรือแบบระบบอัตโนมัติด้วยปุ่ม WPS ทีต้องกดปุ่มบนเครื่องและปุ่มบนเราท์เตอร์เพื่อเชื่อมต่อเข้าหากันได้อย่างอัตโนมัติ
ระบบเสียงที่เงียบในขั้นตอนกระบวนการพิมพ์ดูจะเป็นที่ถูกอกถูกใจเป็นอย่างมาก เนื่องจากเครื่องขนาดใหญ่เช่นนี้ต้องใช้ความร้อนแบบเลเซอร์เพื่อทำให้ผงหมึกติดกระดาษอย่างรวดเร็ว ความร้อนที่สะสมเมื่อพิมพ์เป็นจำนวนมาก ย่อมต้องใช้การระบายความร้อนของพัดลมที่ทรงประสิทธิภาพ แต่กระนั้นเสียงที่ได้จากกระบวนการดังกล่าวกลับเบาจนน่าประทับใจ นั่นอาจจะเป็นเพราะความสามารถของ LED ที่ช่วยให้ความร้อนเฉพาะจุดได้ดีกว่าทำให้เกิดความร้อนสูญเปล่าที่ต้องระบายน้อยกว่าก็เป็นได้
คุณภาพของสีที่ได้จากเทคโนโลยี IReCT (Image Registration Control Technology) ซึ่งสามารถควบคุมการพิมพ์ภาพดิจิตอลด้วยความละเอียดสูงถึง 1,200 x 2,400 dpi และถือว่ามีความแม่นยำของค่าสีที่ดีพอควร โดยระบบจะแก้ไขค่าสีที่ถูกต้องให้ก่อนการพิมพ์ จึงทำให้สีสันดูสวยสมจริง
ระบบการพิมพ์อัจฉริยะ S-LED (Self-Scanning Light Emitting Diode) ควบคุมด้วยโปรเซสเซอร์ที่มีความเร็วของการประมวลผล 295MHz ช่วยให้สามารถสแกนภาพได้ทั้ง 2 ทิศทาง อีกทั้งความรวดเร็วของการพิมพ์กระดาษด้วยประสิทธิภาพที่มากขึ้นแม้ว่าจะเป็นภาพสีขนาด A4 ตลอดทั้งแผ่นก็ตาม
ขนาดของตลับหมึกที่ใหญ่และสามารถพิมพ์ได้มากกว่า 1,400 แผ่น/สี ช่วยลดขั้นตอนในการเปลี่ยนตลับหมึกระหว่างใช้งานได้พอสมควร และอีกมุมที่น่าสนใจคือวิธีการเปลี่ยนตลับหมึกที่ง่ายเพียงการเสียบให้เข้าที่ตามสีที่กำหนดเท่านั้น ช่วยให้ใครก็สามารถเปลี่ยนหมึกได้โดยไม่ยุ่งยากอีกต่อไป อีกทั้งตลับหมึกมีการแยกสีเป็นตลับอย่างชัดเจนเมื่อสีใดหมดสามารถแยกเปลี่ยนเฉพาะสีได้อย่างสะดวก
ทดสอบประสิทธิภาพ
ตัวอย่างงานพิมพ์ 200/300/400/600 dpi กดที่ภาพเพื่อดูขนาดใหญ่
การทดสอบพิมพ์หน้าสีที่มีขนาด A4 ผ่านระบบ USB มีความรวดเร็วในการพิมพ์ตามสเปกที่แจ้งมา และเสียงที่เกิดขึ้นระหว่างการพิมพ์ก็เงียบเป็นที่ประทับใจ ขณะที่ทดลองสั่งการพิมพ์ผ่านระบบไวไฟมีความเร็วในการพิมพ์ไม่ต่างกัน หากแต่ขั้นตอนการรับส่งไฟล์ใช้เวลามากขึ้นเล็กน้อย แต่ก็ถือว่าใช้ได้ดีในแบบไร้สาย ภาพที่ได้คมชัดตามความละเอียดของภาพต้นฉบับ
ตัวอย่างงานสแกนแบบ Jpeg ขนาด 600 dpi จากถาดด้านบนและกระจก
ตัวอย่างงานสแกนแบบ TIFF ขนาด 600 dpi จากถาดด้านบนและกระจก
การทดสอบด้านการสแกนผ่านสาย USB เมื่อกดเข้าสู่โหมดการแสกน พบขั้นตอนการเรียกใช้การสแกนที่หลายขั้นตอนอยู่พอสมควร ขณะที่การสแกนสามารถเลือกความละเอียดของการสแกนได้สูงสุด 1,200 x 1,200 dpi ซึ่งส่งผลให้ขนาดของไฟล์ที่ได้มีขนาดใหญ่และใช้เวลานานในกระบวนการ แนะว่าควรใช้การสแกนที่ไม่เกิน 600 dpi หากไม่จำเป็นจริงๆ โดยไฟล์ตัวอย่างของการสแกนด้วยขนาดความละเอียดไม่เกิน 600 dpi สามารถดูได้จากตัวอย่างข้างล่างนี้
ตัวอย่างงานถ่ายเอกสาร กดที่รูปเพื่อชมภาพขนาดใหญ่
การทดสอบระบบถ่ายเอกสาร ลองทำการถ่ายภาพสีขนาด A4 พบว่าความเร็วของการถ่ายสามารถทำเวลาได้ดีน่าประทับใจ ความละเอียดของภาพที่ได้ไม่ต่างจากภาพต้นฉบับแต่อย่างใด สามารถวางกระดาษบนแท่นแล้วกดเพียงปุ่มเดียวได้เลยทันที
การทดสอบการรับ - ส่งแฟกซ์สามารถทำได้อย่างปกติ โดยความเร็วระดับโมเด็มทำให้คุณภาพของไฟล์ปลายทางมีความลดทอนตามคุณภาพของสัญญาณ ซึ่งไฟล์ที่สามารถส่งได้จะเป็นไฟล์ขนาดมาตรฐานเท่านั้น
จุดขาย
- เครื่องเงียบและเร็วด้วยประสิทธิภาพของชุดพิมพ์แบบ S-LED
- เชื่อมต่อโครงข่ายแบบไร้สาย
- ระบบแก้ค่าสีให้ถูกต้องของ IReCT ช่วยให้ได้สีสันสมจริงมากขึ้น
- ความละเอียดของเม็ดสีที่มากถึง 1,200 x 2,400 dpi
ข้อสังเกต/ตอบจุดขายหรือไม่
- การเชื่อมต่อแบบไร้สายมีข้อจำกัดเรื่องการสแกนที่บางครั้งเกิดอาการผิดพลาด
- ราคาตลับหมึกราว 2,000 บาท/สี อาจจะเป็นทางเลี่ยงมากกว่าทางเลือก
- การสแกนด้วยถาดบนภาพที่ได้มีลักษณะเป็นคลื่นทำให้คุณภาพที่ได้ไม่เท่าแบบกระจก
ฟันธง! ความคุ้มค่ากับเม็ดเงินที่เสียไป
เรื่องของประสิทธิภาพของเครื่องทั้งความเร็วและความเงียบถือว่าคุ้มค่า คุ้มราคา โดยราคาล่าสุดเว็บไซต์บางแห่งทำโปรโมชันลดราคาเครื่องลงมาอยู่ที่ 13,900 บาท ซึ่งถือว่าต่ำมากเมื่อเทียบกับประสิทธิภาพที่จะได้รับจากเครื่องเลเซอร์พริ้นสี ที่รองรับการใช้งานแบบเครือข่ายไร้สาย
คุณภาพด้านงานพิมพ์ถือว่ามีสีสันสดสวยสมจริงด้วยเทคโนโลยีล่าสุดที่นำเสนอ ฟันธงว่าคุ้มค่าหากจะซื้อเพื่อการใช้งานสำหรับองค์กร แต่หากเป็นการใช้งานตามบ้านไม่แนะนำเท่าไหร่ เพราะท้ายที่สุดแล้วการใช้งานที่ไม่มากพออาจจะส่งผลให้คุณภาพของผงหมึกที่ค้างอยู่ในเครื่องนานเกินไปอาจส่งผลร้ายต่อระบบของเครื่องและคุณภาพการพิมพ์ในอนาคตได้
Company Related Link :
Fuji Xerox
CyberBiz Social