หลังจากที่เอชทีซีได้เปิดตัวสมาร์ทโฟนภายใต้ชื่อซับแบรนด์อย่าง One Series มาแล้ว คราวนี้ถึงเวลาที่ซับแบรนด์เดิมอย่าง Desire จะได้กลับมาผงาดบ้าง
และการกลับมาของตระกูล Desire ที่กลับมาครั้งนี้เป็นการลุยกลุ่มสมาร์ทโฟนระดับล่าง เหมาะกับผู้ใช้ที่งบประมาณมีจำกัด และสมาร์ทโฟนรุ่นที่กำลังกล่าวถึงอยู่นี้มีชื่อว่า HTC Desire C
การออกแบบและสเปกเครื่อง
สิ่งหนึ่งที่เป็นจุดเด่นของเอชทีซีมาแต่ไหนแต่ไร นั่นคือเรื่องของงานออกแบบ ที่ใช้วัสดุที่ค่อนข้างดีเยี่ยม สำหรับรุ่นนี้ Desire C จะเป็นอีกครั้งหนึ่งที่เอชทีซีได้ผลิตสมาร์ทโฟนมือถือที่มีขนาดเล็ก โดยวัสดุประกอบงานเป็นพลาสติก ด้านหน้าส่วนกรอบจะเป็นสีเงินล้อมรอบ ด้านหลังเป็นยางมีไว้สำหรับกันลื่นโดยเฉพาะ แต่ทั้งนี้ตรงส่วนที่เป็นยางค่อนข้างมีรอยนิ้วมือง่าย รวมไปถึงรอยขีดข่วนต่างๆ ด้วย บริเวณกล้องมีลูกเล่นเพียงเล็กน้อย ที่เลนส์จะมีขอบสีแดงล้อมรอบ เพื่อให้ตัดกับฝาหลังสีดำ
ด้านหน้า - มาพร้อมขนาดหน้าจอ 3.5 นิ้ว เป็นแบบ LCD ความละเอียด 320x480 พิกเซล ซึ่งถ้าใครที่คุ้นชินกับสมาร์ทโฟนรุ่นสูงๆ มาก่อนก็คงจะเห็นได้ชัดว่า หน้าจอของรุ่น Desire C นั้นไม่ค่อยละเอียดนัก ปุ่มสัมผัสด้านล่าง Capacitive
ด้านหลัง - กล้องความละเอียด 5 ล้านพิกเซล แต่ไม่มีแฟลช วัสดุเป็นส่วนยาง ด้านล่างใช้เทคโนโลยี ระบบเสียง Beats Audio
ด้านซ้าย - ช่องเสียบไมโครยูเอสบี
ด้านขวา - ปุ่มเพิ่ม/ลดเสียง
ด้านบน - ช่องเสียบหูฟัง 3.5 มม. ปุ่มเปิด/ปิดเครื่อง พร้อมที่แกะฝาหลังเครื่อง
ด้านล่าง - ไมโครโฟนสำหรับสนทนา
สำหรับสเปกโดยภาพรวมของ Desire C จะมาพร้อมกับชิปประมวลผล Qualcomm Single Core 600 MHz หน่วยความจำสำรอง 512MB หน่วยความจำเครื่อง 4GB รองรับไมโครเอสดีสูงสุด 32GB ส่วนระบบปฏิบัติการน่าสนใจมาก เพราะ Desire C ถูกจัดให้เป็นสมาร์ทโฟนรุ่นเล็กแต่มาพร้อมกับระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์ 4.0 Ice Cream Sandwich เคาะราคาจำหน่าย 6,900 บาท
ฟีเจอร์ที่น่าสนใจ
ถึงแม้ว่าจะเป็นระบบปฏิบัติการ Ice Cream Sandwich ก็จริง แต่ว่า Desire C รุ่นนี้ ไม่มีการใส่กล้องหน้าเข้ามา ทำให้ตัวเครื่องจะไม่สามารถใช้ฟีเจอร์บางส่วนที่ สมาร์ทโฟนรุ่นอื่นที่มีกล้องหน้า และเป็นแอนดรอยด์ 4.0 ใช้ได้อย่างการวิดีโอคอลล์ หรือการปลดล็อกเครื่องด้วยฟีเจอร์ Face Unlock ได้
App Drawer - หน้าตาก็จะเหมือนกับมือถือเอชทีซีทั่วๆ ไป ด้านล่างมีแท็บ แอปฯทั้งหมด แอปฯที่ใช้งานบ่อย และแอปฯที่เพิ่งดาวน์โหลดลงเครื่องสดๆ ร้อนๆ ล่าสุด
Personalize - ส่วนนี้เป็นส่วนการของปรับแต่งหน้าตาของเครื่อง ไม่ว่าจะเป็น Scene, Skin, Wallpaper ซึ่งผู้ใช้สามารถดาวน์โหลดจากเอชทีซีได้โดยตรง ด้านล่างจะมีแท็บสำหรับการปรับแต่งในเรื่องของเสียง ตั้งแต่ริงโทน เสียงนาฬิกาปลุก หรือเสียงข้อความแจ้งเตือน
โทรศัพท์ - หน้าตาก็จะเหมือนๆ กับสมาร์ทโฟนของ HTC รุ่นอื่นๆ ตั้งแต่ซีรีส์ One แต่เรื่องของการโทรเข้า-ออก จากการใช้งานจริงพบว่า เสียงของคู่สนทนาที่ผู้ใช้จะได้ยินนั้นค่อนข้างเบา และไม่ค่อยชัด ทำให้การสนทนาในแต่ละครั้ง จะต้องพูดกับคู่สายว่า ‘อะไรนะ’ หลายครั้ง
อินเทอร์เน็ต - ความสามารถพื้นฐานเหมือนกับเบราว์เซอร์ของเอชทีซีทั่วๆ ไป ซูมเข้า-ออกได้ มีระบบการตัดคำ ใช้งานได้ทั้งแนวตั้งและแนวนอน แต่ถ้าไม่ถูกใจก็สามารถติดตั้ง Chrome Browser จากกูเกิล เพลย์มาใช้งานได้ ซึ่งจะมีความสามารถที่หลากหลายกว่า
กล้อง - ในส่วนนี้ HTC ได้มีการลดทอนความสามารถบางส่วนลงไป เช่น แฟลช และฟังก์ชันในการถ่ายภาพก็หายไป เช่น โหมดการถ่ายภาพแบบ HDR และโหมดการถ่ายภาพต่อเนื่อง ก็จะไม่มีใน Desire C ทำให้ผู้ใช้ที่ชื่นชอบฟังก์ชันดังกล่าวข้างต้น คงจำเป็นต้องหารุ่นอื่นมาเป็นสมาร์ทโฟนคู่ใจ
แบตเตอรี่ - จากการทดสอบ แบตเตอรี่ของเครื่องที่ HTC ให้มา 1230mAh ด้วยเครื่องทดสอบนี้ ใช้งานหลักๆ จะเป็นเฟซบุ๊ก ทวิตเตอร์ มีถ่ายภาพและเล่นเกมบ้าง ถ้าไม่หนักมากก็สามารถใช้งานได้วันนึงเลยทีเดียว
ทดสอบการเล่นเกม - ด้านการเล่นเกม Desire C สามารถเล่นเกมที่มีกราฟิกที่สูงในระดับหนึ่งได้ จากการทดสอบด้วยเกม Samurai Vengeance ก็ใช้งานได้ไม่กระตุกมาก ยังให้อรรถรสในการเล่นเกมได้ดีอยู่ระดับหนึ่ง
ด้านการทดสอบด้วยผลทดสอบต่างๆ Quadrant Benchmark ได้ผลคะแนนทดสอบ 1335 ทดสอบด้วย Vellamo ได้ 539 คะแนน ทดสอบด้วย NenaMark ได้ 52.4fps และ NenaMark2 ได้ไป 15.8fps
จุดขาย
เป็นแอนดรอยด์ 4.0 Ice Cream Sandwich และอินเตอร์เฟส Sense 4
ราคาประหยัด
ตัวเครื่องขนาดเล็ก พกพาได้ง่าย และมีน้ำหนักเบา
ระบบฟังเพลงเป็น Beats Audio
ข้อสังเกต
การถ่ายภาพยังไม่ดี โดยเฉพาะ Fixed Focus ที่ทำให้การใช้งานยากขึ้น, ไม่มีแฟลช และฟีเจอร์ HDR, โหมดการถ่ายภาพต่อเนื่องถูกตัดออกไป
แยกเครื่องข่าย 3G ออกเป็น 2 รุ่น คือรุ่น 850/900 ซึ่งเพื่อความสะดวกของผู้ใช้ไม่ควรจะมีแยก
ฟันธงลงประเด็น
สำหรับ HTC Desire C เป็นสมาร์ทโฟนที่รูปร่างหน้าตาน่ารัก ตัวเครื่องมีน้ำหนักเบา เหมาะแก่การพกพาไปใช้งานได้ในทุกๆ สถานที่ อีกทั้งการใช้งานโดยทั่วไปก็สามารถใช้งานได้ในระดับหนึ่งที่ไม่ได้น่าเกลียดมากนัก (ตามมาตรฐานราคาเครื่อง) แต่ที่น่าเสียดายเล็กน้อยตรงที่ตัวเครื่องใช้ชิปประมวลผลที่มีความเร็วพื้นฐานอยู่ที่ 600 MHz ถ้าเครื่องนี้มีความเร็วเครื่องเบื้องต้นให้มา 800 MHz คงจะเป็นเรื่องที่ดีกว่านี้
ในส่วนของหน้าจอประมวลผล อย่างที่บอกไว้ข้างต้นว่า ใครที่เคยใช้สมาร์ทโฟนรุ่นท็อป หรือรุ่นรองๆ มาก่อน แล้วสังเกตหน้าจอของ Desire C คงพบว่าหน้าจอละเอียดค่อนข้างน้อย ทำให้ความน่าใช้ของรุ่นนี้ก็จะลดลง รวมถึงการที่ตัวเครื่องไม่มีกล้องหน้ามาให้ ทำให้ผู้ใช้อาจจะไปเล็งสมาร์ทโฟนค่ายอื่นๆ เช่นจากประเทศจีน ที่มีราคาไล่เลี่ยกับ HTC แต่มีกล้องหน้ามาให้ จุดนี้อาจจะทำให้ Desire C เสียเปรียบก็เป็นได้
แต่ทั้งนี้ Desire C ก็จะมีข้อได้เปรียบที่เหนือกว่าคู่แข่งรายอื่นๆ ในเซกเมนต์เดียวกัน ตรงที่ Desire C ใช้ระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์ 4.0 Ice Cream Sandwich พร้อมทั้งยังมาพร้อมกับเทคโนโลยี Beats Audio ที่ทำให้การฟังเพลงจากสมาร์ทโฟนรุ่นนี้จะได้รับเสียงเบสแน่นๆ จาก Beats อีกด้วย
ด้านการอัปเกรดระบบปฏิบัติการจากแอนดรอยด์ 4.0 Ice Cream Sandwich ให้เป็น Jelly Bean ถ้าดูจากสเปกเครื่อเบื้องต้นแล้ว คงเป็นเรื่องที่ยาก ดังนั้นควรทำใจก่อนที่จะซื้อรุ่นนี้ด้วย
สำหรับ HTC Desire C เท่าที่ทราบรุ่นนี้จะแบ่งออกเป็น 2 เครือข่าย คือ ของมือถือรุ่นคลื่น 850 และคลื่น 900 ราคาจำหน่าย 6,900 บาท
สมาร์ทโฟนรุ่นอื่นที่น่าสนใจ
Sony Xperia Ray
Motorola Defy+