xs
xsm
sm
md
lg

Review : Galaxy Tab 7 & Galaxy Tab 10.1 แท็บเล็ตต่างไซส์ หลากทางเลือกสไตล์ซัมซุง

เผยแพร่:   โดย: MGR Online




สำหรับการรีวิวของทีมงานไซเบอร์ บิซ ในครั้งนี้จะเป็นการรีวิวการกลับมาอีกครั้ง ของอุปกรณ์จำพวกแท็บเล็ต ซึ่งเป็นของค่ายที่เรียกว่าเป็นผู้นำด้านตลาดแอนดรอยด์เลยก็ว่าได้ นั่นก็คือค่ายซัมซุง ที่ครั้งนี้ได้มีการเปิดตัวแท็บเล็ตพร้อมกันทีเดียว 2 รุ่น อันประกอบด้วย Galaxy Tab 7 และ Galaxy Tab 10.1 โดยทั้ง 2 รุ่นเป็นแท็บเล็ตที่ต่อยอดความสำเร็จที่เคยเกิดขึ้นของรุ่นแรก

ทั้งนี้จุดเด่นของแท็บเล็ตทั้ง 2 รุ่น จะเป็นเรื่องของการวางตำแหน่งการขายที่แตกต่างกัน ทำให้ Galaxy Tab 7 และ Galaxy Tab 10.1 ไม่่ทับไลน์การตลาดซึ่งกันและกันแบบตรงๆ นอกเหนือจากนี้แท็บเล็ตทั้ง 2 รุ่นยังพกพาความสามารถด้านการใช้งานโทรศัพท์ ระบบ SMS ซึ่ง Galaxy Tab 7 และ Galaxy Tab 10.1 จะมาพร้อมกับระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์ 4.0 Ice Cream Sandwich อีกด้วย

การออกแบบและสเปกเครื่อง Galaxy Tab 7



รูปลักษณ์ของการออกแบบของ Galaxy Tab 7 จะพกพาความสามารถในการใช้งานที่อยู่ในรูปแบบเชิงไลฟ์สไตล์มากกว่า Galaxy Tab 10.1 ซึ่งผู้ใช้สามารถใช้งานนอกบ้านได้คล่องตัวกว่า Galaxy Tab 10.1 ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของน้ำหนักที่เบาและกะทัดรัด

ส่วนการออกแบบของ Galaxy Tab 7 บริเวณมุมทั้ง 4 ด้านจะมีส่วนเว้าส่วนโค้ง ทำให้ตัวเครื่องแลดูมีความสวยงามมากขึ้น ด้านวัสดุประกอบงานค่อนข้างดูดีกว่า Galaxy Tab 7 ตัวก่อนๆ ถึงแม้จะเป็นพลาสติกก็ตามที และการซัมซุงใช้โทนสีของตัวเครื่องที่ค่อนข้างทึบ (ออกเทา-ดำ) ทำให้ตัวเครื่องดูแข็งแรงดี

สำหรับสเปก Galaxy Tab 7 จะใช้ชิปประมวลผลดูอัลคอร์ 1GHz (TI OMAP 4430) ระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์ 4.0 หน่วยความจำเครื่องรุ่นที่ทดสอบ 16GB หน่วยความจำสำรอง 1GB กล้องความละเอียด 3 ล้านพิกเซล กล้องหน้าความละเอียด VGA น้ำหนักเครื่อง 344 กรัม อินเตอร์เฟสเป็น TouchWiz UX และแบตเตอรี่ความจุ 4000 mAh



Galaxy Tab 7 จะมาพร้อมกับหน้าจอ LCD ขนาดหน้าจอ 7 นิ้ว ความละเอียด 600x1024 พิกเซล รองรับทั้งกล้องหน้าและกล้องหลัง







ด้านหน้า - ขนาดหน้าจอ 7 นิ้ว มีกล้องหน้าความละเอียดระดับ VGA มีลำโพงสนทนา ถัดลงมามีโลโก้ Samsung



ด้านหลัง - กล้องหลังความละเอียด 3 ล้านพิกเซล ไม่มีแฟลช ตรงกลางมีโลโก้ Samsung สกรีนเอาไว้



ด้านซ้าย - มีช่องใส่ซิม (ใช้ซิมใหญ่) และไมโครเอสดี



ด้านขวา - ปุ่มเปิด/ปิดเครื่อง และปุ่มเพิ่ม/ลดเสียง



ด้านบน - แจ็คเสียบหูฟังขนาดมาตรฐาน



ด้านล่าง - มันหัวสำหรับชาร์จเครื่อง และโอนข้อมูลลงคอมพิวเตอร์ขนาด 30 พิน มีลำโพงขนาบ 2 ด้าน ซ้าย-ขวา

การออกแบบและสเปกเครื่องของ Galaxy Tab 10.1



หากจะว่าไปแล้ว Galaxy Tab 10.1 ของซัมซุงตัวใหม่ล่าสุดนี้ แทบจะไม่แตกต่างจาก Galaxy Tab 10.1 รุ่นแรกที่วางจำหน่ายช่วงเดือนกันยายนปีที่แล้ว แต่อย่างใด การจัดวางเลย์เอาต์ของปุ่มต่างๆ รูปร่าง ขนาดตัวเครื่อง แต่วัสดุประกอบงานดูดีกว่า Galaxy Tab ตัวที่แล้ว และหนักกว่าเดิมนิดหน่อย

สำหรับสเปก Galaxy Tab 10.1 ใช้ชิปประมวลผลดูอัลคอร์ 1GHz (TI OMAP 4430) เช่นกัน ระบบปปฏิบัติการหลักแอนดรอยด์ 4.0 หน้าจอขนาด 10.1 นิ้ว ความละเอียด 800x1280 พิกเซล กระจกด้านหน้าเป็น Gorilla Glass น้ำหนัก 588 กรัม หน่วยความจำเครื่อง 16GB หน่วยความจำสำรอง 1GB กล้องหลัง 3 ล้านพิกเซล กล้องหน้า VGA และแบตเตอรี่ประจุ 7000 mAh







ด้านหน้า - มีลำโพงขนาบซ้าย-ขวา ด้านบนมีกล้องหน้า ถัดลงไปด้านล่างเป็นโลโก้ซัมซุง



ด้านหลัง - มีกล้องหลังความละเอียด 3 ล้านพิกเซล มีโลโก้ซัมซุงอยู่ตรงกลาง

ด้านซ้าย - โล่ง ไม่มีอะไร

ด้านขวา - ไม่มีอะไรเช่นเดียวกัน







ด้านบน - จะรวมแทบทุกอย่างไว้ด้านบน ตั้งแต่ช่องปุ่มเปิด/ปิดเครื่อง ปุ่มเพิ่ม/ลดเสียง ช่องใส่ไมโครเอสดี ช่องเสียบหูฟัง และช่องใส่ซิมการ์ด (ซิมใหญ่)



ด้านล่าง - ช่องเสียบสายชาร์จ และการโอนถ่ายข้อมูล เป็นแบบ 30 พิน

ฟีเจอร์ที่น่าสนใจของ Galaxy Tab 7 และ Galaxy Tab 10.1

คงต้องบอกอีกครั้งว่าแท็บเล็ตทั้ง 2 รุ่น Galaxy Tab 7 และ Galaxy Tab 10.1 ฟีเจอร์ต่างๆ ภายในแทบจะคล้ายคลึงกัน


Homescreen ของ Galaxy Tab 7


Homescreen ของ Galaxy Tab 10.1

Homescreen จะมีหน้าจอในส่วนของ Homescreen ทั้งหมด 7 หน้า ซึ่งผู้ใช้สามารถที่จะใส่แอปพลิเคชันที่เป็นชอร์ทคัท โฟลเดอร์ต่างๆ รวมไปถึงวิดเจ็ทได้ภายในหน้านี้ ทั้งนี้ผู้ใช้สามารถปรับลด homescreen ได้เอง



อินเตอร์เฟส - เป็นอินเตอร์เฟสที่เรียกว่า TouchWiz UX ที่แตกต่างจาก Galaxy Tab รุ่นก่อนๆ ตรงที่ความฉูดฉาดของสีถูกปรับโทนสีลง เน้นความเป็นธรรมชาติมากขึ้น ทำให้ดูแล้วสบายตากว่าก่อน

ภายใน App Drawer ด้านบนจะเป็นแท็บรวมแอปพลิเคชัน และแท็บของวิดเจ็ท ด้านขวามุมสุดสำหรับปรับแต่งค่าต่างๆ



ChatOn - เป็นแอปพลิเคชันด้านการแชต ที่ซัมซุงเป็นผู้พัฒนาขึ้นมาเอง รองรับหลากหลายแพลตฟอร์ม



AllShare - แอปพลิเคชันด้านการแชร์ไฟล์ที่ใช้รูปแบบของเทคโนโลยี DLNA ที่ผู้ใช้สามารถแชร์ไฟล์รูปภาพ วีโอต่างๆ ผ่านวงไวร์เลสเดียวกันได้เลยโดยทันที



S Planner - เป็นแอปพลิเคชันที่ผู้ใช้สามารถจดบันทึก และตารางนัดหมายต่างๆ



S Suggest - ระบบการแนะนำการใช้งาน โดยเฉพาะเรื่องการใช้งานแอปพลิเคชัน และจะมีการแบ่งหมวดชัดเจน แล้วแชร์ผ่านเครือข่ายสังคมออนไลน์ได้อีกด้วย

Samsung Apps - แอปพลิเคชันที่ทางซัมซุงจะแนะนำให้ผู้ใช้ได้ลองใช้งานกัน ซึ่งภายในจะมีทั้งแอปพลิเคชันฟรี และแอปพลิเคชันที่ผู้ใช้ต้องเสียเงินซื้อ





Web Browser - การใช้งานเว็บเบราว์เซอร์ผ่านแท็บเล็ตทั้ง 2 รุ่น ถือว่าทำได้ดีตามรูปแบบของอุปกรณ์แท็บเล็ต ที่ผู้ใช้สามารถแสดงผลในส่วนการท่องเว็บไซต์ได้อย่างง่ายดาย และสะดวกกว่าสมาร์ทโฟน รองรับการซูมเข้า-ออก ใกล้เคียงกับการใช้งานเว็บเบราว์เซอร์บนเครื่องคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคลพอสมควร



Music and VDO Player - ในส่วนของด้านการฟังเพลงมีชุด EQ ปรับแต่งให้เลือกค่อนข้างมาก ซึ่งผู้ใช้สามารถปรับแต่งได้เองถ้าหากรูปแบบ EQ ที่มีให้เลือกยังไม่เป็นที่พอใจ อีกทั้งยังมีฟีเจอร์ในการสั่งให้เครื่องปิดเพลงอัตโนมัติได้ด้วย



ด้านการรองรับไฟล์ฟอร์แมตต่างๆ ของ Galaxy Tab ก็รองรับไฟล์หลายนามสกุล แต่ถ้าต้องการสร้างอรรถรสในการรับชม อาจจะดูไฟล์วิดีโอต่างๆ ผ่าน Galaxy Tab 10.1 ได้



VDO Maker - ถ้าหากผู้ใช้งานแท็บเล็ตทั้ง 2 รุ่น ชื่นชอบการทำวิดีโอก็สามารถทำผ่านแท็บเล็ตต่างไซส์ทั้ง 2 รุ่นนี้ได้เลย โดยเบื้องต้นจะมี Theme ให้เลือก ส่วนที่เหลือก็อยู่ที่ความสามารถในการคิดและการนำเสนอวิดีโอของแต่ละบุคคล



Photo Editor - เป็นแอปพลิเคชันด้าการตกแต่งภาพ ที่ผู้ใช้สามารถแก้ไขภาพโดยดึงภาพจาก Gallery มาหรือจะเริ่มต้นจากการถ่ายภาพใหม่เลยก็ได้ ซึ่งความสามารถภายใน Photo Editor ก็จะมีตั้งแต่การหมุนภาพ ปรับขนาดของภาพ ครอปรูปภาพ ตกแต่งเอฟเฟกต์ เป็นต้น



Memo - สมุดจดบันทึกข้อความทั่วไป ซึ่งผู้ใช้ที่จะสามารถบันทึกข้อความสั้นๆ ผ่านจาก Memo นี้





กล้อง - ความละเอียดของกล้องอยู่ที่ 3 ล้านพิกเซล ดังนั้นการที่ผู้ใช้จะคาดหวังคุณภาพของภาพนั้นก็อาจจะเป็นการคาดหวังที่สูงเกินไปสักหน่อย แต่ฟีเจอร์ประกอบการถ่ายภาพก็มีให้เลือก เช่น Scene Mode ต่างๆ การปรับแสงขาว เป็นต้น



การโทรศัพท์ - Galaxy Tab 7 และ Galaxy Tab 10.1 มาพร้อมกับฟีเจอร์การโทรศัพท์ โดยเฉพาะรุ่น Galaxy Tab 7 ผู้ใช้สามารถที่จะยกหูเพื่อโทรเข้า-รับสายได้เลย แต่ทั้งนี้ถ้าหากไม่สะดวกผู้ใช้อาจจะใช้หูฟังที่เป็นสมอลล์ทอล์กในการพูดคุยสนทนาแทนกันได้









การทดสอบประสิทธิภาพเครื่องด้วยแอปพลิเคชันต่างๆ ของ Galaxy Tab 10.1 มีดังต่อไปนี้ ทดสอบด้วย Quadrant Benchmark ได้ผลการทดสอบอยู่ที่ 2525 ทดสอบด้วย NenaMark และ NenaMark 2 ได้ไป 29.6 และ 20.3 ทดสอบด้วยแอป AnTuTu ได้ 5050







ส่วนของ Galaxy Tab 7 ทดสอบด้วยผลทดสอบต่างๆ ได้คะแนนดังต่อไปนี้ ทดสอบด้วย AnTuTu Benchmark ได้ 4119 คะแนน ทดสอบด้วย Quadrant Benchmark ได้คะแนน 2141 ทดสอบด้วย NenaMark และ NenaMark2 ได้ผลการทดสอบที่ 32.8fps และ 25.8 ตามลำดับ

จุดขายของ Galaxy Tab ทั้ง 2 รุ่น

Galaxy Tab 7

- เหมาะสำหรับการใช้งานไลฟ์สไตล์มาก ไม่ว่าจะเป็นการอ่านหนังสือ การท่องโลกอินเทอร์เน็ต และการใช้งานเครือข่ายสังคมออนไลน์ ได้ง่ายและสะดวก ใครที่ชอบใช้งานที่ว่ามาดังกล่าว นับว่า Galaxy Tab 7 เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจมากๆ เลยทีเดียว

- แบตเตอรี่ค่อนข้างอึดพอตัว

Galaxy Tab 10.1

- เป็นแท็บเล็ตที่อาจจะพกพาไม่สะดวกเท่า Galaxy Tab 7 แต่ถ้าใช้งานในรูปแบบของเอนเตอร์เทนเมนต์แล้ว ค่อนข้างน่าสนใจ เนื่องจากหน้าจอขนาดใหญ่ ความละเอียดสูง ทำให้เป็นการเพิ่มอรรถรสได้อย่างดีเยี่ยม

- การวางตำแหน่งของลำโพงทำได้ดี ทำให้อุ้งมือไม่ปิดในส่วนของลำโพง

- เหมาะกับการใช้งานภายในบ้าน (โดยเฉพาะเมื่อมีอุปกรณ์ต่อพ่วงจำพวกด็อคต่างๆ) หรือจะใช้งานนอกบ้านก็ได้ แต่อาจจะต้องพบเจอปัญหาเรื่องของตัวเครื่องที่ค่อนข้างหนัก

- แบตเตอรี่อึด ใช้งานได้นาน

ข้อสังเกต

Galaxy Tab 7

- ระหว่างการใช้งานอาจจะเจอ Force Close บ้าง ซึ่งไม่ทราบสาเหตุว่าเกิดจากอะไร
- อินเตอร์เฟสบางส่วน อาทิเช่น Setting ดูคล้ายแท็บเล็ตค่ายผลไม้เกินไปสักหน่อย
- การใช้งานมีหน่วงบ้าง โดยเฉพาะตอนเล่นแอปพลิเคชันเกม

Galaxy Tab 10.1

- การวางปุ่มเพิ่ม/ลดเสียง ผิดไปจากการใช้งานโดยธรรมชาติของผู้ใช้ กล่าวคือ ปุ่มลดเสียงจะอยู่ด้านบน ปุ่มเพียงเสียงอยู่ด้านล่าง
- หนักกว่า Galaxy Tab 10.1 ตัวเก่า

ความคุ้มค่าในการซื้อหรือไม่ ?

คงต้องบอกซ้ำอีกครั้งหนึ่งว่า Galaxy Tab 7 และ Galaxy Tab 10.1 ถูกวางตำแหน่งในตลาดที่ต่างกัน ดังนั้นสิ่งที่ผู้ใช้จะต้องถามตัวเองก่อนเป็นประการแรก คือ จะซื้อไปทำอะไร ? ถ้าต้องการใช้งานในรูปแบบที่สะดวก พกพาไปไหนก็ได้ น้ำหนักเบา แนะนำว่า Galaxy Tab 7 เป็นตัวเลือกที่ดีกว่า Galaxy Tab 10.1

อีกทั้งการใช้งานพวกเครือข่ายสังคมออนไลน์ Galaxy Tab 7 ก็ทำได้ค่อนข้างง่ายและสะดวกดีเลยทีเดียว

นอกเหนือจากนี้แล้ว การใช้งาน Galaxy Tab 7 แทนสมุดโน้ตพบว่า การใช้งานก็สะดวกดี แต่ในบางครั้งรู้สึกไปเองว่า ถ้ามีปากกาหรือ Stylus คอยควบคุมสั่งงาน ก็คงน่าสนใจไม่น้อย

สำหรับ Galaxy Tab 10.1 จะเป็นรูปแบบของความบันเทิงในบ้านเสียมากกว่า (อาจจะจำเป็นต้องซื้ออุปกรณ์จำพวกด็อค) แต่ถ้าจะใช้งานนอกบ้านก็ไม่เป็นเรื่องที่ผิดแต่ประการใด และด้วยหน้าจอที่มีความละเอียด ค่อนข้างคมชัด อีกทั้งข้อได้เปรียบบางประการของ Galaxy Tab 10.1 จะอยู่ที่การใช้งานด้านการเล่นเกม ซึ่งบางแอปพลิเคชันถ้าหากผู้ใช้...ใช้แท็บเล็ตที่มีขนาดใหญ่ ก็จะสะดวกในการใช้งานมากกว่า ถ้าหากจำกันได้ช่วงที่ Draw Something เป็นที่นิยม พวกแท็บเล็ตจะได้เปรียบกว่าสมาร์ทโฟนค่อนข้างมาก ดังนั้นคอเกมหลายคนก็สามารถเลือกแท็บเล็ตหน้าจอ 10.1 นิ้ว รุ่นนี้ไปใช้งานด้านการเล่นเกมก็ย่อมได้ หรือจะนำ Galaxy Tab 10.1 ไปใช้งานด้านโซเชียลเน็ตเวิร์ก ท่องโลกอินเทอร์เน็ต ก็จะจุใจกว่า Galaxy Tab 7

ด้านการใช้งานโทรศัพท์ ทั้ง 2 รุ่นสามารถใช้งานการแทนโทรศัพท์จริงๆ ได้เลย แต่ก็จำเป็นต้องใช้อุปกรณ์เสริม อาทิเช่น สมอลล์ทอล์ก ในการสนทนา แต่ถ้าไม่แคร์สายตาคนรอบข้างก็สามารถจัดเต็มได้เลยตามสบาย

ส่วนความลื่นไหลในการใช้งานแท็บเล็ตทั้ง 2 รุ่น ถือว่าลื่นไหล การตอบสนองค่อนข้างไว อาจจะมีปัญหาหน่วงๆ อยู่บ้าง ซึ่งนั่นเป็นเพราะระบบปฏิบัติการมากกว่า เพราะอย่างที่ทราบระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์ค่อนข้างที่จะใช้กำลังของฮาร์ดแวร์ค่อนข้างสูง ทำให้เมื่อใช้งานจริงอาจจะขัดใจอยู่บ้างเล็กน้อย

ทั้งนี้ถ้าหากผู้ใช้แท็บเล็ตตัวเก่าของ Galaxy Tab 7 และ Galaxy Tab 10.1 อยู่ก่อนแล้ว ถ้าไม่คิดอะไรมาก็สามารถมองข้ามไปได้เลย หรือถ้าต้องการอัปเกรดก็จะได้ใช้แท็บเล็ตที่มีสเปกที่สูงกว่าเดิมอีกนิดหนึ่ง และผู้ใช้ที่ยังไม่มีแท็บเล็ต และกำลังเมียงมองหาแท็บเล็ตหวังมาใช้เป็นคู่กาย ก็สามารถเลือกได้เลยจาก 1 ใน 2 รุ่น ว่ารุ่นใดตรงกับไลฟ์สไตล์การใช้งานของผู้ซื้อมากกว่ากัน






ภาพจาก Galaxy Tab 10.1

กำลังโหลดความคิดเห็น