เดิมพันครั้งล่าสุดของทางแอลจี ในส่วนของตลาดสมาร์ทโฟนปีนี้ คงหนีไม่พ้นการออกวางจำหน่าย Optimus Series ที่เพิ่งเปิดตัวไปเมื่อต้นปีนี้ ภายในงาน CES 2012 ซึ่งรุ่นเด่นที่น่าสนใจนอกจากรุ่นไฮเอนด์อย่างสมาร์ทโฟนซีพียู 4 คอร์ และสมาร์ทโฟน 3 มิติ ก็ยังมีรุ่นเล็กอย่าง Optimus L3 ที่ออกมาจับตลาดเอนทรี่เลเวล
แอลจีวางตัว Optimus L3 ให้มาจับกลุ่มผู้เริ่มใช้งานสมาร์ทโฟนที่มีงบจำกัด ด้วยราคาเปิดตัว 4,990 บาท จึงถือเป็นหนึ่งในตัวเลือกที่น่าสนใจ กับความสามารถของระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์ และฟีเจอร์การใช้งานทางธุรกิจที่ออกมาตอบโจทย์ผู้ใช้ได้ในระดับหนึ่ง
การออกแบบและสเปก
อย่างที่เคยบอกไปเมื่อตอนรีวิว Prada 3.0 ว่าหลังจากนี้จะได้เห็นโทรศัพท์ที่ได้รับแรงบันดาลใจจากรุ่นนี้ออกมาวางจำหน่าย ดังนั้นเมื่อแรกเห็น Optimus L3 จึงคิดว่าการเดิมพันครั้งล่าสุดของแอลจี กับดีไซน์ที่ดูมีเอกลักษณ์เฉพาะตัวจากเครื่องรุ่นแม่แบบ น่าจะนำความสำเร็จกลับมาให้แอลจีได้ไม่ยาก ถ้ามีการทำตลาดดีๆ
และเนื่องจากหน้าจอมีสัดส่วนแบบ 4 : 3 ทำให้ขนาดรอบตัวของ Optimus L3 อยู่ที่ 102.6 x 61.6 x 11.85 มิลลิเมตร ซึ่งจะออกแนวเล็กๆ อ้วนๆ จับใช้งานถนัดมือ บนน้ำหนัก กรัม การประกอบเมื่อเทียบกับราคาแล้วอยู่ในเกณฑ์ที่รับได้ ฝาหลังปิดได้แน่นหนาดี และยังมีให้เลือก 2 สี คือ ขาว และ ดำ ตัดกับตัวเครื่องที่เป็นสีเงินแมทัลลิก
ด้านหน้า - เนื่องจากเป็นเครื่องรุ่นเล็ก หน้าจอเป็นแบบกระจกเต็มแผ่น ให้ขนาด 3.2 นิ้ว ความละเอียด QVGA (240 x 320 พิกเซล) บนหน้าจอเป็นลำโพงสนทนา วางพาดอยู่กึ่งกลางเหนือตัวสัญลักษณ์แอลจี ซึ่งข้างๆจะมีเซ็นเซอร์ตรวจจับใบหน้าซ่อนอยู่ ล่างหน้าจอมีปุ่มตรงกลางใช้สำหรับกลับหน้าแรก และกดค้างเพื่อดูแอปฯที่ใช้งานก่อนหน้านี้ โดยมีปุ่มสัมผัสเมนูอยู่ทางซ้าย และปุ่มย้อนกลับอยู่ทางขวา ซึ่งจะขึ้นไฟโชว์เมื่อแตะบริเวณดังกล่าว
ด้านหลัง - หลักๆจะเป็นที่อยู่ของกล้องความละเอียด 3 ล้านพิกเซล ที่อยู่บริเวณแถบสีเงิน กับสัญลักษณ์ของแอลจีเท่านั้น ส่วนที่เหลือจะเป็นผิวสัมผัสของฝาหลังแบบขรุขระ ช่วยให้จับตัวเครื่องกระชับขึ้น สามารถเปิดฝาหลังได้โดยการแงะจากส่วนบน
เมื่อเปิดฝาหลังออกมาจะพบกับแบตเตอรี ขนาด 1,500 mAh โดยมีช่องใส่ซิมการ์ดอยู่ใต้แบต และช่องใส่ไมโครเอสดีการ์ดอยู่ฝั่งซ้าย ซึ่งสามารถถอดออกแบบ Hot-Swap ได้โดยไม่จำเป็นต้องปิดเครื่อง
ด้านซ้าย - มีเพียงปุ่มปรับระดับเสียง ด้านขวา - ถูกปล่อยว่างไว้ ซึ่งในจุดนี้จะเห็นถึงสีที่ตัดกันระหว่างตัวเครื่องและฝาหลัง
ด้านบน - เป็นที่อยู่ของช่องเสียบหูฟังขนาด 3.5 มม. และปุ่มเปิด-ปิดเครื่อง ด้านล่าง - มีพอร์ตไมโครยูเอสบีสำหรับเสียบสายชาร์จ และเชื่อมต่อกับคอมพิวเตอร์ พร้อมช่องไมโครโฟนสนทนา
สำหรับสเปกภายใน Optimus L3 มาพร้อมกับหน่วยประมวลผล Qualcomm MSM7225A ความเร็ว 800 MHz RAM 384 MB หน่วยความจำภายใน 1000 MB สามารถใส่ไมโครเอสดีการ์ดเพิ่มได้สูงสุด 32 GB รองรับการเชื่อมต่อบลูทูธ 3.0 ไวไฟ 802.11 b/g/n ระบบระบุพิกดัแบบ A-GPS สามารถใช้งาน 3G ได้ทั้งบนเครือข่าย 900 / 2100 MHz และ 850 / 2100 MHz (แยกรุ่น) ทำงานบนระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์เวอร์ชัน 2.3.6
ฟีเจอร์ที่น่าสนใจ
ในส่วนของความสามารถของ Optimus L3 ถ้าลองย้อนมองไปกับเครื่องรุ่นก่อนหน้านี้อย่าง Optimus Hub ซึ่งทำออกมาจับตลาดใกล้เคียงกันนั้น ถือว่าใช้งานได้ไม่แตกต่างกัน ในราคาที่ถูกลง โดยรูปแบบการทำงานหลักๆของแอนดรอยด์สามารถใช้งานได้อย่างเต็มที่
เริ่มกันที่หน้าตาอินเตอร์เฟสการใช้งานของ Optimus L3 ในหน้าล็อกจอใช้การเลื่อนนิ้วขึ้นเพื่อปลดล็อก ซึ่งจะแสดงวัน เวลา และการแจ้งเตือนต่างๆ (ในกรณีเสียบสายชาร์จจะมีบอกสถานะแบตเตอรี) ถัดมาในหน้าหลัก ประกอบไปด้วย 5 หน้าที่ผู้ใช้สามารถนำวิตเจ็ตของแอนดรอยด์หรือไอค่อนลัดเข้าแอปพลิเคชันมาปรับแต่งได้ตามความต้องการ
ส่วนหน้าการแจ้งเตือน พื้นที่บนสุดถูกแบ่งไปให้ปุ่มควบคุมการตั้งค่าต่างๆของเครื่องไม่ว่าจะเป็นเปิด-ปิดเสียง การเชื่อมต่อไวไฟ บลูทูธ จีพีเอส และการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตผ่านโมบายดาต้า ถัดลงมาเป็นแถบควบคุมเครื่องเล่นเพลงสามารถกดเล่น และเปลี่ยนเพลงได้ทันที ส่วนล่างใช้แสดงการแจ้งเตือนจากกรณีต่างๆ
สำหรับแอปพลิเคชันที่ให้มาในเครื่องประกอบไปด้วย ตัวจัดการไฟล์ เว็บเบราว์เซอร์ เครื่องคิดเลข ปฏิทิน (ซิงค์กับจีเมลได้) กล้องถ่ายรูป นาฬิกา รายชื่อ ดูไฟล์ที่ดาวน์โหลด อีเมล วิทยุFM คลังภาพ จีเมล ค้นหา กูเกิลพลัส ละติจูด แผนที่ แอนดรอยด์เพลย์ ข้อความ ระบบสนทนากูเกิลพลัส เครื่องเล่นเพลง ระบบนำทางของกูเกิล ข้อมูลข่าวสารและพยากรณ์อากาศ โทรศัพท์ ค้นหาสถานที่ ตัวอ่านไฟล์เอกสาร ตั้งค่า อัปเดตซอฟต์แวร์ กูเกิลทอล์ก เครื่องเล่นวิดีโอ บันทึกเสียง ค้นหาด้วยเสียง และดูยูทูป
การทำงานของเว็บเบราว์เซอร์ เนื่องจากหน้าจอที่ให้มาค่อนข้างเล็ก ทำให้การประมวลผลทำได้ค่อนข้างเร็ว อย่างการโหลดหน้าเว็บไซต์ผ่านไวไฟ สามารถแสดงผลได้รวดเร็วดี แน่นอนว่ารองรับการแสดงผลแฟลช ไม่มีอาการหน่วยความจำหมดให้เห็น แสดงผลได้ทั้งแนวตั้งแนวนอน โดยผู้ใช้สามารถเปิดหน้าต่างใหม่เพื่อท่องเน็ตได้ 4 หน้าพร้อมกัน
การใช้งานอีเมลสามารถทำได้ง่ายๆ หลังจากใส่บัญชีผู้ใช้เรียบร้อยก็สามารถเข้าถึงอีเมลในกล่องจดหมายได้ทันที การแสดงผลสามารถขยายได้กรณีที่ตัวอักษรเล็กเกินไป สามารถส่งต่อ ตอบกลับ เขียนอีเมลใหม่ได้ตามปกติ แน่นอนว่าผู้ใช้สามารถปรับการซิงค์อีเมลได้ด้วยตนเอง กรณีที่ไม่อยากให้เชื่อมต่อตลอดเวลาก็สามารถเลือกปิดการซิงค์ได้
โหมดโทรศัพท์ของ Optimus L3 มีจุดที่เปลี่ยนแปลงจากเครื่องแอลจีรุ่นอื่นๆตรงที่ ปุ่มกดโทร ส่งข้อความ และลบ ถูกย้ายมาอยู่ฝั่งขวา ตามการแสดงผลของหน้าจอที่กว้างขึ้น จากรุ่นอื่นที่จะถูกใส่ปุ่มไว้ด้านล่าง โดยยังมีระบบเดารายชื่ออัตโนมัติจากการกดหมายเลข และตัวอักษรขึ้นด้วย
หน้าจอสายเรียกเข้าถือว่าเป็นแบบเดิมๆของแอนดรอยด์ ใช้การเลื่อนเพื่อรับสาย และตัดสายทิ้ง หรือเลือกที่จะส่งข้อความว่าจะติดต่อกลับภายหลักก็ทำได้ ขณะที่หน้าจอสนทนามีการแสดงรูป ชื่อ หมายเลข เวลาสนทนา พักสายได้จากการกดปุ่มบริเวณซ้ายบน เลือกเพิ่มสาย วางสาย ปุ่มกดตัวเลข บลูทูธ ปิดเสียง และเปิดลำโพงได้จากหน้าจอควบคุมด้านล่าง
ปุ่มคีย์บอร์ดภาษาไทยที่ให้มาเป็นแบบ 3 ตัวอักษรในปุ่มเดียว โดยใช้การกดซ้ำๆ ซึ่งถ้าใช้งานในแนวตั้งแล้วรู้สึกว่าเล็กเกินไป ก็สามารถขยับเครื่องเป็นแนวนอนเพื่อให้พิมพ์ได้สะดวกยิ่งขึ้นได้ หรือกรณีที่ไม่ชอบการทำงานของคีย์บอร์ดแบบนี้ก็สามารถดาวน์โหลดเพิ่มเติมได้จากกูเกิลเพลย์
แม้ว่าจะเป็นเครื่องรุ่นเล็กแต่ในเรื่องของการใช้งานมัลติมีเดีย ถือว่าทำได้ค่อนข้างครบไล่ตั้งแต่การฟังเพลง ดูภาพยนตร์ (อาจจะไม่สามารถเล่นไฟล์ความละเอียดสูงได้ ความละเอียดของหน้าจอแต่ไฟล์ขนาด 480p สบายๆ) หรือจะเลือกรับชมวิดีโอจากยูทูปก็สามารถทำได้ตามปกติ แต่ความเร็วในการสตรีมมิ่งขึ้นอยู่กับการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตของผู้ใช้
โหมดการถ่ายภาพด้วยกล้องความละเอียดสูงสุด 3 ล้านพิกเซล แม้ว่าจะไม่มีระบบออโต้โฟกัส แต่ก็มีลูกเล่นให้อย่างการเลือกโหมดถ่ายภาพทั้ง อัตโนมัติ บุคคล ทิวทัศน์ กีฬา พระอาทิตย์ตก และกลางคืน สามารถปรับ ISO สมดุลแวง ใส่เอกเฟกต์สี ตั้งเวลาถ่ายภาพ เลือกปิดเสียงชัตเตอร์ และบันทึกพิกัดรูปถ่ายได้ ในส่วนของวิดีโอสามารถถ่ายวิดีโอที่ความละเอียด 640 x 480 พิกเซลได้
ในส่วนของการตั้งค่าเป็นไปตามมาตรฐานของแอนดรอยด์ ไล่ตั้งแต่การตั้งค่าการเชื่อมต่อ ตั้งค่าโทรศัพท์ เสียง หน้าจอ พิกัดและการป้องกัน แอปพลิเคชัน บัญชีและการซิงค์ ความเป็นส่วนตัว พื้นที่เก็บข้อมูล ภาษาและคีย์บอร์ด คำสั่งเสียง การช่วยสำหรับการเข้าถึง การเชื่อมต่อยูเอสบี (เลือกได้ว่าจะใช้ชาร์จอย่างเดียว พื้นที่เก็บข้อมูล เชื่อมต่อกับPC Suite และแชร์เน็ตผ่านสาย) ตั้งวันที่และเวลา และเข้าไปดูรายละเอียดโทรศัพท์
สำหรับการทดสอบตัวเครื่องด้วยแอปพลิเคชันอย่าง AnTuTu Benchmark ได้คะแนนรวม 2,304 คะแนน Quadrant 1232 คะแนน รองรับการสัมผัสหน้าจอ 5 จุด Neocore 60.9 FPS An3dbench XL 18,893 คะแนน Nenamark 1 และ 2 ได้ 35.8 และ 13.5 Fps ตามลำดับ
จุดขาย
- สมาร์ทโฟนราคาต่ำกว่า 5 พันบาท ที่สามารถใช้งานฟีเจอร์ทั่วไปได้ไม่แตกต่างจากเครื่องระดับหมื่นบาท
- ตัวเครื่องมีขนาดเล็กกะทัดรัด เหมาะกับผู้ที่ต้องการเครื่องเล็กๆ จับใช้งานถนัดมือ
- รองรับ 3G ทุกเครือข่ายในประเทศไทย (วางจำหน่าย 2 รุ่น E400 และ E400f)
- แบตเตอรีอึดจากขนาด 1,500 mAh และขนาดหน้าจอ 3.2 นิ้วทำให้ประหยัดพลังงานกว่ารุ่นหน้าจอใหญ่
ข้อสังเกต/ตอบจุดขายหรือไม่
- ความละเอียดของหน้าจอที่ 240 x 320 พิกเซล ทำให้ไม่รองรับแอปพลิเคชันบางตัว
- กล้องไม่มีแฟลช และออโต้โฟกัส
- ไม่มีเซ็นเซอร์วัดแสงสำหรับปรับความสว่างหน้าจออัตโนมัติ
- RAM ที่ให้มาเพียง 384 MB ค่อนข้างน้อย ทำให้เปิดใช้งานหลายๆแอปฯ แล้วเครื่องช้าลง
ฟันธง! ความคุ้มค่ากับเม็ดเงินที่เสียไป
ถ้าเทียบกับสมาร์ทโฟนระดับราคาเดียวกันในตลาด Optimus L3 ถือว่าให้ประสิทธิภาพในการใช้งานที่ดีกว่า ทั้งจากหน้าจอที่ใหญ่กว่าเล็กน้อย กล้องความละเอียดมากกว่า ทำให้ Optimus L3 ถือเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจสำหรับผู้ที่ต้องการขยับจากฟีเจอร์โฟนราคาถูก มาเป็นสมาร์ทโฟนในรุ่นสำหรับผู้เริ่มใช้งานด้วยฟีเจอร์การทำงานที่ไม่แตกต่างกันจากเครื่องระดับหมื่บาท
นอกจากความสามารถในเรื่องของการใช้เว็บเบราว์เซอร์ ใช้งานอีเมล ดูยูทูป แล้ว Optimus L3 ยังสามารถใช้เล่นแอปฯแชตอย่าง Whatsapp Line หรือโซเชียลเน็ตเวิร์กอย่าง Facebook Twitter แอปฯแต่งภาพ และวิดีโอคอลล์ Skype ได้อย่างสบายๆ แต่ด้วยข้อจำกัดของสเปก และราคา ทำให้การตอบสนองอาจไม่รวดเร็วมากนัก แต่ก็อยู่ในขั้นที่ยอมรับได้
ตัวเลือกอื่น
- Samsung Galaxy Y
- HTC Wildfire S
- Sony Ericsson Xperia mini
Company Related Links :
LG
