หลังจาก Adobe ประสบความสำเร็จกับแอปพลิเคชันตกแต่งภาพและ RAW Files Process ขั้นสูงกับ Photoshop Lightroom ในเวอร์ชันก่อนหน้า มาวันนี้ทาง Adobe ก็พร้อมยกเครื่อง Lightroom ใหม่หมดเปลือกกับอัปเดตเวอร์ชัน Major Change ที่ 4 ที่มาพร้อมโปรเซสขับเคลื่อนใหม่สำหรับปี 2012
โดยการปรับเปลี่ยนหลักๆ ใน Lightroom 4 ที่เห็นได้ชัดก็คงเป็นเรื่องของส่วนโปรเซสที่ใช้รุ่น "2012" จากเดิมจะเป็น "2010" ใน Lightroom 3 ทำให้การปรับแต่งรูปจาก RAW File จะมีประสิทธิภาพดีขึ้น รวมถึงการปรับเปลี่ยนในส่วนของบาร์ปรับแต่งต่างๆ จะเป็นระเบียบและดูง่ายกว่าบาร์ใน Lightroom 3
อีกทั้งการปรับแต่งในส่วนของ Clarity (บู๊ต Mid-Tones คล้ายๆ HDR) จากในเวอร์ชันก่อนหน้าเมื่อปรับค่าไปที่ตัวเลขสูงๆ แล้วภาพจะดูหลอกตาหรือขอบวัตถุเกิดการเรืองแสงขึ้น สำหรับ Lightroom 4 จะมีการแก้ไขตรงส่วนนี้และเพิ่มความเข้มของคอนทราสต์ให้ดูดุดันกว่า Lightroom 3
ในส่วนของการปรับเปลี่ยนที่น่าสนใจอีกจุดคงต้องยกให้ส่วนของ Tone Curve ที่เพิ่มในเรื่องของ Channel จากเวอร์ชัน "2010" จะปรับ Curve ได้เฉพาะ RGB แบบรวมกันทั้งหมด แต่ใน Lightroom 4 ผู้ใช้สามารถปรับแยกได้อย่างอิสระตั้งแต่ Red Green Blue และปรับค่า RGB เหล่านั้นได้ทุกโซนตั้งแต่มืดไปสว่าง ทำให้เหล่านักตกแต่งภาพ RAW Process สามารถสร้างและผสมโทนสีได้ละเอียดและเป็นไปตามความต้องการของนักแต่งภาพมากยิ่งขึ้น
มาที่ Lens Corrections ที่ดูเหมือนจะเป็นพระเอกมาตั้งแต่ Lighroom 3 เพราะฟังก์ชันนี้จะช่วยแก้เรื่องความผิดเพี้ยนของเลนส์บางตัวได้อย่างอัตโนมัติตามโปรไฟล์เลนส์ที่อะโดบีบรรจุมาให้ (ส่วนใหญ่จะเป็นเลนส์ยอดนิยมในท้องตลาด) โดยใน Lightroom 4 นอกจากเรื่องโปรไฟล์เลนส์ที่เพิ่มเข้ามาตามสมัยแล้ว ทางอะโดบียังมีการเพิ่มฟังก์ชันแก้ขอบม่วงหรือ "Remove Chromatic Aberration" ไว้ด้วย
เป็นอีกหนึ่งฟังก์ชันสำหรับการตกแต่งภาพที่ต้องใช้ความละเอียดมาก เพราะ Brush สามารถใช้ปรับรูปภาพเป็นส่วนๆ ได้อย่างอิสระ ซึ่งใน Lightroom 4 การใช้ Brush จะครอบคลุมไปถึงเรื่องการลบ Noise, Sharpness และ Moire
อีกส่วนที่น่าสนใจถึงแม้จะไม่ใช่เรื่องใหม่ แต่ในส่วน History เป็นจุดเด่นของ Lightroom 4 เช่นกัน เพราะตั้งแต่ผู้ใช้ Import รูปถึงขบวนการตกแต่งรูปครั้งสุดท้าย ส่วนของ History จะเก็บค่าเหล่านั้นไว้ทั้งหมด ทำให้เมื่อเกิดความผิดพลาดในการตกแต่งภาพ ผู้ใช้จะสามารถย้อนขบวนการโปรเซสทั้งหมดกลับมาทีละขั้นได้
ถือเป็นการเกาะกระแส GPS บุกกล้องดิจิตอล เพราะใน Lightroom 4 สามารถอ่านพิกัดจากภาพถ่ายได้ อีกทั้งยังรองรับการเพิ่มพิกัดแบบแมนวลลงไปในภาพถ่ายได้ผ่านการค้นหาสถานที่จาก Google Maps (สามารถรับชมตัวอย่างจากวิดีโอในคลิปที่ 2)
อีกหนึ่งสิ่งที่เพิ่มเข้ามาใน Lighroom 4 ก็คือ ส่วนของการทำ Photobook สำเร็จรูป ที่ผู้ใช้สามารถสั่งทำหนังสือ Photobook เป็นเล่มจริงได้โดยผ่านบริการ Blurb โดยระหว่างการสร้างหน้ากระดาษใหม่ โปรแกรมจะทำการคำนวณค่าใช้จ่ายอย่างอัตโนมัติ แต่ถ้าผู้ใช้ไม่อยากจะเสียเงินให้กับ Blurb ก็สามารถพอร์ตไฟล์ Photobook เป็น PDF ได้เช่นกัน
สุดท้ายสำหรับ Lightroom 4 จะมาพร้อมความสามารถในการในการอ่านและตกแต่งวิดีโอได้ โดยการตกแต่งจะทำได้เฉพาะส่วนของ Quick Develop เท่านั้น และเอ็ฟเฟกต์ Preset บางตัวจะไม่ทำงานเมื่อใช้งานร่วมกับวิดีโอ
นอกจากนั้น Lightroom 4 ยังรองรับการอัปโหลดภาพไปยังเครือข่ายสังคมอีกด้วย โดยบริการที่รองรับหลักๆ จะเป็น Facebook และ flickr
เจาะลึก Lightroom 4 ในครึ่งชั่วโมง (มี 2 ตอน)
Inside : Lightroom 4 Part 1/2 from CyberBiz MGR on Vimeo.
Inside : Lightroom 4 Part 2/2 from CyberBiz MGR on Vimeo.
สำหรับ Adobe Photoshop Lightroom 4 ก็ถือเป็นการปรับปรุงและพัฒนาตามเทคโนโลยีที่ยอดเยี่ยมมาก เพราะหลายๆ จุดที่เคยเป็นปัญหาจากใน Lightroom 3 ถูกแก้ไขจนหมด เช่น เรื่องการลบ Noise ที่ทำได้ดีขึ้นหรือเรื่อง Clarity ที่ปรับปรุงได้อย่างยอดเยี่ยม ซึ่งเมื่อนับรวมกับฟีเจอร์ที่เพิ่มเข้ามาอย่างความสามารถในการลบขอบม่วงหรือการเพิ่มส่วนปรับแต่งสำหรับ Brush ก็ยิ่งทำให้ Lightroom 4 ขึ้นแท่นแอปพลิเคชัน RAW โปเซสที่ดีที่สุดของอะโดบีได้อย่างไม่ยากนัก
ตัวอย่างรูปที่ตกแต่งผ่าน Lightroom 4
Before…Lightroom 4
After…Lightroom 4
Before…Lightroom 4
After…Lightroom 4
After…Lightroom 4 with Noise Reduction + Hue + Channel Curve RGB + HSL
Company Related Link :
Adobe