xs
xsm
sm
md
lg

Review : i-mobile S580 3G-2 ซิม-ทีวีได้ ไม่ถึง 4 พัน - Edited

เผยแพร่:   โดย: MGR Online




ห่างหายจากโทรศัพท์ฟีเจอร์โฟนกันไปนานพอสมควร เลยอยากกลับมาแนะนำฟีเจอร์โฟน 2 ซิมดูทีวี แบรนด์คนไทยอย่าง ไอ-โมบาย ที่เรียกได้ว่ายังมีการพัฒนาสินค้าออกมาตอบรับกลุ่มผู้ใช้งานโทรศัพท์ฟีเจอร์โฟนกันอย่างต่อเนื่อง

ด้วยความที่ไอ-โมบายถือเป็นหนึ่งในผู้ให้บริการ 3G จากทีโอทีในฐานะ MVNO ทำให้ต้องมีการผลิตตัวเครื่องที่รองรับการใช้งาน 3G บนคลื่นความถี่ 2100 MHz ออกมารองรับลูกค้า ดังนั้น i-mobile S580 จึงกลายเป็นฟีเจอร์โฟนบาร์ไทป์ทัชสกรีน 2 ซิม ดูทีวีได้ รองรับ 3G ที่มาพร้อมกล้องความละเอียด 5 ล้านพิกเซล ในราคาไม่เกิน 4 พันบาท

Feature On i-mobile S580



หน้าจออินเตอร์เฟสการใช้งานของ S580 ถูกพัฒนาขึ้นมาให้รองรับการใช้งานแบบสัมผัสมากขึ้น หน้าจอหลักแบ่งออกเป็น 3 หน้าหลัก ที่ผู้ใช้สามารถลากวิดเจ็ตที่ต้องการออกมาวางไว้ได้

การปลดล็อกโทรศัพท์ ทำได้จากการใช้นิ้วลากกุญแจไปยังแม่กุญแจเพื่อปลดล็อกหน้าจอ เมื่อเข้ามาจะพบกับหน้าจอที่แสดงสัญญาณการเชื่อมต่อของซิม 1 และ ซิม 2 ที่จะบอกชื่อเครือข่ายอยู่ตรงกลางหน้าจอ ถัดมาเป็นรูปแบบการเชื่อมต่อ 2G 3G ระบบสั่น เวลา และสถานะแบตเตอรี



ล่างหน้าจอเป็นแถบปุ่มลัดเรียกการใช้งานต่างๆไล่ตั้งแต่เมนู โปรแกรมแชตของไอ-โมบาย Biz-info ที่รวมข้อมูลธุรกิจที่เป็นคอนเทนต์ในกลุ่มสามารถ ข้อความ รายชื่อผู้ติดต่อ รูปแแบบโปรไฟล์ เขียนข้อความ ปฏิทิน เครื่องคิดเลข บลูทูธ รูปภาพ ตั้งระบบซิม จาว่า นาฬิกาปลุก ถ่ายวิดีโอ บันทึกเสียง กล้อง ทีวี เสียง และสิ่งที่ต้องทำ

ภายในเมนูประกอบไปด้วย บันทกการโทร คอนเทนต์คาเฟ่ แอปฯคาเฟ่ รายชื่อ ข้อความ จัดการไฟล์ ตารางนัดหมาย มัลติมีเดีย ตั้งค่า บริการ กล้องถ่ายภาพ และเครื่องเล่นมีเดีย



แน่นอนว่าโหมดการใช้งานสำคัญคงหนีไม่พ้นการใช้งานโทรศัพท์แบบ 2 ซิม ผู้ใช้สามารถกดเบอร์โทรศัพท์ได้จากปุ่ม และเลือกว่าจะใช้ซิมไหนโทรโดยกดจากหน้าจอ ซึ่งความแตกต่างของช่องใส่ซิม 1 และ 2 คือ ช่องใส่ซิม 1 รองรับ 3G ในคลื่นความถี่ 2100 MHz ส่วน ซิม 2 รองรับแค่ EDGE/GPRS เท่านั้น ทำให้ซิม 1 สามารถใช้งานวิดีโอคอลล์ได้ ส่วนซิม 2 ไว้ใช้วอยซ์อย่างเดียว




ฟังก์ชันดูทีวีที่นอกจากผู้ใช้สามารถในถิ่นที่มีระบบตั้งช่องอัตโนมัติแล้ว ผู้ใช้ยังสามารถเลือกบันทึกทีวีไว้เพื่อดูซ้ำได้ด้วย เช่นเดียวกับโหมดวิทยุที่สามารถบันทึกไว้ฟังย้อนหลังเช่นกัน แต่พิเศษกว่าตรงที่สามารถตั้งเวลาบันทึกได้



ถ้าผู้ใช้ต้องการใช้ซิมการ์ดอื่นๆที่ไม่ใช่ซิมของ i-mobile 3GX สามารถเข้าไปเปลี่ยนค่ามาตรฐานของเครื่องโดยการเข้าไปที่บริการ เลือก WAP ตั้งค่า แก้ไขบัญชี เลือกซิมที่ต้องการใช้ต่ออินเทอร์เน็ต และเลือกบัญชีการเชื่อมต่อตามเครือข่ายๆนั้นๆ เพราะทางไอโมบายได้ตั้งค่ามาตรฐานมาไว้เป็นเฉพาะซิมการ์ดของ 3GX เท่านั้น

การใช้งานเว็บเบราว์เซอร์จะเป็นในรูปแบบของ WAP ทำให้ด้วยหน่วยความจำภายในตัวเครื่องที่มีขนาดน้อยจึงไม่สามารถเปิดหน้าเว็บไซต์ที่ต้องเก็บไฟล์ขนาดใหญ่ได้ ดังนั้นการมี 3G ของ S580 จึงมีไว้สำหรับวิดีโอคอลล์ และเชื่อมต่อกับคอมพิวเตอร์เพื่อใช้งานอินเทอร์เน็ตเท่านั้น

ระบบจัดการอีเมลที่ให้มาในเครื่องสามารถเข้าไปตั้งค่าการใช้งานได้ในส่วนของข้อความ รูปแบบการใช้งานจะเป็นแบบตัวอักษรง่ายๆทั่วไป ซึ่งในการตั้งค่าผู้ใช้จำเป็นต้องใส่เซิร์ฟเวอร์ตามบัญชีอีเมลที่ใช้ด้วยตนเอง ทำให้ไม่ค่อยมีความสะดวกในการเพิ่มอีเมลสักเท่าไหร่



การใช้งาน AppCafe สำหรับใช้ดาวน์โหลดแอปฯที่ทำงานบนจาว่ามาติดตั้งนั่น ทำออกมาได้ค่อนข้างง่าย แต่เนื่องจากความที่เป็นพื้นฐานของจาว่าทำให้แอปฯต่างๆ ทำออกมาให้ใช้งานทั่วๆไป โดยภายในแบ่งแถบเมนูออกเป็น แอปฯยอมนิยม แบ่งตามประเภท ค้นหา แอปฯใหม่ แอปฯฟรี และโปรโมชันพิเศษสำหรับลูกค้าไอ-โมบาย



โหมดกล้อง สามารถถ่ายภาพได้จากการกดปุ่มชัตเตอร์ หรือสัมผัสที่หน้าจอก็ได้ บนหน้าจอหลักมีแถบปรับความสว่างภาพ โหมดการถ่ายภาพ ขนาดภาพ หน่วยความจำที่ใช้ โดยมีปุ่มย้อนกลับ และเข้าสู่การตั้งค่าอยู่มุมขวาบน และขวาล่างตามลำดับ

เมื่อเข้ามาในส่วนของการตั้งค่า สามารถเลือกเข้าไปดูรูป บันทึกวิดีโอ ใช้กล้องหน้า เลือกโหมดจับภาพปกติ ต่อเนื่อง พาโนรามา ใส่กรอบ โหมดถ่ายภาปกติ กลางคืน ขนาดภาพตั้งแต่ QVGA ไปจนถึง 5 ล้านพิกเซล ขนาดวิดีโอสูงสุดที่ 720 x 480 พิกเซล ตั้งแฟลช ตั้งเวลาถ่ายภาพ ปรับสมดุลแสงขาว ใส่เอฟเฟกต์ภาพ เลือกหน่วยความจำ คุณภาพของภาพ โหมดโฟกัส เสียงชัตเตอร์ ความถี่



ในออแกไนเซอร์ ที่เป็นเครื่องมือทั่วไปประกอบไปด้วย เครื่องคิดเลข นาฬิกาปลุก ปฏิทิน รายการที่ต้องทำ เวลาสากล บันทึก ตัวแปลงหน่วย นาฬิกาจับเวลา ไฟฉาย และเครื่องอ่านอีบุ๊ก ที่ใช้การอ่านจากไฟล์ตัวอักษรทั่วไป



ส่วนในหน้าจอตั้งค่ามีตั้งแต่ คั้งระบบ 2 ซิม ตั้งค่าหน้าจอสัมผัส รูปแบบโปรไฟล์ที่้ใช้ ตั้งหน้าจอ เวลาและวันที่ ตัวเครื่อง การโทร ความปลอดภัย การเชื่อมต่อ โมชัน ย้อนคืนค่าจากโรงงาน และตั้งเสียงเอฟเฟกต์

Design of i-mobile S580



รูปทรงของ S580 นั้นไม่แตกต่างจากโทรศัพท์ฟีเจอร์โฟนทรงแท่งทั่วไปมากนัก วัสดุหลักที่ใช้จะเป็นพลาสติกผสม ที่ดูแล้วค่อนข้างแข็งแรงเมื่อเทียบกับเฮาส์แบรนด์ทั่วๆไป ขนาดตัวเครื่องอยู่ที่ 118 x 59 x 12.5 มิลลิเมตร

ด้านหน้า - ที่พิเศษคือหน้าจอโทรศัพท์แบบ Resistive ทัชสกรีนขนาด 2.8 นิ้ว ความละเอียด 240 x 320 พิกเซล ที่กินพื้นที่ไปราว 2 ใน 3 โดยมีช่องลำโพงสนทนา
กล้องหน้าสำหรับใช้ถ่ายภาพตนเอง และวิดีโอคอลล์

บริเวณปุ่มกดประกอบไปด้วยปุ่มรับสาย ปุ่มเลื่อนซ้าย-ขวา ปุ่มวางสาย และปุ่มคีย์บอร์ดแบบ QWERTY ที่มีปุ่มลัดสำหรับเรียกดูข้อความ ล็อกเครื่อง เปิดทีวี ไฟฉาย ซ่อนอยู่ในปุ่มคีย์บอร์ดแถวล่างสุด

ในการใช้งานเนื่องจากความกว้างของตัวเครื่องไม่ได้กว้างมากนักปุ่มคีย์บอร์ดต่างๆจึงมีขนาดเล็กทำให้เวลาพิมต้องใช้สมาธิในการใช้งานเล็กน้อย เลย์เอาท์ภาษาอังฤษทำมาได้ตามมาตรฐาน แต่เลย์เอาท์ภาษาไทยค่อนข้างมั่วทำให้ในการใช้งานคงต้องใช้เวลาศึกษาให้ชินสักพัก



ด้านหลัง - พื้นที่ส่วนบนเป็นที่อยู่ของกล้องความละเอียด 5 ล้านพิกเซล พร้อมไฟแฟลช ถัดลงมาเป็นลำโพงสำหรับใช้ฟังวิทยุ ฟังเพลง ดูทีวี ให้เสียงค่อนข้างดังมาก ส่วนบริเวณสีดำทั้งหมดเป็นฝาหลัง ที่ใช้การแงะออกจากช่องล่างลำโพง (ฝาหลังค่อนข้างแข็ง ระวังเล็บหัก)



เปิดฝาออกมาเจอแบตเตอรีขนาด 1,400 mAh เมื่อถอดออกจะพบช่องใส่ซิม 1 ที่รองรับ 3G/EDGE อยู่ฝั่งซ้าย และช่องใส่ซิม 2 ที่รองรับเฉพาะ EDGE อยู่ฝั่งขวา โดยมีช่องใส่ไมโครเอสดีการ์ดอยู่บนช่องใส่ซิม 1





ด้านซ้าย - มีเพียงปุ่มปรับระดับเสียงเท่านั้น ด้านขวา - มีปุ่มชัตเตอร์กล้อง และช่องร้อยสายโทรศัพท์ ด้านบน - มีพอร์ตไมโครยูเอสบี สำหรับเสียบสายชาร์จ เชื่อมต่อกับคอมพิวเตอร์ ช่องเสียบหูฟังขนาด 3.5 มม. และเสาอากาศรับสัญญาณโทรทัศน์ ด้านล่าง - ถูกปล่อยว่างไว้

บทสรุป

ไอโมบายเองยังคงเดินหน้ารักษาตลาดโทรศัพท์ 2 ซิม ดูทีวีได้อย่างเรื่อยมา รวมถึงมีการพัฒนาฟีเจอร์ และลูกเล่นเพิ่มเติมเข้าไปให้เครื่องมีมูลค่ามากขึ้นจากเดิม รวมถึงการดีไซน์ให้มีความทันสมัยอย่างหน้าจอสัมผัส และปุ่มกดแบบ QWERTY ราคาเปิดตัวที่ 3,790 บาท

ขณะที่ตัวเครื่องรองรับการใช้งาน 3G เฉพาะบนคลื่นความถี่ 2100 MHz ที่ i-mobile 3GX ทำตลาดอยู่เท่านั้น แต่ถึงกระนั้นการใช้งาน 3G บนเครื่องคงเน้นไปที่การใช้วิดีโอคอลล์ มากกว่านำมาใช้ในการซิงค์อีเมล เล่นอินเทอร์เน็ต

มาตรฐานทีวีของไอโมบาย ยังอยู่ทำได้ดีในที่โล่งสามารถรับชมโทรทัศน์ได้ชัดเจน เช่นเดียวกับวิทยุ ซึ่งที่น่าสนใจคือไอโมบายมีการกำหนดคลื่นความถี่มาให้พร้อมไปกับการเลือกจังหวัดและประเทศ จึงไม่จำเป็นต้องมานั่งค้นหาคลื่นต่างๆด้วยตนเอง

เสียงสนทนาทำได้ชัดเจนดีทั้ง 2 ซิม ขณะที่เวลาการใช้งานสามารถอยู่ได้เป็นอาทิตย์ถ้าไม่มีการใช้โทรศัพท์มากนัก แต่ถ้ามีการใช้โทรค่อนข้างบ่อยจะอยู่ได้ 2-3 วัน ตามช่วงเวลาการใช้งาน

ขอชม
- 2 ซิม รองรับ 3G ดูทีวีได้
- หน้าจอสัมผัส พร้อมปุ่มกด QWERTY

ขอติ
- เป็นฟีเจอร์โฟนจึงทำให้ใช้ 3G ได้เพียงวิดีโอคอลล์
- เครื่องมีหน่วยความจำน้อย ทำให้ไม่สามารถเปิดเว็บผ่านเบราว์เซอร์ได้
- หน้าจอ Resistive ต้องใช้ปากกาหรือเล็บกด (แต่ไม่แถมสไตลัสมาให้)

Company Related Links :
i-mobile










กำลังโหลดความคิดเห็น