xs
xsm
sm
md
lg

Review Canon IXUS 100 IS เติมเต็มการถ่ายภาพอย่างมีสไตล์

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

เมื่อเปิดใช้งานเครื่องหน้าเลนส์จะยื่นออกมาพอสมควร
สำหรับเมนูใหม่อย่าง IXUS 100 IS ที่เสิร์ฟมาพร้อมความโดดเด่นในเรื่องของดีไซน์ และฟังก์ชันการทำงานใหม่ๆที่น่าสนใจเพิ่มความสะดวกสบายในการใช้งานมากขึ้น รวมไปถึงชิปประมวลผลแบบ DIGIC 4 ที่ให้ความแม่นยำในการประมวลผลสูงทำให้ IXUS 100 IS จึงเป็นอีกหนึ่งเมนูใหม่จากเจ้าของแบรนด์ Canon ที่น่าสนใจมากทีเดียว

แกะกล่อง



อุปกรณ์มาตรฐานที่ให้มามีตัวเครื่อง Canon IXUS 100 IS, สายคล้องมือ, บัตรรับประกันศูนย์, แบตเตอรี่ Li-ion ขนาด 760 mAh, แท่นชาร์ต, สาย AV, สาย USBและ แผ่นโปรแกรม Canon DIGITAL CAMERA Solution Disk

จุดขาย

Canon IXUS 100 IS เป็นกล้องคอมแพกต์ที่มีความละเอียด 12.1 ล้านพิกเซล โดดเด่นในเรื่องของการออกแบบที่หรูหรามีสไตล์ ตัวเครื่องบางเพียง 18 มิลลิเมตร ให้ภาพที่มีสีสันสดใส พร้อมชิปประมวลผลแบบ DIGIC 4 นอกจากนี้ Canon IXUS 100 IS ยังปรับปรุงระบบ Auto ISO ให้มีความแม่นยำมากขึ้น และเพิ่มลูกเล่นใหม่ Blink Detection ซึ่งเป็นระบบแจ้งเตือนเพื่อค้นหาบุคคลที่หลับตาขณะถ่ายภาพ รวมถึง Smart Auto Shooting Mode โหมดการถ่ายภาพอัตโนมัติคมชัดทุกสภาวะแสงมาให้เล่นอีกด้วย

ดีไซน์

สำหรับเจ้า Canon IXUS 100 IS ถูกออกแบบให้มีความบาง และน้ำหนักที่เบา ตัวเครื่องมีลักษณะเป็นสี่เหลี่ยมผืนผ้าเรียบเท่ากันทั้งหมด ทำให้การจับนั้นอาจไม่กระชับมือเท่าที่ควร ดังนั้นการใช้งานควรใส่สายคล้องมือไว้ตลอดเวลาเพื่อป้องกันตัวกล้องหลุดจากมือขณะถ่ายภาพ ส่วนปุ่มด้านหลังนั้นเมื่อนิ้วชี้วางในตำแหน่งของปุ่มกดชัตเตอร์อาจทำให้นิ้วหัวแม่มือวางไม่พอดีปลายนิ้วเมื่อต้องการจะเลือกฟังก์ชันการใช้งานได้ เนื่องจากความบางของตัวเครื่องทำให้ปุ่มกดเล็กตามไปด้วย



ด้านหน้า : ถูกออกแบบให้ราบเรียบแต่ดูสวยงามเริ่มจากซ้ายมือ มีสัญลักษณ์ Canon Digital IXUS 100 IS อยู่รวมกันทางตำแหน่งซ้ายมือทั้งหมด ส่วนทางด้านขวามมือเริ่มจากบนสุดเป็นช่องมองภาพ, ไฟหาโฟกัส และไฟแฟลช อยู่ในระดับเดียวกันล่างลงมาเป็นเลนส์ มีสัญลักษณ์ว่า Canon Zoom Lens 3x IS ถัดไปอีกในระดับเดียวกันมีตัวหนังสือเขียนบอกความละเอียดของ CCD อยู่ที่ 12.1 MEGA PIXELS



ด้านบน : จากซ้ายสุดมีตัวหนังสือเขียนว่า IMAGE STABILIZER (ระบบกันสั่น) ส่วนใต้ตัวหนังสือมีรูลำโพงอยู่ 3 รูด้วยกันให้เสียงดังฟังชัดดี ถัดมาเป็นปุ่มเปิด-ปิด และสุดท้ายเป็นปุ่มชัตเตอร์โดยมีวงแหวนซูมซ้อนอยู่รอบนอก ในการใช้งานจริงเนื่องจากปุ่มชัตเตอร์เรียบและแบนทำให้ต้องใช้ปลายนิ้วชี้จิกนิ้วเวลาต้องการถ่ายภาพ แต่น้ำหนักก็ถูกตั้งมาอย่างพอดีไม่ลึกหรือตื้นจนทำให้กดง่ายเกินไป ส่วนวงแหวนซูมนั้นอาจใช้งานลำบากเนื่องจากมีขนาดเล็กทำให้หลุดมือบ่อยครั้งขณะซูมเมื่อต้องการถ่ายภาพ



ด้านหลัง : สิ่งที่เด่นชัดที่สุดคือจอ LCD ขนาด 2.5 นิ้วแบบ PureColor II LCD ให้สีสันชัดเจนดูสบายตา เหนือขึ้นไปซ้ายมือมีสัญลักษณ์ Canon ดูโดดเด่นช่วยเพิ่มความสวยงามได้ไม่น้อย ถัดไปทางขวามือมีไฟสำหรับบอกสถานะการบัฟเฟอร์การ์ดหลังจากถ่ายภาพ(สีเขียว) และจะเปลี่ยนเป็นสีส้มเพื่อแสดงความพร้อมของการใช้งานแฟลช อีกส่วนสำคัญที่อยู่ด้านบน คือ วิวไฟน์เดอร์ และพอร์ตสำหรับเสียบสาย A/V OUT และ HDMI ล่างลงมา

จะพบปุ่มควบคุมการทำงานถูกวางไว้ฝั่งขวามือทั้งหมด เริ่มจากปุ่มแรกซ้ายบนสุด เป็นปุ่มสำหรับพรีวิวภาพ ในระดับเดียวกันเป็นปุ่มสำหรับเลือกถ่ายโหมด Auto, โหมด P และโหมดถ่ายภาพเคลื่อนไหว ถัดลงมาเป็นปุ่มควบคุม 5 ทิศทางโดยแต่ละปุ่มสามารถเลือกเพื่อเข้าสู่เมนูลัดได้เริ่มจากปุ่มบนใช้สำหรับลัดเข้าสู่โหมดการชดเชยแสง(เลือกได้สูงสุดคือ -2 / +2) ปุ่มซ้ายใช้เข้าสู่โหมดมาโคร, ปุ่มกลางใช้เข้าสู่การเลือกตั้งค่าต่างๆเริ่มจากบนสุด ISO มีให้เลือกตั้งแต่ AUTO, 80, 100, 200, 400, 800 และ1600

ถัดมาเป็นการตั้งค่า White Balance มีให้เลือกทั้งหมด 7 เมนูได้แก่ AUTO, แสงแดด, เมฆครึ้ม, แสงทังสแตน, แสงฟลูออเรสเซน, แสงฟลูออเรสเซน H และกำหนดเอง ต่อมาเป็นการตั้งค่าสีมี สีสดใส, สีธรรมชาติ, สีโทนน้ำตาล, สีขาวดำ, สีฟิล์มสไลด์, สีผิวอ่อน, สีผิวเข้ม, สีน้ำเงินเข้ม, สีเขียวเข้ม, สีแดงเข้ม และ กำหนดเอง ถัดลงมาอีกนิดเป็นการตั้งค่าระบบวัดแสงมีให้เลือกตั้งแต่ วัดแสงแบบเฉลี่ยทั้งภาพ, เฉลี่ยหนักกลาง และแบบเฉพาะจุด ถัดมาเป็นการตั้งค่าการถ่ายภาพ แบบทีละภาพ และถ่ายแบบต่อเนื่อง สุดท้ายเป็นการตั้งค่าขนาดและความละเอียดของไฟล์ภาพเริ่มจากไซต์ L ความละเอียด 12 ล้านพิกเซล ขนาดภาพ 4000x3000, ไซต์ M1 ความละเอียด 8 ล้านพิกเซลขนาดภาพ 3264x2448, ไซต์ M2 ความละเอียด 5 ล้านพิกเซล ขนาดภาพ 2592x1944, ไซต์ M3 ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล ขนาดภาพ 1600x1200, ไซต์ S ความละเอียด 0.3 ล้านพิกเซล ขนาดภาพ 640x480 และสุดท้ายถ่ายภาพมุมกวางไซต์ 4000x2248

ปุ่มสุดท้ายแต่ไม่ท้ายสุดของปุ่มควบคุมแบบ 5 ทิศทาง ปุ่มล่างใช้สำหรับเข้าสู่โหมดตั้งเวลาถ่ายภาพมีให้เลือกใชั้ตั้งแต่ 10 วินาที, 2 วินาที, ถ่ายแบบค้นหาใบหน้า 3 ภาพ และ 10 วินาทีถ่าย 3 ภาพ มาถึง 2 ปุ่มล่างสุดของตัวเครื่องเริ่มจากปุ่มแรกคือปุ่ม DISP ใช้สำหรับกำหนดหน้าจอ LCD ว่าจะเปิดหรือปิด แต่หากต้องการประหยัดพลังงานแบตเตอรี่ก็สามารถปิดหน้าจอ LCD และถ่ายภาพจากวิวไฟน์เดอร์ได้เช่นกัน ส่วนปุ่มสุดท้ายเป็นปุ่มสำหรับตั้งค่าการใช้งานต่างๆของตัวเครื่อง



ด้านซ้าย : ตัวเครื่องด้านซ้ายมือถูกปล่อยทิ้งไว้โล่งๆมีเพียงน็อตยึดไว้ 2 ตัวทางด้านบน และล่างของตัวเครื่องเท่านั้น



ด้านขวา : ส่วนตัวเครื่องด้านขวาก็ทิ้งไว้โล่งๆเช่นกัน แต่มีช่องสำหรับร้อยสายคล้องข้อมืออยู่ตรงกลางระหว่างน็อต 2 ตัว



ด้านล่าง : จุดกึ่งกลางของตัวเครื่องมีช่องสำหรับใส่ขาตั้งกล้องขนาดมาตรฐาน ส่วนฝาปิดแบตเตอรี่จะอยู่ฝั่งขวามือของตัวเครื่องเมื่อเปิดฝาออกจะพบแบตเตอรี่ Li-ion ขนาด 760 mAh และการ์ดหน่วยความจำแบบ SD การ์ด ในด้านการออกแบบฝาปิดแบตเตอรี่นั้นทำได้ดีสามารถปิดได้สนิท และยังมีแผ่นยางลักษณะกลมแบนเป็นจุดกำหนดสำหรับดันฝาปิดออกเพื่อง่ายต่อการใช้งานมากขึ้น

White Balance



ตัวอย่างภาพถ่าย : ค่า "White Balance" จาก Canon IXUS 100 IS ทำได้ดีแม้ถ่ายในขณะย้อนแสง ถือได้ว่ามีความแม่นยำในระดับหนึ่งเลยทีเดียว

ISO



ตัวอย่างภาพถ่าย : Canon IXUS 100 IS ได้รับการปรับปรุงให้ใช้งานระบบ Auto ISO หลังจากการทดสอบถือว่าทำได้น่าพอใจการประมวลผลแม่นยำดี ส่วนเรื่องของสัญญาณรบกวนภาพ (NOISE) น้อยมากแต่เมื่อดัน ISO ไปถึง 800 ขึ้นไปไฟล์ภาพที่ได้จะมีความหยาบและขาดความคมชัดไปบ้าง

Picture Style



ตัวอย่างภาพถ่าย : การตั้งค่าสีต่างๆมี สีสดใส, สีธรรมชาติ, สีโทนน้ำตาล, สีขาวดำ, สีฟิล์มสไลด์, สีผิวอ่อน, สีผิวเข้ม, สีน้ำเงินเข้ม, สีเขียวเข้ม, สีแดงเข้ม และกำหนดเอง

ZOOM



ตัวอย่างภาพถ่าย การ ZOOM ทั้ง 3 ระดับ : จากสเปกตัวกล้องสามารถซูมได้ 3x (แบบออปติคอล) แม้จะน้อยเกินไปแต่ก็ทำได้ดีมากภาพที่ได้นั้นแทบไม่เสียคุณภาพเลย

MACRO



ตัวอย่างภาพถ่าย : MACRO หลังจากการทดสอบทำได้ดีทั้งสีสัน และความคมชัด โดยเจ้า IXUS 100 IS นั้นสามารถถ่ายระยะมาโครได้ใกล้สุด 3 ซม.

Flare



ในส่วนของการถ่ายภาพย้อนแสงของ Canon IXUS 100 IS นั้นพบว่าตัวเลนส์ยังเก็บอาการแฟร์ได้ไม่ดีนัก เมื่อถ่ายย้อนแสงจะมีอาการแฟร์ และเกิดการฟุ้งที่ขอบภาพอย่างชัดเจน

บทสรุป

หากกำลังมองหากล้องดิจิตอลที่มีดีไซน์หรูหรา มีสไตล์ซึ่งไม่ได้เน้นการใช้งานมากมายนัก IXUS 100 IS อาจตอบโจทย์ได้ ทั้งฟังก์ชันใหม่ๆที่น่าสนใจอย่าง "Blink Detection" หรือการปรับปรุง ISO ให้มีความแม่นยำมากขึ้น นอกจากนี้ยังมี "Smart Auto Shooting Mode" โหมดการถ่ายภาพอัตโนมัติคมชัดทุกสภาวะแสงมาให้อีก เรียกได้ว่าเป็นกล้องคอมแพกต์คุณภาพอีกตัวจาก Canon ที่หลายคนกำลังมองหาก็ว่าได้

ขอชม
- ชิปประมวลผลแบบ DIGIC 4 ช่วยในการประมวลผลได้แม่นยำดี
- ระบบ Blink Detection ที่ช่วยในการแจ้งเตือนเพื่อค้นหาบุคคลที่หลับตาขณะถ่ายภาพ
- โหมด Smart Auto Shooting Mode ก็เป็นอีกหนึ่งจุดที่น่าสนใจ

ขอติ
- ตัวเครื่องแม้จะมีการออกแบบได้สวยงามแต่วัสดุยังใช้พลาสติดเป็นส่วนใหญ่
- เมื่อเปิดเครื่องใช้งานต่อเนื่องนานๆจะมีอาการร้อนอย่างสัมผัสได้
- แบตเตอรี่ที่ให้มาน้อยไปนิด

สำหรับราคาเปิดตัวของ Canon IXUS 100IS อยู่ที่ประมาณ 11,990 บาท (พร้อม SD Card ขนาด 1GB มาให้ภายในกล่อง)

Company Related Links :
Canon
ด้านหน้าของตัวเครื่องแสดงสัญลักษณ์ Canon และ รุ่น IXUS 100 IS ชัดเจน
ช่องมองภาพ ไฟช่วยหาโฟกัส และ ไฟแฟรช ถูกวางในระดับเดียวกันทั้งหมด
ปุ่มกดชัตเตอร์มีลักษณะราบเรียบไปกับผิวของตัวกล้อง แต่ถูกตั้งน้ำหนักได้เหมาะสมดี
ด้านหลังตัวเครื่องก็มีสัญลักษณ์ของ Canon เช่นกัน
ช่องสำหรับต่อสายพอร์ทต่างๆ
ฝาปิดด้านล่างตัวเครื่องทำได้แน่นหนาและง่ายต่อการใช้งานมาก
ด้านบนของตัวเครื่องก็ยังมีรายละเอียดของฟังก์ชันระบบกันสั่น และ มีลำโพงอยู่ด้านล่างของตัวหนังสือ
ปุ่มกดด้านหลังอาจมีขนาดเล็กเกินไป ทำให้การใช้งานอาจต้องใช้ปลายนิ้วจิก
การเลือกโหมดการใช้งาน Canon เลือกใช้ปุ่มควบคุมแบบ สวิต เพื่อให้สะดวกต่อการสับเปลี่ยนการใช้งาน
แบตเตอรี่ Li-ion ขนาด 760 mAh
กำลังโหลดความคิดเห็น