HTC Touch Cruise'09 หรืออีกชื่อหนึ่งว่า "Iolite" เครื่องรุ่นนี้แทบจะไม่มีอะไรแตกต่างจากรุ่น Touch 3G ดังที่เคยบอกไว้ในพรีวิวก่อนหน้านี้ ดังนั้น รีวิวบทนี้จะเน้นไปที่ Foot Print หรือ การบันทึกรอยเท้าเป็นหลัก เพราะแม้แต่ทางเอชทีซียังชูจุดขายอยู่ที่ระบบดังกล่าว
Feature On HTC Touch Cruise'09
ตัว Cruise'09 ยังคงใช้อินเตอร์เฟสการใช้งาน TouchFlo 2D หากท่านใดยังต้องการทราบรายละเอียดคงต้องรบกวนย้อนกลับไปอ่านที่รีวิว Touch Viva ซึ่งจากการที่ใช้แบบ 2D ทำให้การตอบสนองการสั่งงาน เรียกได้ว่ารวดเร็วกว่าเดิมมาก เนื่องจากเครื่องรุ่นนี้ใช้ซีพียูแบบเดียวกับรุ่นใหญ่ๆของทางเอชทีซี
หน้าจอของ Footprint ชาวเสื้อเหลืองคงไม่ค่อยถูกโฉลกสักเท่าไหร่ เนื่องจากโปรแกรมนี้ใช้รอยเท้าเป็นสัญลักษณ์ แต่คงต้องยอมรับว่า การเลือกรูปรอยเท้า ทำให้สื่อถึงรูปแบบการใช้งานฟังก์ชันนี้ได้เป็นอย่างดี เพราะระบบ Footprint คือการบันทึกพิกัด GPS ที่มีชื่อเรียกอย่างเป็นทางการว่า Geotagging ไว้ในรูปภาพที่ถ่าย
ซึ่งให้อธิบายการทำงานง่ายๆก็คือ การถ่ายรูปพร้อมบันทึกพิกัดสถานที่ ณ ตำแหน่งที่เราถ่ายรูป เพื่อนำไปใช้ในการเดินทางมาครั้งต่อไป หรือส่งให้เพื่อนๆ คนรู้จักที่ต้องการไปยังสถานที่ดังกล่าว ยกตัวอย่างเช่น ผู้อ่านไปทานอาหารที่ร้านชื่อดัง แล้วบันทึกภาพไว้ เสร็จแล้วเพื่อนๆมาเห็นรูป อยากรู้ว่าร้านนี้อยู่ที่ใด ผู้อ่านก็ทำเพียงแค่ส่งรูปดังกล่าวให้ผู้ที่สนใจ และเปิดผ่านโปรแกรมนำทาง ก็จะสามารถไปถึงสถานที่นั้นๆได้
แต่ด้วยความที่ปัจจุบันการนำทางผ่าน GPS ยังไม่ค่อยแพร่หลายเท่าที่ควร รวมไปถึงการใช้งานจำเป็นต้องมีระบบที่เข้ากันได้ จึงทำให้ฟังก์ชันนี้ สามารถใช้งานได้เฉพาะผู้ที่มีโปรแกรมนำทางเพียงเท่านั้น แต่อย่างไรก็ตามผู้ใช้ทั่วไปสามารถนำมาประยุกต์ใช้กับ Google Maps ในการนำทางได้เช่นเดียวกัน
Papago! X3
ในส่วนของโปรแกรมนำทางที่มีในเครื่องรุ่นนี้ จะมีทั้ง Garmin Mobile XT และ Papago! X3 ถ้ามองตามปกติแล้ว การใส่โปรแกรมนำทาง 2 โปรแกรม มาในเครื่องรุ่นเดียวดูน่าจะแปลกไปสักหน่อย ซึ่งตรงนี้เชื่อว่าระบบ Foot Print ยังไม่ได้พัฒนาให้สามารถใช้งานกับ Garmin Mobile XT ที่ทางเอชทีซีประเทศไทย ทำสัญญาอยู่ด้วย จึงทำให้ต้องลง Papago! มาแก้ขัดไปก่อน
การใช้งานโปรแกรมของ Papago! ในกรณีที่กดให้นำทางจากรูปที่บันทึกไว้ โปรแกรมจะคำนวณเส้นทางระหว่าง จุดปัจจุบัน กับ จุดที่ต้องการไปถึงให้แบบอัตโนมัติ แต่ถ้าผู้ใช้ต้องการกำหนดจุดเอง เมื่อเข้าโปรแกรมตามปกติ จะพบกับหน้าจอหลัก ที่สามารถใช้ค้นหาถนน จุดหน้าสนใจ เข้าสู่มุมมองแผนที่ ดูประวัติการเดินทาง และเข้าสู่เมนูตั้งค่าต่างๆ โดยในหน้าจอนี้ สามารถเลือกที่จะปิดเสียง และซ่อนจุดสนใจได้อีกด้วย
เมื่อเข้าสู่การค้นหาถนน จะมีตัวอักษรขนาดใหญ่ขึ้นมาให้พิมพ์ชื่อถนนที่ต้องการค้นหา เมื่อพิมพ์เสร็จกดตกลงโปรแกรมก็จะแสดงผลการค้นหาที่สอดคล้องขึ้นมาทั้งหมด เมื่อกดลงไปบนรายชื่อถนนเหล่านั้นก็จะเข้าสู่โหมดแผนที่ตามปกติ กลับกันเมื่อเข้าสู่การค้นหาจุดหน้าสนใจ โปรแกรมจะทำการค้นหาจุดหน้าสนใจในบริเวณที่ผู้ใช้อยู่ ซึ่งผู้ใช้สามารถเลือกประเภทต่างๆได้
มุมมองแผนที่ สามารถแสดงผลได้ทั้งแบบ 3มิติ และ 2มิติ ซึ่งในกรณีที่ตั้งเป็นแบบ 3มิติไว้ เมื่อเจออาคารใหญ่ๆ หรือตึกสูงๆ ที่น่าสนใจ ก็จะมีการแสดงผลให้เห็นแบบเด่นชัด ส่วนมุมมอง 2 มิติ จะช่วยทำให้มองแผนที่ได้เข้าใจง่ายมากกว่า เพราะมีการแสดงผลชัดเจนดี
ส่วนเมนูในแถบด้านล่างของมุมมองถนนจะประกอบไปด้วย การเข้าสู่เมนูหลัก รูปหัวใจแสดงถึงจุดน่าสนใจที่ผู้ใช้บันทึกไว้ เช่น บ้าน ที่ทำงาน สถานที่ต่างๆ ส่วนรูปหัวใจมีเครื่องหมายบวกจะเป็นการเพิ่มสถานที่เข้าไปในจุดที่น่าสนใจ สุดท้ายเป็นเมนูการตั้งค่าหน้าจอว่าจะให้แสดงผลแบบ 2มิติ 3มิติ และเข้าสู่หน้าสถานะของระบบ ที่จะบอกค่าการรับสัญญาณ แบตเตอรี ระดับความสูง ฯลฯ
เมื่อเข้าสู่การตั้งค่าระบบ จะพบกับการตั้งค่าต่างๆของโปรแกรมไล่ตั้งแต่ ภาษา/ระดับเสียง เมื่อเข้าไปสามารถที่จะตั้งได้ว่าให้โปรแกรมใช้ภาษาใดในการแสดงผล รวมไปถึงการออกเสียง และระดับเสียงอีกด้วย ต่อมาคือการกำหนดเส้นทาง ซึ่งจะเป็นการตั้งค่าการขนส่ง การค้นหาเส้นทาง รวมไปถึงการหลักเลี่ยงเส้นทางต่างๆ ในส่วนของตั้งค่าการนำทาง จะมีให้ใช้เส้นแสดงจุดหมาย แสดงมุมมองตัวอาคาร โหมดกลางวัน/กลางคืน และหันหน้าไปทางทิศเหนือ
ส่วนตัวช่วยในการนำทางมีไว้เตือนจุดที่ต้องระวังเช่น กล้องตรวจจับความเร็ว การใช้ความเร็วเกินกำหนด และการแสดงเสียงเมื่อมีการคำนวณเส้นทางใหม่ การตั้งค่าแผนที่ ในกรณีที่ผู้ใช้ต้องการเดินทางไปต่างประเทศ สามารถหาแผนที่ของประเทศนั้นๆมาใส่เพื่อที่จะให้โปรแกรมช่วยนำทางได้ สุดท้ายคือเกี่ยวกับ หรือ แสดงเวอร์ชันของโปรแกรมที่ใช้อยู่นั่นเอง
Program And Setting
ในส่วนของโปรแกรมนอกจากที่กล่าวมาข้างต้นแล้ว ไม่มีอะไรแตกต่างจากรุ่นเก่าดังนั้นจึงขอไม่พูดถึงในจุดนี้ แต่สำหรับเมนูการตั้งค่ามีจุดที่เปลี่ยนปลงเล็กน้อยคือ ระบบ Car Kit Mode และการแสดงเวลาการใช้งานหลังจากชาร์จแบตเตอรี่เต็ม
ซึ่งการใช้งาน Car Kit Mode จะมีการแสดงผลเมื่อผู้ใช้นำตัวเครื่องไปใส่ไว้ใน Car Holder ในรถยนต์ ระบบดังกล่าวจะทำงานขึ้นมาทันที โดยจะประกอบด้วยปุ่มเรียกโปรแกรม Footprint โทรศัพท์ นำทางกลับบ้าน ค้นหาสถานที่ สถานที่ล่าสุด และเรียกโปรแกรมนำทาง(Papago!) ซึ่งเมนูต่างๆจะมีขนาดใหญ่พอให้ใช้นิ้วสัมผัสได้ทันที
ส่วนหน้าจอแสดงเวลาการใช้งาน จะเริ่มต้นนับใหม่ตั้งแต่ชาร์จแบตเตอรี่เต็มทุกครั้ง โดยแบ่งเวลาการใช้งานออกเป็น Standby Time, Talk Time และDevice Usage
สำหรับสเปกภายในของเครื่องเริ่มกันที่ซีพียูเป็น Qualcomm MSM7255 528MHz Ram ขนาด 256MB ROM 512MB รองรับบลูทูธ 2.0 EDR/A2DP และไวเลส 802.11 b/g
Design of HTC Touch Cruise'09
ในส่วนของดีไซน์ยังคงอยู่ในสไตล์ของ Touch Cruise รุ่นเก่า เพียงแต่มีการลบเหลี่ยมมุมให้โค้งมน น่าใช้งานมากขึ้น ขนาดของตัวเครื่องอยู่ที่ 102 x 53.5 x 14.5 มิลลิเมตร น้ำหนักประมาณ 103 กรัม มีวางจำหน่ายเพียงสีเดียวเท่านั้น
สำหรับหน้าจอจะเป็น TFT LCD ทัชสกรีนขนาด 2.8 นิ้ว แบบ QVGA ความละเอียด 320 x 240 พิกเซล บริเวณช่องสนทนาจะมีไฟสถานะของเครื่องละเซ็นเซอร์รับแสงติดอยู่ ส่วนบริเวณปุ่มควบคุมด้านล่างจะมีซอฟต์คีย์ปุ่มซ้าย สำหรับเข้าโปรแกรม Papago! X3 ส่วนซอฟต์คีย์ขวาใช้สำหรับเรียกโปรแกรม Footprint ปุ่มรับสาย-วางสาย และ ปุ่มควบคุม Navigation Wheel 4 ทิศทาง พร้อมปุ่มตกลง
ด้านซ้ายจะมีเพียงปุ่มปรับระดับเสียงอยู่มุมบนเท่านั้น ทางด้านขวาจะไม่มีปุ่มอะไรพิเศษ บริเวณมุมบนจะมีช่องเสียบปากกาสไตลัส ด้านบนก็จะเป็นปุ่มปิดเปิดเครื่องตามปกติ ส่วนด้านล่างจะเป็นช่อง HTC ExtUS มินิยูเอสบี สำหรับชาร์จแบตเตอรี่ เสียบหูฟัง และไมโครโฟนสนทนา
พลิกด้านหลังขึ้นมาดู จะพบกับกล้องความละเอียด 3.2 ล้านพิกเซล ที่เป็นแบบ Fix Focus ทำให้คุณภาพไม่ดีเท่าที่ควร การแกะฝาหลังของเครื่องรุ่นนี้ จะแตกต่างกับรุ่นอื่นที่ดันขึ้นหรือลง เป็นแงะออกจากทางด้านล่าง ทำให้ถ้าใช้ไปนานๆ ตัวฝาหลังจะมีรอยจากการแงะได้
เมื่อเปิดฝาออกมา บริเวณมุมบนจะมีช่องใส่ไมโครเอสดีการ์ด ปุ่มรีเซ็ต และ ช่องใส่ซิมการ์ดอยู่ใกล้ๆกัน การถอดซิมการ์ดจะต้องใช้ปากกาสไตลัส ช่วยในการดันซิมออกมาจากช่องบริเวณด้านบน ส่วนแบตเตอรี่ จะเป็น Lithium-ionความจุ 1100 mAh
บทสรุป
เนื่องด้วยเครื่องรุ่นนี้ เป็นตัวที่ชูจุดขายด้านการใช้งาน GPS เป็นหลัก ทำให้มีอุปกรณ์อย่าง Car Holder แถมมาให้ในชุดด้วย แต่ด้วยความที่เครื่องรุ่นนี้ไม่ค่อยมีความแตกต่างจากเครื่องรุ่นที่ออกมาก่อนหน้ามากนัก ทำให้ไม่ค่อยได้รับความนิยมมากที่ควร เพราะคนที่สนใจพีดีเอโฟน แต่ไม่ต้องการใช้งาน GPS อย่างเต็มที่ก็จะลงไปเล่นรุ่น Touch 3G แทน ในขณะที่ผู้บริโภคที่ต้องการความหรูหรามากขึ้น ก็จะเขยิบไปเล่นรุ่น Touch Diamond 2 แทน จากราคา + - ประมาณ 3,000 - 4,000 บาท
ในเรื่องของการใช้งานถือว่า เครื่องรุ่นนี้ครบเครื่องเลยทีเดียว มีทั้ง บลูทูธ ไวไฟ GPS ความเร็วซีพียู รอม แรม ก็ระดับเดียวกับเครื่องรุ่นราคาแพงของเอชทีซี แต่ทั้งนี้ยังคงมีข้อจำกัดทางด้านมัลติมีเดียอยู่เช่นเดิม คือไม่มีช่องเสียบหูฟังขนาด 3.5 มิลลิเมตร คุณภาพของกล้องถ้าถ่ายไกลๆ ก็อยู่ในระดับที่ดี แต่เนื่องจากไม่มี Auto Focus ทำให้ถ่ายในระยะใกล้ๆไม่ได้นั่นเอง
สุดท้ายถ้าใครชอบมือถือดีไซน์แบบนี้ น้ำหนักเบาๆประมาณ 106 กรัม ใช้งาน GPS สะดวก เครื่องรุ่นนี้เรียกว่าตอบสนองการใช้งานได้เป็นอย่างดีเลยทีเดียว แต่ถ้าต้องการใช้งานที่มากกว่ารุ่นนี้ เช่น หน้าจอขนาดใหญ่ เครื่องหรูหรา กล้องดีในทุกๆระยะ คงจะต้องมองข้ามเครื่องรุ่นนี้ไป
ขอชม
- ตัวเครื่องมีขนาดเล็ก พอดีมือ
- การทำงานตอบสนองได้รวดเร็ว
- ระบบ Footprint ที่ช่วยให้การเดินทางสนุกขึ้น
ขอติ
- รองรับระบบ 3G แต่ไม่มีวิดีโอคอล
- กล้องระบบ Fix Focus ทำให้ภาพที่ถ่ายในระยะใกล้ไม่ดี
- หน้าจอความละเอียด QVGA ในระดับราคาขนาดนี้ถือว่าน้อยไป
Company Related Links :
HTC