Toshiba Portege R500 Series เป็นโน้ตบุ๊กรุ่นที่เราน่าจะคุ้นตากันอยู่บ้าง เพราะเวอร์ชันแรกทีเดียวนั้น วางตลาดไปตั้งแต่ปี 2007 นู่น ก็ประมาณ 2 ปีที่แล้ว ตอนนั้นฮือฮากันทั้งวงการกับน้ำหนักตัวที่เบาหวิวแค่ 8 ขีด แต่วันนี้ที่เราต้องมาเล่าถึงโน้ตบุ๊กซีรีส์นี้อีกครั้งก็เพราะ บริษัท โตชิบา (Toshiba) เขาปล่อยสเปกใหม่ออกมา กับการเป็นโน้ตบุ๊กรุ่นแรกของโลกที่ใช้ฮาร์ดดิสก์แบบ SSD (Solid State Drive) ขนาด 128GB เรากำลังพูดถึง “Toshiba Portege R500–SSD265”
โตชิบาเปิดตัว “Toshiba Portege R500–SSD265” ครั้งแรกเมื่อเดือนมิถุนายน 2008 และเริ่มวางจำหน่ายในบ้านเราไปเมื่อช่วงต้นปีที่ผ่านมา มีจุดขายสำคัญอยู่ที่การใช้ฮาร์ดดิสก์แบบ SSD ขนาด 128GB แทนฮาร์ดดิสก์ปกติ ซึ่งนับเป็นครั้งแรกของโลกที่มีการบรรจุฮาร์ดดิสก์แบบ SSD ขนาดใหญ่ถึง 128GB เป็นอุปกรณ์มาตรฐาน
ข้อดีของฮาร์ดดิสก์แบบ SSD คือ “อึด” ไม่ต้องห่วงเรื่องหล่นกระแทกพื้นจนทำให้หัวอ่านหรือข้อมูลเสียหายเหมือนฮาร์ดดิสก์ทั่วไป และ “เร็ว” คือมีความเร็วในการอ่านและเขียนข้อมูลสูงกว่าฮาร์ดดิสก์ปกติ และด้วยความจุที่มากถึง 128GB นั่นหมายความว่าเราสามารถติดตั้งโปรแกรมต่างๆได้มากเท่าที่ต้องการ แถมยังเหลือพื้นที่ให้เก็บข้อมูลได้แบบเหลือๆ ไม่ต้องกลัวว่าฮาร์ดดิสก์จะเต็ม (เว้นแต่ใครจะลงโปรแกรมหรือเก็บข้อมูลแบบมากๆๆจริงๆ)
นอกจากฮาร์ดดิสก์แบบ SSD แล้ว "น้ำหนัก" ก็เป็นอีกจุดขายหนึ่ง และเป็นจุดขายดั้งเดิมมาตั้งแต่รุ่นแรก มารุ่นใหม่ก็ยังคงเบาหวิวแค่ 979 กรัม นี่ขนาดรวมน้ำหนักแบตเตอรี่แบบ 6 เซลล์ กับไดร์ฟ DVD SuperMulti เข้าไปแล้วด้วยนะ ยังไม่ถึง 1 กิโลกรัมเลย
คีย์บอร์ด เป็นอีกจุดหนึ่งที่น่าปรบมือให้อย่างยิ่ง เพราะเป็นแบบ Full Size ใช้งานได้ถนัดดีมาก แถมยังมีปุ่ม Page Up / Page Down และปุ่ม Home / End แยกอิสระมาให้ใช้งานกันด้วย ช่วยให้ทำงานได้เร็วขึ้นเยอะ
ดีไซน์เรียบง่าย ไม่เน้นหรู
Portege R500 Series มีดีไซน์ที่ค่อนข้างเรียบง่าย เน้นเรื่องบางและเบาเป็นหลัก แต่ยังคงไว้ซึ่งฟังก์ชันที่สมบูรณ์ อุปกรณ์ครบถ้วน และความง่ายในการใช้งาน บอดี้ทำจากพลาสติกคุณภาพสูง มีความยืดหยุ่น โทนสีบรอนซ์เงิน ประดับด้วยโครเมี่ยมและกระจกในบางจุดช่วยเพิ่มความหรูหรา
ฝาหน้าราบเรียบ มีแค่โลโก้ Toshiba ตัวสีเงินประดับอยู่เท่านั้น แต่สังเกตตรงมุมทั้งสองข้าง เห็นร่องไหมครับ เกิดจากชิ้นส่วน 2 ชิ้นมาประกอบเข้าด้วยกัน ไม่แน่ใจว่าเป็นความผิดพลาดในการประกอบหรือเปล่า เพราะสิ่งที่พบคือพื้นผิวของชิ้นส่วนทั้งสองชิ้นมันไม่เรียบเสมอกัน และร่องตรงรอยต่อก็ห่างไม่เท่ากันด้วย ถ้าเป็นรถยนต์ก็ฟันธงได้เลยว่าเคยชนหนักมาแล้ว การได้ความรู้สึกเช่นนี้กลับมาจากโน้ตบุ๊กราคาแสนกว่าบาท ทำให้น่าผิดหวังพอสมควร
เปิดฝาหน้าขึ้นมา เผยให้เห็นจอภาพขนาด 12.1 นิ้ว ความละเอียด 1280 x 800 พิกเซล ใช้เทคโนโลยี Transflective TFT ที่ช่วยให้ใช้งานกลางแจ้งได้ดีขึ้น พร้อมไฟแบ็คไลท์แบบ LED ที่ให้ความสว่าง สีสันสดใส และประหยัดไฟไปพร้อมกัน การใช้งานจริงพบว่าจอภาพสามารถลดแสงสะท้อนจากภายนอกได้ดีมาก กรอบจอเป็นสีดำด้านช่วยลดแสงสะท้อนได้อีกระดับ ภาพชัดเจนสีสันสดใสสมกับที่คุยไว้ แต่มุมมองค่อนข้างแคบ คือถ้ามองตรงๆก็ชัดเจนดี แต่ถ้าขยับเปลี่ยนองศาในการมองนิดหน่อย ภาพ แสง และสีที่แสดงอยู่ก็จะเพี้ยนไปทันที ถ้าใช้งานเอกสารจะไม่ค่อยมีปัญหาเท่าไหร่ แต่ถ้าดูรูปหรือกราฟิกที่มีสีสันเยอะๆแล้ว อาจรู้สึกว่ามันไม่ค่อยชัด อ้อ...ไม่มีเว็บแคมมาให้นะครับ
ลงมาที่ส่วนของคีย์บอร์ด อย่างที่บอกไปตั้งแต่ต้นว่าเป็นแบบ Full Size ใช้ได้ถนัดมือ น้ำหนักกดคีย์กำลังดี เหนือคีย์บอร์ดขึ้นไป มุมบนซ้ายเป็นช่องลำโพงโมโน...ย้ำว่าโมโน ลำโพงเดียว เล็กๆ...ติดๆกันเป็นปุ่ม Power ทำด้วยวัสดุโครเมี่ยมช่วยเพิ่มความหรูหรา พื้นที่ตรงกลางเป็นบอดี้ของแบตเตอรี่ ส่วนมุมบนขวาเป็นปุ่ม Toshiba Assist ใช้เป็นทางลัดสำหรับการเซ็ตอัพค่าการทำงานต่างๆของโน้ตบุ๊ก ติดๆกันเป็นปุ่มเปิด / ปิดแบ็คไลท์ ส่วนทางด้านล่างใต้คีย์บอร์ดลงมาเป็นเมาส์แพด ตัวปุ่มกดทำด้วยวัสดุโครเมี่ยม ตรงกลางระหว่างปุ่มกดเป็น Finger Scan จัดวางตำแหน่งและขนาดได้เหมาะสม ใช้งานได้ไม่ติดขัดแต่อย่างใด ถัดจากปุ่มกดของเมาส์แพดลงมาเป็นที่อยู่ของไฟแสดงสถานะการทำงานของโน้ตบุ๊ก มีแบ็คไลท์เป็นสีฟ้าและส้มสวยงามและชัดเจน อย่างไรก็ตาม ตรงนี้เป็นอีกจุดหนึ่งที่การประกอบดูไม่เนียนเท่าไหร่
ด้านซ้ายของตัวเครื่องเป็นที่อยู่ของช่องเสียบสายชาร์จ, พอร์ต D-Sub สำหรับต่อกับจอภายนอก, พอร์ต USB 2.0 พอร์ตที่ 1, พอร์ต Fire Wire, ช่องระบายอากาศ, พอร์ต USB 2.0 พอร์ตที่ 2, ช่องเสียบแจ็คไมโครโฟนและหูฟัง และสุดท้ายปุ่มปรับระดับเสียง
ด้านขวาของตัวเครื่องเป็นที่อยู่ของช่องเสียบ SD Card ที่ดูโล่งๆตาหน่อยเพราะไม่มีฝาปิด, DVD ไดร์ฟ ที่บางเฉียบแค่ 7 มิลลิเมตร แต่สมรรถนะสุดยอด, ปุ่มเปิดปิด Wi-Fi, พอร์ต USB 2.0 พอร์ตที่ 3, ช่องเสียบสายแลน และช่องคล้องสายล็อก ตรงนี้ดีไซน์ไม่ค่อยเรียบร้อยเหมือนกัน คือมันโล้นๆโล่งชอบกล
ด้านหลัง เป็นที่อยู่ของช่องแบตฯ ส่วนใต้ท้องมีช่องใส่แรม, พอร์ตสำหรับ Dock Station และช่องเสียบ PC Card
สมรรถนะและการใช้งาน
โปรเซสเซอร์ที่มากับ Toshiba Portege R500–SSD265 เป็น Intel Core 2 Duo รุ่น U7700 ความเร็ว 1.33GHz แคช L2 ขนาด 2MB ฟรอนต์ไซด์บัสความเร็ว 533MHz แรม 2GB แบบ DDR2 กราฟิกเป็น Intel Graphics Media Accelerator 950 การใช้งานโดยทั่วไปไม่มีปัญหา การทำงานกับกลุ่มโปรแกรมออฟฟิศซึ่งถือว่าเป็นโปรแกรมสามัญประจำเครื่องทำได้ยอดเยี่ยม ทุกอย่างฉลุย ไม่มีติดขัด ราบรื่นและเร็วดีทีเดียว
การตกแต่งภาพผ่านโปรแกรม Photoshop สามารถทำได้สบายๆ แต่ถ้าเป็นการตกแต่งภาพกราฟิกที่หนักมากๆ อย่างการเรนเดอร์กราฟิก 3D อันนี้หนืดพอสมควร เช่นเดียวกับการเล่นเกมที่มีกราฟิกละเอียดๆหรือต้องการพลังประมวลผลกราฟิกสูงๆ อันนี้ก็ออกอาการเช่นเดียวกัน
การดูหนังในฟอร์แม็ต DVD5 - DVD9 สามารถดูได้สบายๆ ภาพลื่นไหล ไม่มีสะดุด ไม่ขัดอารมณ์ แต่ถ้าเป็นหนังไฮเดฟ มีกระตุกบ้างเป็นบางช่วงเหมือนกัน จุดเสียอย่างเดียวคือจอภาพ มันไม่ชัดอย่างที่หวัง ส่วนการฟังเพลง เนื่องจากลำโพงที่ติดมากับตัวเครื่องเป็นลำโพงโมโนเดี่ยวๆ ดังนั้นจงอย่าได้คาดหวังอะไรมากกับมันมากนัก แค่พอฟังได้เท่านั้น แต่ถ้าฟังผ่านหูฟังล่ะก็ คนละเรื่องกันเลย คุณภาพเสียงอยู่ในเกณฑ์ดี มิติเสียงชัดเจน ฟังได้อารมณ์ดีมาก
แบตเตอรี่ที่ให้มาเป็นแบบ Li-Ion 5800mAh (6 Cell) การใช้งานแบบหนักๆ คือเปิด Outlook ค้างไว้เพื่อเช็คเมล และจัดการตารางนัดต่างๆ, ใช้อินเทอร์เน็ตต่อเนื่อง, ทำรูปใน Photoshop, พิมพ์งานใน Word, ประกอบข้อมูลใส่ Excel และฟังเพลงคลอไปด้วยตลอดเวลา เลือกโปรแกรมจัดการพลังงานแบบ Full Power จะรันได้ประมาณ 3-3.5 ชั่วโมง แต่ถ้าเล่นเน็ตอย่างเดียว ไม่ฟังเพลง และเลือกโปรแกรมจัดการพลังงานแบบ Normal แล้ว จะรันได้ประมาณ 4-4.5 ชั่วโมงก่อนเตือนแบตฯอ่อนครั้งแรก นับว่านานใช้ได้ทีเดียว และถ้าจะเอาให้แบตฯเกลี้ยงกันจริงๆ ก็อยู่ที่ประมาณ 5 ชั่วโมง
ส่วนเรื่องความร้อน ต้องบอกว่าร้อนใช้ได้เลย โดยเฉพาะทางฝั่งซ้ายมือซึ่งเป็นที่อยู่ของโปรเซสเซอร์และช่องระบายอากาศ วางมือกันลำบากทีเดียวเชียวแหละ
บทสรุป
Toshiba Portege R500–SSD265 เป็นโน้ตบุ๊กที่ได้รับการออกแบบมาเพื่อคนทำงานโดยเฉพาะ มีความโดดเด่นมากในเรื่องความบางและเบา เพราะเบา ถึงทำให้มีความคล่องตัวสูง สามารถพกพาไปตามสถานที่ต่างๆได้ง่ายและสะดวก สมรรถนะอยู่ในระดับสูง รองรับงานออฟฟิศทุกอย่างได้อย่างไม่มีปัญหา รวมไปถึงการตัดต่อคลิปสำหรับทำเป็นพรีเซนเตชัน หรือแม้แต่แฟลชแอนิเมชันเล็กๆก็ยังพอไหว แต่ถ้าเป็นงานกราฟิกชิ้นใหญ่ๆคงต้องขอบาย เช่นเดียวกับการเล่นเกม
การใช้งานง่าย อุปกรณ์ครบ โดยเฉพาะการมีไดร์ฟ DVD ในตัว ช่วยให้ทำสิ่งต่างๆในแต่ละวันได้สะดวกขึ้นเยอะ แบตเตอรี่ที่รันได้ยาวนานเกือบ 5 ชั่วโมงทำให้เราไม่ต้องกังวลกันมากนักในยามที่ต้องออกไปพบลูกค้าและพรีเซนต์โปรเจกต์ตลอดทั้งวัน
อย่างไรก็ตาม มันมีข้อเสีย คือมันไม่สวย ไม่เนี้ยบ ไม่หรู ไม่ไฮโซ เมื่อเทียบกับราคาค่าตัวระดับแสนบาท มันออกจะธรรมดาไปหน่อย ดังนั้นถ้าคุณเป็นคนทำงานและกำลังมองหาโน้ตบุ๊กที่เบา มีความสามารถรอบตัว มีความคล่องตัวสูงๆ โดยไม่ใส่ใจเรื่องความสวยงามมากนัก คือออกงานได้ แต่อย่าเอาไปอวดเพื่อน Toshiba Portege R500–SSD265 สามารถตอบสนองความต้องการของคุณได้อย่างตรงจุด แต่ถ้าเน้นภายนอกสวยและหรูด้วยแล้วล่ะก็ ในตลาดมีตัวเลือกที่น่าสนใจอีกเยอะ