ในปีนี้ทางโนเกียได้ส่งโทรศัพท์มือถือซีรีย์ "ซูเปอร์โนวา" ออกมาลองตลาดด้วยกันถึง 4 รุ่นตามที่ได้ทำการพรีวิวให้ชมกันไปแล้วก่อนหน้านี้ ซึ่งจะเห็นได้ว่าทุกรุ่นที่ออกมานั้นจะใช้รหัสนำหน้าด้วยเลข '7' วันนี้ทางทีมงานได้มีโอกาสทดลองใช้งานรุ่น 7310 ซูเปอร์โนวา แบบตัวเป็นๆ ที่วางจำหน่ายอยู่เพียงรุ่นเดียวในเวลานี้ และทีมงานขอถือโอกาสนี้มาบอกกล่าวหลังการใช้งานให้ได้รับชมกัน
Feature On Nokia 7310 Supernova
เนื่องจากตัว 7310 ซูเปอร์โนวา นั้นออกแบบมาให้มีความสวยงาม ขนาดเล็ก ใช้งานง่ายด้วยระบบอย่าง Symbian S40 ที่ไม่ซับซ้อน ในด้านของราคาถือว่าไม่แพงมากนัก ทำให้คุณสมบัติที่มีอาจไม่ใช่ในระดับดีที่สุดของทางโนเกีย
เมนูพื้นฐาน แบ่งออกเป็น 9 ฟังก์ชันหลักๆด้วยกัน
1. Messaging : ใช้ในการ รับ - ส่ง sms mms e-mail รวมไปถึง Instant Messaging ต่างๆ
2. Contacts : เมนูสำหรับการบันทึกเลขหมาย การแบ่งกลุ่มการบันทึก การตั้งค่าโทรออกด้วยความเร็ว การจัดการด้านสมุดโทรศัพท์ทั้งหลาย
3. Log : เป็นบันทึกการใช้งานต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น การโทรเข้า โทรออก แบบที่ไม่ได้รับสาย การใช้งาน GPRS
4. Settings : ใช้ในการตั้งค่าต่างๆของโทรศัพท์ ลักษณะการใช้งาน เสียงเรียกเข้า ธีม หน้าจอแสดงผล วันเวลา และ อุปกรณ์เชื่อมต่อต่างๆ
5. Media : เมนูสำหรับการใช้งานในด้านมัลติมีเดีย ทั้งกล้องถ่ายภาพ วิดีโอ เครื่องเล่นเพลง วิทยุ ระบบบันทึกเสียง รองรับไฟล์เสียง MP3, Midi, ACC, ACC+, eACC+, และ WMA
6. Push to talk : ระบบการเชื่อมต่อกับโทรศัพท์เครื่องอื่นของโนเกียที่นำมาใช้แทน วิทยุไร้สาย ที่มีเข้ามาในโทรศัพท์โนเกียยุคหลังๆ แต่ก็ยังไม่เคยได้ทดลองใช้กันสักที
7. Organiser : เดี๋ยวนี้โทรศัพท์แทบทุกรุ่นจะมีความสามารถในการจดวัน - เวลานัดหมายเพิ่มเข้ามาเพื่อเป็นการอำนวยความสะดวกในด้านธุรกิจ การจัดการของรุ่นนี้ไม่ถือว่ายากเลย เพียงแค่เลือกวันและใส่ค่าต่างๆเข้าไปก็เรียบร้อย
8. Applications : ระบบการจัดการโปรแกรมที่ลงในโทรศัพท์ สามารถใช้โปรแกรมแบบ Java MIDP 2.0 ได้ โปรแกรมที่มีมาให้แบบน่าแปลกใจเห็นจะเป็น Opera Mini ที่เป็นเสมือน บราวเซอร์ในมือถือ ซึ่งทางโนเกียเองได้มี Web Applications ของตัวเองอยู่แล้ว นอกจากนี้ยังมี Yahoo Ready สำหรับนักแชทให้มาด้วย
9. Web : ในส่วนนี้เป็นฟังก์ชันพื้นฐานทั่วไปของโทรศัพท์ที่รองรับระบบ GPRS/EDGE เพื่อให้เข้าถึงการใช้งานอินเทอร์เน็ตเว็บไซด์ต่างๆ
Design of Nokia 7310 Supernova
เนื่องจากโทรศัพท์รุ่นนี้ สามารถเปลี่ยนสีหน้ากากได้ถึง 7 สี ได้แก่ สีฟ้า(Steel Blue), สีเขียววาซาบิ (Wasabi Green) , สีเหลืองมะนาว (Yellow Mellow), สีชมพูลูกกวาด (Candy Pink), สีเงินเทา (Mushroom Silver), สีแดงพลัม (Plum Jam), น้ำเงิน (Electric Blue) ตัวเครื่องมีขนาด 106.5 x 45.4 x 12 มม. น้ำหนัก 83 กรัม ถือว่าเป็นมือถือขนาดเล็กใช้ได้เลยทีเดียว
ด้านหน้า : บริเวณด้านบนประกอบไปด้วยลำโพงสนทนา ถัดลงมาจะเป็น โลโก้ โนเกียสีขาว และหน้า TFT 240 x 320 พิกเซล ความละเอียด 16 ล้านสี ขนาด 2 นิ้ว
ในส่วนของปุ่มกดไล่ลงมาจากด้านบนประกอบด้วย เนวิเกชันคีย์ 5 ทิศทางล้อมรอบด้วยขอบสีเงิน ถัดออกมาด้านนอกจะพบ ซอฟต์คีย์ ซ้าย - ขวา ปุ่มรับสาย วางสาย ในพื้นหลังสีดำทั้งหมด
ถัดลงมาจะเป็นแผงปุ่มกดตัวเลขทั้งหมด ลักษณะปุ่มกดเป็นสีเงิน ตัวอักษรสีดำ ซึ่งเมื่อใช้งานจะกลายเป็นสีขาวจากไฟในตัวเครื่อง
ด้านหลัง : ด้านหลังจะเป็นลักษณะเรียบง่าย ด้านบนสุดเป็นกล้องความละเอียด 2 ล้านพิกเซล 4x ดิจิตอลซูม ถ่ายวิดีโอได้ในความละเอียด 176 x 144 (QCIF) 15 ภาพต่อวินาที
ถัดลงมาเป็นโลโก้ โนเกียสีขาว ส่วนบริเวณด้านล่างจะเป็นลำโพงเสียงเรียกเข้า และปุ่มเปิดฝาหลัง
เมื่อเปิดฝาหลังออกมาจะพบแบตเตอรี่รุ่น BL-4CT ขนาด 850 มิลลิแอมป์ และ ช่องใส่ซิมการ์ด ถัดลงมาจะเป็นช่องสำหรับใส่เมมโมรี่การ์ดแบบ Micro SD
ด้านขวา : ประกอบไปด้วย ปุ่มเพิ่ม - ลด เสียงในบริเวณด้านบนเท่านั้น
ด้านซ้าย : จะมีช่องสำหรับเสียบสายชาร์จด้านบน ด้านล่างจะเป็นตราปั้มโนเกียเพื่อความสวยงาม
ด้านบนและด้านล่าง : ด้านบนจะประกอบด้วยช่องเสียบสายลิงก์ USB และหูฟังขนาด 2.5 มม. ส่วนด้านล่างไม่มีอะไรพิเศษ
บทสรุป
โนเกีย 7310 ซูเปอร์โนวา ถือว่าเป็นโทรศัพท์ที่ใช้งานพื้นฐานทั่วไปที่มีรูปลักษณ์สวยงาม ฟังก์ชันเบสิกๆ ได้ถูกบรรจุลงมาอยู่ในมือถือรุ่นนี้ รวมทั้งสามารถใช้เป็นเครื่องเชื่อมต่อ GPRS/EDGE ไว้ต่อกับโน้ตบุ๊ก ฟังเพลงผ่านหูฟังบลูทูธในระบบสเตอริโอ กล้องความละเอียด 2 ล้านพิกเซลที่ให้มากับเครื่องนั้น ไม่ถือว่าขี้เหร่สำหรับราคาที่ตั้งไว้ ด้านการใช้งาน ลำโพงสนทนาชัดเจนตามมาตรฐานของโนเกีย
ขอชม
- ดีไซน์ที่ออกแบบให้หน้าจอมีลักษณะเหมือนสแตนเลสคลุมไว้ ไม่ได้เงาพอที่ผู้ใช้จะสามารถใช้ส่องแทนกระจกเงาได้ก็จริง แต่ระดับความวาวของวัสดุก็ช่วยให้โนเกีย 7310 ดูหรูหรามีระดับขึ้นทันตา ประกอบกับขนาดบางและความยาวกำลังดี ทำให้ส่วนผสมทุกอย่างลงตัว
- แอปพลิเคชันใช้งานง่ายไม่ต้องเรียนรู้มากตามสไตล์โนเกีย
ขอติ
- เครื่องที่ทีมงานได้ทดลองพบว่าอินเทอร์เฟสตอบสนองช้าบางช่วง กล้องจับภาพได้ช้ากว่าที่ควรจะเป็น
- คุณภาพระบบเสียงสเตอริโอด้อยกว่าโนเกียตระกูล MusicXpress แต่หากใช้ชุดเฮดเซ็ตจะได้คุณภาพใกล้เคียงกัน
สำหรับราคาเปิดตัวในประเทศไทยนั้นอยู่ที่ 6,150 บาท
Company Relate Link :
Nokia
