สื่อรัสเซียรายงานเมื่อวันพุธ (31 ธ.ค.) ว่า พลเอกวาเลรี เกราซิมอฟ ผู้บัญชาการทหารสูงสุดของรัสเซีย กล่าวว่ากองกำลังของรัสเซียกำลังรุกคืบในภาคตะวันออกเฉียงเหนือของยูเครน และประธานาธิบดี วลาดิมีร์ ปูติน ได้สั่งให้ขยายพื้นที่ที่มอสโกเรียกว่า "เขตกันชน" บริเวณนั้นในปี 2026
สำนักข่าว RIA รายงานว่า พลเอก เกราซิมอฟ กล่าวว่า ปูติน ได้สั่งให้ขยายเขตกันชนในภูมิภาคซูมีและคาร์คิฟของยูเครนใกล้ชายแดนรัสเซียในปี 2026 และยังได้ตรวจเยี่ยมกองกำลัง "เหนือ" ของรัสเซียด้วย
กองกำลังดังกล่าวถูกจัดตั้งขึ้นเมื่อต้นปี 2024 เพื่อปฏิบัติการในภาคตะวันออกเฉียงเหนือของยูเครน โดยพยายามสร้างเขตกันชนตามแนวชายแดน และผลักดันกองกำลังยูเครนไม่ให้รุกคืบต่อไป
คำกล่าวของ เกราซิมอฟ เกิดขึ้นหลังจากรัสเซียประกาศจะตอบโต้ความพยายามโจมตีบ้านพักของ ปูติน ซึ่งเป็นข้ออ้างที่ไร้หลักฐาน
รัฐบาลเคียฟได้ออกมาปฏิเสธข้อกล่าวหานี้ ซึ่งยูเครนเชื่อว่ามีจุดประสงค์เพื่อขัดขวางการเจรจาสันติภาพในขณะที่สงครามใกล้จะเข้าสู่ปีที่ 4 แล้ว
ยังไม่มีปฏิกิริยาใดๆ จากยูเครนต่อรายงานของ เกราซิมอฟ ในทันที
ปูติน เอ่ยซ้ำแล้วซ้ำเล่าว่า การตั้งเขตกันชนเป็นวิธีที่จะผลักดันกองกำลังและอาวุธของยูเครนให้ออกห่างจากชายแดนรัสเซีย โดยอ้างถึงการยิงปืนใหญ่และการโจมตีด้วยโดรนข้ามพรมแดนในภูมิภาคต่างๆ เช่น เบลโกรอด และคูสก์ เป็นต้น
ยูเครนปฏิเสธการสร้างเขตกันชนของมอสโก โดยกล่าวว่าเป็นแนวคิดที่รัสเซียเอามาใช้เพื่อเป็นข้ออ้างรุกรานดินแดนยูเครนให้ลึกยิ่งขึ้น
ประธานาธิบดี โวโลดีมีร์ เซเลนสกี แห่งยูเครนกล่าวว่า แผนการของมอสโกสำหรับซูมีและคาร์คิฟนั้น "บ้าคลั่ง" และจะถูกต่อต้านอย่างแน่นอนในขณะที่ยูเครนมุ่งมั่นปกป้องภูมิภาคเหล่านั้น
ที่มา: รอยเตอร์


