ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯในวันอาทิตย์(28ธ.ค.) เชื่อว่าผู้นำของทั้งยูเครนและรัสเซีย มีความจริงจังเกี่ยวกับสันติภาพ หลังจากพูดคุยกับทั้งคู่ ในสิ่งที่เขาเรียกว่าเป็นขั้นตอนสุดท้ายของเขาในความพยายามยุติสงคราม
ทรัมป์ ซึ่งเคยสัญญาว่าจะยุติสงครามในวันแรกๆที่เข้าดำรงตำแหน่งประธานาธิบดี กล่าวว่าเขาไม่มีเส้นตาย แต่กำลังดำเนินการด้านการทูตอย่างเร่งด่วนในช่วงสิ้นปี ในขณะที่เขาให้การต้อนรับประธานาธิบดีโวโลดิมีร์ เซเลนสกี แห่งยูเครน ในรัฐฟลอริดา
เช่นเดียวกับครั้งที่ เซเลนสกี พบปะกับ ทรัมป์ หนล่าสุดเมื่อเดือนตุลาคม ประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน แห่งรัสเซีย ได้พูดคุยทางโทรศัพท์กับผู้นำสหรัฐฯเป็นเวลาสั้นๆก่อนหน้านั้น โดย ทรัมป์ ส่งเสียงแห่งความหวังรอบใหม่ที่จะทำงานร่วมกับมอสโก ที่กำลังหาทางหลีกเลี่ยงแรงกดดันอันหนักหน่วงขึ้นเรื่อยๆจากวอชิงตันและยุโรป พันธมิตรของยูเครน
สุ้มเสียงในแง่บวกรอบใหม่ของทรัมป์ มีขึ้นแม้มีความคลางแคลงใจในวงกว้างในยุโรป เกี่ยวกับความตั้งใจของปูติน หลังจากรัสเซียยังคงเดินหน้าปฏิบัติการทิ้งบอบ์ครั้งใหญ่ถล่มกรุงเคียฟ ในช่วงเวลาเดียวกับที่ เซเลนสกี กำลังมุ่งหน้าสู่ฟลอริดา
เมื่อถูกถามว่า ปูติน มุ่งมั่นต่อสันติภาพหรือไม่ ในขณะที่เขายังคงโจมตียูเครนไม่หยุด ทาง ทรัมป์ ตอบว่า "เขาจริงจังมาก ผมอยากบอกว่าผมเชื่อว่ายูเครนก็ทำการโจมตีอย่างหนักหน่วงอยู่บ้างเช่นกัน ผมไม่ได้พูดในแง่ลบ ผมคิดว่าบางทีคุณอาจจำเป็น" ทรัมป์ กล่าว
ก่อนการเจรจาเริ่มต้นขึ้น ทรัมป์ โพสต์ข้อความบนทรุตช์โซเชียล สื่อสังคมออนไลน์ของเขาเอง ระบุว่าการสนทนาระหว่างเขากับปูติน เป็นไปอย่างสร้างสรรค์มากๆ
ระหว่างตอบคำถามผู้สื่อข่าวโดยมี เซเลนสกี ยืนอยู่ข้างๆ ทรัมป์ กล่าวว่าข้อตกลงที่กำลังถือกำเนิดขึ้นมา จะเป็นเรื่องดีสำหรับยูเครนเช่นกัน "จะมีข้อตกลงด้านความมั่นคง มันเป็นข้อตกลงที่หนักแน่น และบรรดาชาติยุโรปจะมีส่วนร่วมเป็นอย่างมาก พวกเขาจะมีส่วนเกี่ยวข้องมากๆในด้านการปกป้องและอื่นๆ" เขาระบุ
บรรดาที่ปรึกษาของทรัมป์ เคยนำเสนอความคิดเกี่ยวกับการมอบคำรับประกันด้านความมั่นคงคล้ายนาโตแก่ยูเครน ซึ่งหมายถึงทฤษฎีที่ว่าบรรดาสมาชิกพันธมิตรทหารแห่งนี้จะตอบโต้ทางทหาร หากว่ารัสเซียโจมตียูเครนอีกครั้ง
วังเครมลิน พูดอย่างชัดเจนกว่าเกี่ยวกับการหารือระหว่างทรัมป์กับปูติน ระบุผู้นำสหรัฐฯเห็นด้วยว่าการหยุดยิงเฉยๆ จะเท่ากับเป็นการทำให้ความขัดแย้งยืดเยื้อต่อไป ในขณะเดียวกันพวกเขาก็เรียกร้องให้ยูเครนยอมประนีประนอมด้านดินแดน
การพุดคุยระหว่าง ทรัมป์ กับ เซเลนสกี ใช้เวลาราวๆ 1 ชั่วโมง และหลังจากนี้ผู้นำทั้ง 2 มีกำหนดต่อสายพูดคุยกับบรรดาผู้นำพันธมิตรยุโรปร่วมกัน นอกจากนี้แล้ว ทรัมป์ ยังมีกำหนดหารือทางโทรศัพท์กับ ปูติน อีกรอบ หลังจากนั้นในวันเดียวกัน
แผนสันติภาพฉบับแก้ไข ซึ่งผุดออกมาท่ามกลางการเจรจาอันเข้มข้นนานหลายสัปดาห์ระหว่างสหรัฐฯกับยูเครน จะหยุดสงครามตามเส้นแนวหน้าในปัจจุบัน และอาจบังคับให้ยูเครนต้องถอนกำลังกลับจากภาคตะวันออก เปิดทางให้จัดตั้งแนวกันชนเขตปลอดทหาร ถ้าเป็นเช่นนั้น มันเท่ากับเป็นการยอมรับอย่างโจ่งแจ้งที่สุดของเคียฟ เกี่ยวกับความเป็นไปได้ของการยอมสละดินแดน
อย่างไรก็ตามมันไม่ได้กำหนดให้ยูเครนถอนตัวออกจากพื้นที่ 20% ในแคว้นโดเนตสก์ ทางภาคตะวันออก ที่ยังอยู่ภายใต้การควบคุมของพวกเขา อันเป็นข้อเรียกร้องหลักด้านดินแดนของรัสเซีย
เซเลนสกี ยังคงมองในแง่บวกอย่างระมัดระวัง ระหว่างที่พบปะกับ ทรัมป์ โดยกล่าว่า "มันเป็นเรื่องสำคัญมาก ที่คณะทำงานของเราจะได้พูดคุยกันเกี่ยวกับยุทธศาสตร์" จากนั้นผู้นำทั้ง 2 ได้เข้าไปยังห้องรับประทานอาหารค่ำของประธานาธิบดี ห้อมล้อมด้วยบรรดาผู้ช่วยระดับสูง ก่อนที่ ทรัมป์ จะบอกให้สื่อมวลชนออกไป และเริ่มรับประทานอาหาร
(ที่มา:เอเอฟพี)


