xs
xsm
sm
md
lg

เล่นมหาอำนาจซะแล้ว!สื่อเขมรโวยUS-จีนเอาแต่ปกป้องไทย เปิดทางใช้ข้ออ้างจัดการสแกมเมอร์ถล่มกัมพูชา

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



สื่อมวลชนกัมพูชาเวอร์ชันภาษาอังกฤษ ส่งเสียงโวยวายต่อท่าทีของ 2 ชาติมหาอำนาจอย่างสหรัฐฯและจีน ที่นิ่งเฉยไม่มีบทลงโทษใดๆต่อสิ่งที่พวกเขากล่าวหาว่าไทยละเมิดข้อตกลงหยุดยิง พร้อมมามุกเดิม อวดครวญว่าที่กัมพูชาเสมือนโดนลงโทษ ไม่ใช่เป็นฝ่ายผิด แต่เพียงเพราะเป็นประเทศเล็กๆ

ในรายงานพาดหัว Who Is Protecting Thailand—and Why Is Cambodia Paying the Price? ของสำนักข่าว KPT English เกริ่นว่า กระทรวงการต่างประเทศของไทยบอกว่า กัมพูชา เอาแต่พูดกับทุกฝ่ายเกี่ยวกับข้อตกลงหยุดยิง แต่ไทยไม่เคยได้รับข้อเสนอหยุดยิงใดๆจากกัมพูชา ถ้อยแถลงนี้ไม่ใช่เพื่อก่อความสับสน แต่มันเป็นความพยายามเบี่ยงประเด็นทางการเมือง

รายงานของ KPT English ระบุว่ากัมพูชาลงนามในข้อตกลงหยุดยิงเมื่อวันที่ 29 กรกฏาคม 2025 ที่มีสหรัฐฯ จีน และประธานอาเซียน เป็นสักขีพยาน ไทยฉีกข้อตกลงดังกล่าว และนับตั้งแต่วันที่7 ธันวาคม เครื่องบินเอฟ-16และกริพเพนของไทย ได้ทิ้งบอมบ์ถล่มกัมพูชาในทุกๆวัน ทั่วพื้นที่ต่างๆมากกว่า 7 จังหวัด เข้ามาลึกในดินแดนกัมพูชา ขณะที่ระเบิดล่วงหล่นลงมา การเรียกร้องให้เจรจา จึงไม่ใช่การทูต แต่มันเป็นเจตนาไม่บริสุทธิ์

KPT English บอกว่า ณ เวลานี้ คำถามสำคัญไม่ใช่เกี่ยวกับไทยอีกต่อไป แต่มันเป็นเรื่องเกี่ยวกับว่าใครกำลังปกป้องไทย ทำไมไทยถึงได้รับอนุญาตให้ละเมิดข้อตกลงหยุดยิงที่มีสักขีพยาน โดยปราศจากผลสนองใดๆ ทำไมยุทธการทางอาากศอย่างต่อเนื่องเล่นงานประเทศเพื่อนบ้านที่เล็กกว่า ถึงถูกปฏิบัติในฐานะ "ประเด็นระดับภูมิภาค" แทนที่จะเป็นสิ่งที่เรียกว่าการละเมิดอธิปไตยด้วยการใช้กำลัง

ขณะเดียวกัน KPT English โวยวายต่อว่า การปิดปากเงียบของอาเซียน ก็ไม่ใช่ความเป็นกลาง อาเซียนถูกสร้างมาเพื่อปกป้องกรณีเช่นนี้ สมาชิกหนึ่งๆกำลังใช้อำนาจทางการทหารกับอีกชาติสมาชิก ใช่ อาเซียนไม่ได้ออกคำประณามใดๆ ไม่มีกลไกบังคับใช้ และไม่มีการออกแรงกดดัน สื่อแห่งนี้ตั้งคำถามว่ามีรัฐสมาชิกบางชาติได้รับผลประโยชน์ทางการเมือง เศรษฐกิจ หรือทางยุทธศาสตร์จากไทย ใช้หรือไม่ จนทำให้ปิดปากเงียบเสมือนอำนวยความสะดวก แทนที่จะให้ความสำคัญกับหลักการ ความน่าเชื่อถือของอาเซียนไม่ใช่แค่อ่อนแอลง แต่มันถึงขั้นล่มสลายแล้ว

เท่านั้นยังไม่พอ KPT English ยังโวยวายไปถึงพฤติกรรมของบรรดาชาติมหาอำนาจ พวกเขาระบุว่าต่อหน้าสาธารณะแล้ว สหรัฐฯสนับสนุนกฎระเบียบระหว่างประเทศบนพื้นฐานของกติกา ถ้ากฎระเบียบนั้นมีความหมาย มันต้องถูกบังคับใช้ครั้งที่มีการละเมิดข้อตกลงหยุดยิงที่มีสักขีพยาน แล้วทำไมวอชิงตันถึงเลือกอดทนอดกลั้นอยู่เหนือความรับผิดชอบ? ทำไมการละเมิดสนธิสัญญาใดๆถึงเจอกับความเงียบงัน? เวลานี้คุณค่าทางยุทธศาสตร์ของไทยมีค่ามากว่าชีวิตชาวกัมพูชางั้นหรือ?

รายงานของ KPT English ระบุต่อว่าในขณะเดียวกัน จีน พูดไม่หยุดเกี่ยวกับอธิปไตยและการไม่แทรกแซง กัมพูชาถูกให้คำนิยามมาอย่างช้านานว่าเป็นพันธมิตรใกล้ชิดกับปักกิ่ง แล้วทำไมจีนถึงลังเลยามที่อธิปไตยของกัมพูชาถูกละเมิดทางอากาศ? ทำไมหลักการการป้องกันตนเองถึงมีข้อยกเว้น ความเป็นหุ้นส่วนสิ้นสุดลงแล้วหรือ ในยามที่ต้องการแรงกดดัน? มันไม่ใช้คำถามแห่งวาทกรรม แต่เป็นคำถามทางภูมิรัฐศาสตร์ และคำถามเหล่านี้ต้องการคำตอบ

KPT English ระบุคำกล่าวอ้างความชอบธรรมของไทยเปลี่ยนไปไม่หยุด เมื่อเร็วๆนี้วางกรอบการทิ้งบอมบ์ เป็น "ปฏิบัติการต่อต้านสแกมเมอร์" คำกล่าวอ้างนี้จบลงในทันทีภายใต้กฎหมายระหว่างประเทศ ไม่มีรัฐใดมีสิทธิ์ทิ้งบอมบ์ชาติอธิปไตยอื่นๆ บนพื้นฐานคำกล่าวอ้างเกี่ยวกับกิจกรรมทางอาญา อาชญากรรมจำป็นต้องจัดการผ่านการสืบสวน ความร่วมมือ ศาลและหลักฐาน ไม่ใช่การโจมตีทางอากาศ ตรรกะของไทยมีความหมายคือรัฐแข็งแกร่งกว่าหนึ่งใดสามารถทิ้งบอมบ์ใส่เพื่อนบ้านที่อ่อนแอกว่า ด้วยคำกล่าวหาแต่เพียงอย่างเดียว นี่ไม่ใช่ความสงบเรียบร้อย แต่เป็นความยุ่งเหยิง

สิ่งที่กำลังเกิดขึ้นในตอนนี้คือการทำให้การละเว้นโทษกลายเป็นเรื่องปกติ ไทยลงมือเพราะว่าพวกเขาเชื่อว่าสามารถทำได้ เพราะเชื่อว่าจะไม่มีผลสนองร้ายแรงตามมา เพราะความเงียบงันสอนให้พวกเขารู้ว่าพลังอำนาจอยู่เหนือกฎหมาย กัมพูชากำลังถูกลงโทษไม่ใช่เพราะทำผิด แต่เพราะเป็นชาติที่เล็กกว่า KPT English กล่าวอ้าง

(ที่มา: KPT English)


กำลังโหลดความคิดเห็น