ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ ในวันจันทร์(22ธ.ค.) ประกาศสร้างกองเรือรบติดอาวุธหนักชั้นใหม่ของอเมริกา ซึ่งจะตั้งชื่อตามตัวเขาเอง เกียรติยศที่ปกติแล้วจะสงวนไว้สำหรับบรรดาผู้นำอเมริกาที่พ้นจากการดำรงตำแหน่งไปแล้ว
ในเบื้องต้นจะมีการสร้างเรือรบชั้นทรัมป์ 2 ลำ แต่จำนวนอาจเพิ่มขึ้นอย่างมากในอนาคต อ้างอิงคำแถลงของประธานาธิบดีสหรัฐฯ ผู้ซึ่งบอกว่าเรือรบชั้นดังกล่าว "จะเป็นหนึ่งในเรือการสงครามพื้นผิวที่มีอานุภาพร้ายแรงที่สุด และ เป็นเรือรบที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในประวัติศาตร์ประเทศของเรา"
ทรัมป์ แถลงในเรื่องนี้ที่บ้านพักหรูมาร์อาลาโก ในรัฐฟลอริดา เคียงข้าง พีธ เฮกเซธ รัฐมนตรีสงคราม(กลาโหม), มาร์โก รูบิโอ รัฐมนตรีต่างประเทศ และ จอห์น ฟีแลน รัฐมนตรีว่าการทบวงทหารเรือ โดยมีการจัดแสดงภาพเรือรบล้ำสมัยอยู่ข้างๆ
ประธานาธิบีดสหรัฐฯบอกว่าเรือรบชั้นนี้จะมีน้ำหนักราว 30,000 ตัน ถึง 40,000 ตัน และจะติดอาวุธด้วยขีปนาวุธและปืน เช่นเดียวกับอาวุธต่างๆที่ยังอยู่ระหว่างการพัฒนา อย่างเช่นเลเซอร์และขีปนาวุธไฮเปอร์โซนิก "เรือเหล่านี้อาจบรรทุกขีปนาวุธร่อนยิงจากทะเลติดขีปนาวุธเช่นกัน ซึ่งปัจจุบันอยู่ระหว่างการพัฒนา"
อ้างอิงข้อมูลจากประธานาธิบดีสหรัฐฯ กองเรือรบชั้นทรัมป์จะมีขนาดใหญ่กว่าเรือพิฆาตและเรือลาดตระเวนของอเมริกาในปัจจุบัน แต่คาดหมายว่ามันน่าจะเล็กกว่ากองเรือรบชั้นไอโอวา กองเรือประจัญบานกลุ่มสุดท้ายที่ได้รับการขึ้นระวางในกองทัพเรือสหรัฐฯ ซึ่งปลดประจำการไปแล้วในช่วงทศวรรษ 1990
ถ้อยแถลงของ ทรัมป์ มีขึ้นไม่กี่วันหลังจากกองทัพเรือเปิดเผยแผนสำหรับกองเรือรบชั้นใหม่อีกกองเรือ ซึ่งก็คือกองเรือฟริเกตที่ได้รับสมญานามว่า FF(X) ที่พวกเขาบอกว่าจะประกอบด้วยกองเรือรบเอนกประสงค์ที่ใหญ่กว่าเดิม
ฟีแลน บอกว่ากองเรือ FF(X) จะมีพื้นฐานจากแบบในปัจจุบันของ ฮิลล์ บริษัทผู้สร้างเรือ ที่ถูกใช้งานโดยยามชายฝั่งของสหรัฐฯอยู่ก่อนแล้ว และเป้าหมายคือเรือฟริเกตลำแรกในกองเรือใหม่จะถูกส่งเข้าประจำการในน่านน้ำภายในปี 2028
วอชิงตัน ตกเป็นฝ่ายล้าหลังจีนอย่างมาก ในแง่ของจำนวนเรือรบในกองทัพเรือ และรายงานฉบับหนึ่งที่ยื่นต่อสภาคองเกรสเมื่อช่วงกลางปี เน้นว่าเจ้าหน้าที่ทหารสหรัฐฯและนักสังเกตการณ์คนอื่นๆมีความกังวล ต่ออัตราความรวดเร็วในความพยายามต่อเรือของจีน
"เรากำลังกอบกู้อเมริกาในฐานะมหาอำนาจหลักในการต่อเรือ" ทรัมป์กล่าวในวันจันทร์(22ธ.ค.) "เรากำลังรับประกันว่าสหรัฐฯมีกองเรือทรงแสนยานุภาพมากที่สุด เหนือกว่าชาติไหนๆในโลกและไปอีกนานในอนาคต โดยมีกองเรือรบเป็นแกนนำ"
(ที่มา:เอเอฟพี)


