เอเจนซีส์ – อเมริกาจู่โจมยึดเรือน้ำมันลำที่สองในน่านน้ำสากลนอกชายฝั่งเวเนซุเอลา โดยผู้เชี่ยวชาญเผยว่า เรือลำดังกล่าวไม่ได้ถูกอเมริกาแซงก์ชันมาก่อน ซึ่งขัดแย้งกับคำแถลงของทรัมป์ก่อนหน้านี้ที่ว่า อเมริกาจะปิดกั้นเรือบรรทุกน้ำมันทุกลำที่ถูกแซงก์ชันไม่ให้เข้า-ออกจากเวเนซุเอลา
ความเคลื่อนไหวนี้ซึ่งถือเป็นครั้งที่สองในรอบไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา เกิดขึ้นหลังจากเมื่อวันอังคาร (16 ธ.ค.) ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ประกาศ “ปิดกั้น” เรือบรรทุกน้ำมันที่ถูกแซงก์ชันทุกลำไม่ให้เข้า-ออกจากเวเนซุเอลา อีกทั้งเกิดขึ้นขณะที่กองทัพอเมริกาส่งกำลังประจำการครั้งใหญ่ในทะเลแคริบเบียนและมหาสมุทรแปซิฟิกตะวันออก
คริสตี โนเอม รัฐมนตรีกระทรวงความมั่นคงแห่งมาตุภูมิของอเมริกา ยืนยันผ่านโซเชียลมีเดียเมื่อวันเสาร์ (20 ธ.ค.) ว่า หน่วยยามฝั่งได้เข้ายึดเรือบรรทุกน้ำมันลำหนึ่งที่ก่อนหน้านี้จอดเทียบท่าอยู่ในเวเนซุเอลา และย้ำว่า อเมริกาจะยังคงติดตามความเคลื่อนไหวผิดกฎหมายของน้ำมันที่ถูกแซงก์ชันและถูกนำไปใช้อุดหนุนการก่อการร้ายด้วยยาเสพติดในภูมิภาคดังกล่าวต่อไป
แวนการ์ด บริษัทจัดการความเสี่ยงทางทะเล คาดว่า เรือที่ถูกยึดเป็นเรือเซนจูรี่ส์ที่ติดธงปานามา โดยถูกสกัดทางตะวันออกของบาร์เบโดสในทะเลแคริบเบียน
เจเรมี เพเนอร์ หุ้นส่วนของฮิวจ์ ฮับบาร์ด บริษัทกฎหมายในวอชิงตัน ดีซี และอดีตเจ้าหน้าที่สอบสวนของสำนักงานควบคุมทรัพย์สินต่างชาติในสังกัดกระทรวงการคลังสหรัฐฯ ระบุว่า ความเคลื่อนไหวล่าสุดมีจุดประสงค์เพื่อเพิ่มความกดดันเวเนซุเอลา และสำทับว่า เรือลำดังกล่าวไม่ได้ถูกอเมริกาแซงก์ชัน ซึ่งขัดแย้งกับคำแถลงของทรัมป์ก่อนหน้านี้ว่า อเมริกาจะปิดกั้นเรือบรรทุกน้ำมันทุกลำที่ถูกแซงก์ชัน
การที่อเมริกายึดเรือบรรทุกน้ำมันลำแรกนอกชายฝั่งเวเนซุเอลาเมื่อสองสัปดาห์ก่อนเท่ากับเป็นการคว่ำบาตรโดยปริยาย เพราะนับจากนั้นเรือบรรทุกน้ำมันเลือกที่จะเทียบท่าอยู่ในเวเนซุเอลาแทนที่จะเสี่ยงออกมาให้ถูกยึด ส่งผลให้ปริมาณการส่งออกน้ำมันดิบของเวเนซุเอลาตกฮวบ
อย่างไรก็ดี ขณะที่เรือบรรทุกน้ำมันจำนวนมากที่ขนน้ำมันของเวเนซุเอลาถูกแซงก์ชัน แต่เรือบรรทุกน้ำมันอื่นๆ ที่ขนน้ำมันดิบจากอิหร่านและรัสเซียรอดพ้นจากมาตรการนี้ และบริษัทบางแห่งโดยเฉพาะอย่างยิ่งเชฟรอนของอเมริกา ขนน้ำมันจากเวเนซุเอลาโดยใช้เรือที่ได้รับอนุญาตของตนเอง
นักวิเคราะห์ระบุว่า จีนเป็นผู้ซื้อน้ำมันดิบจากเวเนซุเอลารายใหญ่ที่สุด โดยคิดเป็นสัดส่วนราว 4% ของมูลค่าการนำเข้าทั้งหมด เฉพาะยอดจัดส่งในเดือนปัจจุบันอยู่ที่เฉลี่ยกว่า 600,000 บาร์เรลต่อวัน (บีพีดี)
ตลาดน้ำมันในขณะนี้ยังมีซัปพลายเพียงพอ และมีน้ำมันอีกหลายล้านบาร์เรลในเรือบรรทุกน้ำมันหลายลำที่จอดอยู่นอกชายฝั่งจีนเพื่อรอการขนถ่าย แต่หากมาตรการคว่ำบาตรยืดเยื้อออกไป การสูญเสียน้ำมันในตลาดเกือบ 1 ล้านบีพีดีอาจส่งผลให้ราคาน้ำมันพุ่งขึ้น
นับจากที่อเมริกาแซงก์ชันพลังงานของเวเนซุเอลาในปี 2019 บรรดาผู้ค้าและโรงกลั่นน้ำมันที่ซื้อน้ำมันจากเวเนซุเอลาต่างเลี่ยงไปใช้ “กองเรือบรรทุกน้ำมันเงา” ที่ปกปิดตำแหน่งที่ตั้งและใช้เรือที่ถูกแซงก์ชันจาการขนส่งน้ำมันอิหร่านหรือรัสเซีย ซึ่งกองเรือเหล่านั้นมีความเสี่ยงที่จะถูกอเมริกาลงโทษ
จากเอกสารภายในของพีดีวีเอสเอ ซึ่งเป็นกิจการน้ำมันของรัฐบาลเวเนซุเอลา เรือเซนจูรี่ส์ที่บรรทุกน้ำมันจากเวเนซุเอลาโดยใช้ชื่อปลอมว่า “แคร็ก” และเป็นส่วนหนึ่งของกองเรือเงานั้น ขนน้ำมันดิบ 1.8 ล้านบาร์เรลและมีจุดหมายปลายทางที่จีน
ขณะเดียวกัน ข้อมูลและภาพถ่ายดาวเทียมของ TankerTrackers.com ระบุว่า เรือลำดังกล่าวออกจากน่านน้ำเวเนซุเอลาเมื่อวันพุธ (17 ธ.ค.) หลังจากได้รับการคุ้มกันช่วงสั้นๆ โดยกองทัพเรือเวเนซุเอลา
เฉพาะสัปดาห์ที่ผ่านมา เรือบรรทุกน้ำมันกว่า 70 ลำในน่านน้ำเวเนซุเอลาซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของกองเรือเงา มีประมาณ 38 ลำที่ถูกกระทรวงการคลังสหรัฐฯ แซงก์ชัน และอย่างน้อย 15 ลำในจำนวนนั้นขนน้ำมันดิบและเชื้อเพลิงขึ้นเรือแล้ว
ทั้งนี้ นอกจากส่งกำลังขนาดใหญ่ไปคุมเชิงแล้ว ทรัมป์ยังกดดันประธานาธิบดีนิโคลัส มาดูโรของเวเนซุเอลาด้วยการโจมตีเรือกว่า 20 ลำในมหาสมุทรแปซิฟิกและทะเลแคริบเบียนใกล้เวเนซุเอลา ทำให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 100 คน ประมุขทำเนียบขาวยังประกาศว่า อเมริกาจะเริ่มโจมตีภาคพื้นดินในเวเนซุเอลาเร็วๆ นี้
ทางด้านมาดูโรกล่าวหาว่า แผนการทั้งหมดของทรัมป์มีเป้าหมายในการโค่นล้มตน และเข้าควบคุมแหล่งน้ำมันของเวเนซุเอลาซึ่งเป็นแหล่งน้ำมันดิบสำรองใหญ่ที่สุดในโลก


