เอเจนซีส์ – เครื่องบินโดยสาร JetBlue เกือบชนเครื่องบินกองทัพสหรัฐฯกลางอากาศแต่กัปตันอาศัยประสบการหลบได้ทันใกล้เวเนซุเอลา หลังพบเครื่องบินทหารปิดทรานสปอนเดอร์ติดตามอยู่ในระดับเพดานบินเดียวกันก่อนเครื่องจะบินเข้าสู่น่านฟ้าเวเนซุเอลา กัปตันเครื่อง JetBlue แจ้งกับระบบหอการควบคุมบังคับการบินอย่างหัวเสีย
สกายนิวส์ของอังกฤษรายงานวันจันทร์(15 ธ.ค) เครื่องบินโดยสาร JetBlue เที่ยวบิน 1112 ออกจากนิวยอร์กมุ่งหน้าสู่กูราเซา(Curacao) ประเทศเกาะในทะเลแคริบเบียน เป็นส่วนหนึ่งของเนเธอร์แลนด์และอยู่ห่างจากชายฝั่งเวเนซุเอลาไป 40 ไมล์ในวันศุกร์(12) วันเกิดเหตุเมื่อเครื่องบินโดยสารแอร์บัส A320 พบกับเครื่องบินรบกองทัพสหรัฐฯ
ทั้งนี้พบว่าเครื่องบินโดยสาร JetBlue อยู่ในระดับเพดานบินเดียวกันกับเครื่องบินรบอเมริกันและห่างจาก JetBlue ไปแค่ไม่กี่ไมล์เท่านั้น
โดยในเสียงบันทึกที่นักบิน JetBlue กับหอบังคับการจราจรทางอากาศกล่าวว่า “พวกเราหวิดชนกันกลางอากาศที่นี่”
และ “พวกเขาผ่านตรงมาในเส้นทางการบินของพวกเรา..พวกเขาไม่เปิดระบบทรานสปอนเดอร์บอกตำแหน่ง มันน่าเดือดดาลมาก”
กัปตันเครื่องบินโดยสาร JetBlue กล่าวว่า เครื่องบินบรรทุกเชื้อเพลิงของกองทัพสหรัฐฯได้หลบเข้าไปในน่านฟ้าเวเนซุเอลาแทน
ทั้งนี้เดือนที่แล้ว สำนักงานกำกับการบินแห่งชาติสหรัฐฯ FAA ได้เตือนสายการบินยักษ์ใหญ่ต่างๆถึงสถานการณ์ร้ายแรงที่อาจเกิดขึ้นได้หากบินอยู่ใกล้เวเนซุเอลาและเรียกร้องให้สายการบินดังใช้ความระมัดระวังส่งผลทำให้สายการบินทั่วโลกต่างหยุดการให้บริการบินเพื่อเลี่ยงอันตรายระหว่างความตรึงเครียดใกล้เวเนซุเอลามีเพิ่มขึ้นโดยมีกองกำลังสหรัฐฯจำนวนมากมารวมตัวที่นี่
และล่าสุดในวันจันทร์(15) ประเทศตรินิแดดและโตเบโก(Trinidad and Tobago)กลายเป็นชาติล่าสุดที่ไฟเขียวให้เครื่องบินรบสหรัฐฯสามารถผ่านแวะจอดทรานซิตในสนามบินของตัวเองในอีกไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า อ้างอิงจากกระทรวงต่างประเทศตรินิแดดและโตเบโก


