เอพี/เอเจนซีส์ – สถาบันโนเบลแห่งนอร์เวย์เปิดแถลงวันพุธ(11 ธ.ค) ผู้ชนะรางวัลโนเบลสาขาสันติภาพปีนี้จะไม่เดินทางเข้ามารับรางวัลด้วยตัวเอง ยอมรับไม่สามารถติดต่อผู้ชนะฝ่ายค้านเวเนซุเอลา มาเรีย โครินา มาชาโด (María Corina Machado)ได้หลังหายตัวไปนานถึง 11 เดือนเต็ม แต่ครอบครัวอยู่ที่กรุงออสโลแล้ว เวลาเดียวกันกับที่ประธานาธิบดีสหรัฐฯ โดนัลด์ ทรัมป์ ยังข่มขู่มาดูโนไม่เลิกวานนี้(9 ธ.ค)ส่งเครื่องบินขับไล่ F/A-18 Super Hornets ของกองทัพเรือสหรัฐฯบินวนคุกคามเหนืออ่าวเวเนซุเอลแต่ยันอยู่ในน่านน้ำสากล
เอพีรายงานวันนี้(10 ธ.ค)ว่า ผู้อำนวยการสถาบันโนเบลแห่งนอร์เวย์ คริสเตียน แบร์ก ฮาร์ปวีเกน (Kristian Berg Harpviken) ให้สัมภาษณ์ต่อสถานีโทรทัศน์นอร์เวย์ NRK ในวันพุธ(10)ว่า ฝ่ายค้านเวเนซุเอลา มาเรีย โครินา มาชาโด (María Corina Machado) จะไม่เดินทางมาที่กรุงออสโล ในวันพิธีมอบรางวัลโนเบลสาขาสันติภาพที่ทรงเกียรติซึ่งมาชาโดเป็นผู้ชนะในปีนี้ แต่บุตรสาวผู้นำฝ่ายค้านเวเนฯจะเป็นผู้รับรางวัลแทนเอง
ทั้งนี้หนึ่งวันก่อนหน้าในพิธีแถลงข่าวที่มีการคาดหวังว่าผู้ชนะจะปรากฏตัวได้ถูกสั่งยกเลิกไป เจ้าหน้าที่สถาบันยอมรับในเวลานี้ไม่รู้ว่าเธออยู่ที่ไหนหลังออกมาปรากฏตัวต่อสาธารณะเมื่อ 11 เดือนก่อนหน้า
มาชาโดหลบซ่อนจากสาธารณะและไม่พบอีกเลยนับตั้งแต่วันที่ 9 ม.ค ต้นปีที่เธอได้เข้าร่วมเป็นเวลาสั้นๆในการประท้วงต่อต้านประธานาธิบดีเวเนซุเอลา นิโกลัส มาดูโร ในกรุงคาราคัส เอพีชี้
ผู้นำหญิงฝ่ายค้านวัย 58 ปีถูกประกาศชื่อในวันที่ 10 ต.ค คว้ารางวัลสูงสุดของสถาบันโนเบลมาได้สำเร็จเพื่อยกย่องต่อการเปลี่ยนผ่านทางประชาธิปไตยในประเทศแดนละตินของตัวเองและได้ถูกตั้งฉายาว่าเป็นผู้หญิงที่ทำให้เปลวไฟแห่งประชาธิปไตยลุกโชนท่ามกลางความมืดมิด
เดอะการ์เดียนของอังกฤษรายงานว่า เวลานี้ยังไม่รู้ว่ามาชาโดนั้นอยู่ที่ใดแต่ทว่ามีบางรายงานเปิดเผยว่า ผู้นำฝ่ายค้านเวเนซุเอลาสามารถหนีเข้ายุโรปและอ้างว่าบางทีเธออาจได้รับความช่วยเหลือจากรัฐบาลสหรัฐฯสามารถเล็ดลอดออกไปจากเวเนซุเอลาผ่านเปอร์โตริโก ดินแดนของสหรัฐฯ
ทั้งนี้อ้างอิงจากบีบีซีของอังกฤษ ครอบครัวของมาชาโดนั้นอยู่ในกรุงออสโลแล้ว
รัฐบาลเวเนซุเอลาได้เคยแถลงว่าหากว่าผู้นำฝ่ายค้านหลบหนีออกไปจากเวเนซุเอลา เธอจะถูกจัดว่าเป็นผู้ร้ายหนีคดีทันที
เดอะการ์เดียนยังรายงานถึงสถานการณ์เวเนซุเอลาว่า ขณะเดียวกันสหรัฐฯยังคงกดดันประธานาธิบดี นิโกลัส มาดูโร ไม่เลิกราล่าสุดส่งเครื่องบินขับไล่ 2 ลำบินวนเหนืออ่าวเวเนซุเอลาในลักษณะคุกคาม
ทั้งนี้พบว่าเครื่องบินรบ F/A-18 Super Hornet จำนวน 2 ลำบินคู่เข้าสู่อ่าวเวเนซุเอลาที่แคบเป็นเวลาราว 40 นาที เครื่องบินเจ็ตขับไล่บินอยู่ทางเหนือของมาราไคโบ (Maracaibo) ที่มีชื่อเสียงมากที่สุดของประเทศแดนละตินแห่งนี้
ขณะที่เครื่องบินเจ็ตสอดแนมของกองทัพเรือสหรัฐฯ EA-18G Growler บินทางเหนือของอ่าวเวเนซุเอลาในวันอังคาร(9) อ้างอิงจากสื่อการทหารสหรัฐฯ เดอะวอร์โซน
คาราคัสอ้างสิทธิ์พื้นที่บางส่วนของอ่าวเวเนซุเอลาว่าเป็นดินแดนของเวเนซุเอลา แต่อย่างไรก็ตามสหรัฐฯนั้นท้าทายมาโดยตลอดได้กล่าวว่า พวกเขานั้นอยู่ในเขตน่านน้ำสากลและน่านฟ้าสากล


