กัมพูชาต้องการเงินอีกอย่างน้อย 150 ล้านดอลลาร์(ราว 4,700 ล้านบาท) เพื่อเดินหน้าปฏิบัติการเก็บกู้ทุ่นระเบิดเพื่อมนุษยธรรมให้เสร็จสมบูรณ์และบรรลุเป้าหมายกลายเป็นชาติปลอดกับระเบิดในปี 2030 จากคำขอของ ลี ทุช (Ly Thuch) รัฐมนตรีอาวุโสและ รองประธานสำนักงานปฏิบัติการทุ่นระเบิดกัมพูชา (CMAA) ระหว่างให้สัมภาษณ์กับขแมร์ไทม์สเมื่อวันอาทิตย์(7ธ.ค.)
ทุช กล่าวอ้างว่าเงินทุนจะถูกใช้ในด้านจัดเตรียมผู้ปฏิบัติงานและเร่งมือเคลียร์ทุ่นระเบิดในบางพื้นที่ที่มีภูมิประเทศที่ยากลำบากที่สุดในประเทศ โดยมันจะถูกนำไปขจัดทุ่นระเบิดครอบคลุมพื้นที่มากกว่า 500 ตารางกิโลเมตร ในพื้นที่ที่ทราบกันดีว่าเต็มไปด้วยทุ่นระเบิด
ขแมร์ไทม์ส รายงานว่านับตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน 2024 CMAA ได้ดำเนินการสำรวจทางเทคนิครอบใหม่ในพื้นที่ต่างๆทั่ว 7 จังหวัดตามแนวชายแดนไทย เพื่อค้นหาพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบจากทุ่นระเบิดที่เหลืออยู่ ซึ่งก่อนหน้านี้ไม่สามารถเข้าถึงได้ "ปัญหาที่ยังเหลือ เกี่ยวกับพื้นที่ปนเปื้อนทุ่นระเบิดสังหารบุคคลกว่า 500 ตารางกิโลเมตร และตัวเลขนี้นับเฉพาะทุ่นระเบิดเท่านั้น" ทุชกล่าวอ้าง
จำนวนมากของทุ่นระเบิดที่ตกค้าง อยู่ในแถบเทือกเขา ป่าและภูมิภาคหินขรุขระตามแนวชายแดน ทำให้การเข้าเคลียร์เป็นไปอย่างล่าช้าและต้องการความเชี่ยวชาญทางเทคนิค "ความท้าทายสำหรับทีมกู้ทุ่นระเบิดของเราคือประเด็นเรื่องประสิทธิภาพ มันมีความคืบหน้าอย่างล่าช้าเพราะภูมิประเทศยากลำบากมากๆ" เราต้องการเงินอีกกว่า 100 ล้านดอลลาร์ เพื่อให้งานเสร็จสิ้นและตอนนี้เรามีแผนที่ชัดเจนสำหรับเคลียร์พื้นที่เหล่านี้แล้ว"
ระหว่างการประชุมรัฐภาคีอนุสัญญาห้ามทุ่นระเบิดสังหารบุคคล(อนุสัญญาออตตาวา) ครั้งที่ 22 เมื่อช่วงต้นเดือนธันวาคม บรรดารัฐภาคีได้อนุมัติคำร้องขอของกัมพูชาสำหรับการขยายกรอบเวลาเป็นครั้งที่ 3 ให้เวลาพนมเปญจนถึงปี 2030 ในการทำตามมาตรา 5 ที่ทางกัมพูชาให้สัตยาบันแล้ว
ทุช อ้างว่าการเห็นชอบดังกล่าว แสดงให้เห็นถึงความเชื่อมั่นในแผนแห่งชาติของกัมพูชาและคำมั่นสัญญาที่มีมาอย่างยาวนานของรัฐบาลกัมพูชา ต่อการขจัดทุ่นระเบิด ซึ่งบ่อยครั้งถูกหยิบยกเป็นต้นแบบสำหรับบรรดาชาติที่ได้รับผลกระทบอื่นๆ
กัมพูชา ประจำการเจ้าหน้าที่เก็บกู้ทุ่นระเบิดที่ผ่านการฝึกฝนแล้วและมีประสบการณ์ราวๆ 5,000 นาย กลุ่มคนที่ ทุช เรียกว่าเป็นกระดูกสันหลังของความพยายามเก็บกู้ทุ่นระเบิด "เรามีคำมั่นสัญญาภายใต้การสนันุนจากบรรดามิตรประเทศ และด้วยความมุ่งมั่น เราเชื่อว่าเราสามารถบรรลุเป้าหมายของเราในปี 2030"
เขาเรียกร้องให้บรรดามิตรประเทศ คู่หูด้านการพัฒนา พวกผู้ปฏิบัติการด้านทุ่นะรเบิด และหุ้นส่วนทั้งหลาย ให้เดินหน้าสนับสนุนกัมพูชาต่อไป ในความพยายามเคลียร์ทุ่นระเบิดในช่วงสมัยสงคราม
รายงานของขแมร์ไทม์ส อ้างว่านับตั้งแต่ปี 1992 กัมพูชาทำการเคลียร์ที่ดินที่ปนเปื้อนทุ่นระเบิดไปแล้วกว่า 3,300 ตารางกิโลเมตร จำนวนผู้เสียชีวิตในแต่ละปีลดลงอย่างมาก จากมากกว่า 4,000 รายในช่วงทศวรรษ 1990 เหลือไม่ถึง 100 รายในทุกวันนี้
(ที่มา:ขแมร์ไทม์ส)


