เอเจนซีส์ - ผู้บัญชาการหน่วยปฎิบัติการพิเศษสหรัฐฯ พลเรือเอก แฟรงก์ “มิตช์” แบรดลีย์ยืนยันจมเรือสปีดโบ๊ทขนโคเคนตามคำบัญชารัฐมนตรีกลาโหมสหรัฐฯ พีท เฮกเซธ ยืนยันปฎิบัติการชอบด้วยกฎหมายใช้กระสุนแม่นยำสูงGBU-69 โจมตี เห็นคนรอดชีวิต 2 คนโบกมือให้ แหล่งข่าวอ้างข่าวกรองลับสหรัฐฯชี้ทั้ง 11 คนบนเรือโดนขึ้นบัญชีดำทหารสหรัฐฯ
เดลีเมลของอังกฤษรายงานวันอาทิตย์(7 ธ.ค)ว่า พลเรือเอก แฟรงก์ “มิตช์” แบรดลีย์ (Adm. Frank “Mitch” Bradley) มีรายงานให้การต่อสภาคองเกรสสหรัฐฯว่า คนทั้ง 11 คนที่เสียชีวิตบนเรือขนยาเสพติดเมื่อกันยายนที่ผ่านมาอยู่บนบัญชีดำของกองทัพฯสหรัฐฯเป็นผู้ก่อการร้ายยาเสพติด และสามารถสังหารหากมีโอกาส อ้างอิงจากแหล่งข่าวเจ้าหน้าที่ 2 คนและแหล่งข่าวอื่นอีก 1 คน เปิดเผยกับ NBC News ของสหรัฐฯ
ทั้งนี้แบรดลีย์ผู้บัญชาการหน่วยปฎิบัติการพิเศษสหรัฐฯถูกเรียกตัวมาที่แคปิตอล ฮิลล์ หรือสภาคองเกรสก่อนหน้าเพื่อตอบคำถามถึงความชอบธรรมในปฎิบัติการโจมตีเรือขนยาเสพติดกลางทะเลแคริบเบียนเมื่อวันที่ 2 ก.ย ก่อนหน้า
ในการขึ้นให้การสมาชิกสภาคองเกรสสหรัฐฯสงสัยว่า รัฐมนตรีกลาโหมสหรัฐฯ พีท เฮกเซธ นั้นออกคำสั่ง “สังหารไม่มีเว้น”หรือไม่
เดลีเมลชี้ว่า การสั่งสังหารไม่เว้นนี้ถือเป็นสิ่งไม่ชอบด้วยกฎหมายที่เป็นการไฟเขียวให้กองทัพสามารถสังหารกองกำลังฝ่ายตรงข้ามทั้งหมดได้ถึงแม้ว่าฝ่ายตรงข้ามจะยอมจำนนก็ตาม แต่แบรดลีย์ให้การยืนยันว่าไม่มีคำสั่งเช่นนั้นออกมา
อ้างอิงจาก NBC News ที่กล่าวว่า อย่างไรก็ตามคำสั่งสังหารทุกคนตามบัญชีดำกองทัพสหรัฐฯนี้ไม่ผิดกฎหมายสหรัฐฯและกฎหมายระหว่างประเทศ
เดลีเมลชี้ว่า ผู้บัญชาการคุมปฎิบัติการพิเศษสหรัฐฯให้การว่า เจ้าหน้าที่สังเกตเห็นถุงโคเคนบนเรือที่ในเวลาต่อมาไหม้ไฟและอยู่ในน้ำ
ซึ่งในการโจมตี พลเรือเอกแฟรงก์ “มิตช์” แบรดลีย์ ได้ให้การว่า เรือถูกยิงด้วยกระสุนแม่นยำสูง GBU-69
การโจมตีครั้งแรกสังหารไป 9 คนจากทั้งหมดบนเรือและสามารถทำให้เรือคว่ำส่วนอีก 2 คนที่รอดชีวิตพยายามที่จะเกาะซาก
และหลังจากพยายามที่จะปีนกลัยขึ้นไปบนเรือหลังจากพลิกเรือที่คว่ำกลับมาได้ และคนทั้งคู่เห็นโบกมือแต่แบรดลีย์อ้างกับสมาชิกสภาคองเกรสสหรัฐฯว่า ไม่แน่ใจว่าเป็นการส่งสัญญาณให้เครื่องบินทหารอเมริกันหรือไม่
อย่างไรก็ตามพบว่ามีเรือลำที่ใหญ่กว่าถูกพบในพื้นที่ และคาดว่าน่าจะเป็นการพบกันระหว่างเรือลำใหญ่และเรือลำเล็กเพื่อทำการขนยาเสพติดเพื่อการเคลื่อนย้าย
เดลีเมลชี้ว่า เรือลำใหญ่กว่าไม่ได้อยู่ในบัญชี ดังนั้นเขาจึงไม่ได้สั่งการโจมตี
กระทรวงกลาโหมสหรัฐฯก่อนหน้าเคยเปิดเผยว่า สหรัฐฯโจมตีเรือยาเสพติด 22 ครั้งสังหารไป 86 คน โดยการโจมตี 11 ครั้งในทะเลริเบียน และอีก 11 ครั้งในมหาสมุทรแปซิฟิกตะวันออก
ทั้งนี้NBC News รายงานว่า แบรดลีย์ต้องใช้เวลานานกว่า 8 ช.มในวันพฤหัสบดี(4)เพื่อรายงานสรุปแก่สมาชิกคองเกรสสหรัฐฯจำนวน 12 คนและเจ้าหน้าที่คนเหล่านั้น โดยมีประธานเสนาธิการร่วมกองทัพสหรัฐฯ พลเอก แดน เคน ( Gen. Dan Caine ) เข้าร่วมการรายงานสรุปครั้งนี้


