เอเจนซีส์/เอพี/MGRออนไลน์ - IAEA ยืนยันโล่ป้องกัน NSC โรงงานไฟฟ้านิวเคลียร์เชอร์โนบิลในยูเครนได้รับความเสียหายจากการโดนรัสเซียโจมตีเมื่อต้นปีนี้ และทำให้สูญเสียความสามารถป้องกันทางนิวเคลียร์ไป หวั่นสารกัมมันตภาพรังสีรั่วไหลออกมาสู่ด้านนอกหลังเคยเกิดระเบิดครั้งมโหฬารเมื่อวันที่ 26 เมษายน ปี 1986 ในสมัยใต้ร่มเงาอดีตสหภาพโซเวียต ด้านกองทัพอากาศยูเครนเช้าวันเสาร์(6 ธ.ค) แถลงมอสโกยิงมิสไซล์ 51 ลูกและโดรนอีก 653 ตัวโจมตีทั่วประเทศ แต่สามารถสกัดโดรนปูตินได้ 653 ตัวและมิสไซล์อีก 30 ลูก
เดอะมิร์เรอร์ของอังกฤษรายงานวันนี้(7 ธ.ค)ว่า หลังการตรวจสอบโครงสร้างโลหะของโรงงานไฟฟ้านิวเคลียร์เชอร์โนบิลในเมืองที่ร้างปรือปิยัต (Pripyat) ทางเหนือของยูเครนสัปดาห์ที่แล้ว องค์การกำกับนิวงเคลียร์ระหว่างประเทศทบวงการพลังงานปรมาณูระหว่างประเทศ IAEA แถลงว่า The New Safe Confinement (NSC)โล่ป้องกันของโรงงานไม่มีประสิทธิภาพในการทำงานตามหน้าที่หลักของมันอักต่อไป ทั้งนี้ IAEA ค้นพบว่าการโจมตีเกิดขึ้นเมื่อกุมภาพันธ์ทำให้เกิดช่องโหว่ในส่วนปลอดภัยใหม่ที่สร้างเป็นเงิน 1.5 พันล้านยูโร ใกล้กับเตาปฎิกรณ์ที่ถูกทำลาย
อ้างอิงจาก CNN ของสหรัฐฯพบว่า เป็นการโจมตีไปที่โลป้องกัน NSC ของโรงงานทำให้เกิดไฟไหม้และทำลายส่วนที่ปกป้องโดยรอบ IAEA ชี้
ผู้อำนวยการ IAEA ราฟาเอล กร็อสซี (Rafael Grossi) กล่าวผ่านแถลงการณ์ในการตรวจสอบยืนยันว่า โครงสร้างการป้องกันไม่สามารถทำหน้าที่ได้ รวมไปถึงความสามารถการกักเก็บ แต่ยังพบว่าไม่พบความเสียหายอย่างหนักต่อโครงสร้างระบบรับน้ำหนัก(load-bearing structure) หรือระบบเฝ้าสังเกตการณ์”
พร้อมเสริมว่า การซ่อมแซมได้เกิดขึ้นก่อนหน้าแต่ทว่าการบูรณะโดยสมบูรณ์ยังคงสำคัญเพื่อป้องกันความเลวร้ายที่อาจเกิดขึ้นและทำให้มั่นใจต่อความปลอดภัยทางนิวเคลียร์ในระยะยาว
"การซ่อมแซมแบบจำกัดได้ทำไปแล้วในส่วนหลังคา" IAEA แถลงอ้างอิง
สื่ออังกฤษรายงานว่า ยูเครนแถลงว่า รัสเซียเป็นผู้ลงมือโจมตีโรงไฟฟ้าเชอร์โนบิล แต่เครมลินปฎิเสธความรับผิดชอบ
ทั้งนี้รัสเซียเข้ายึดโรงไฟฟ้านิวเคลียร์เชอร์โนบิลเมื่อช่วงต้นของสงครามแต่ยอมถอยออกไป มอสโกมังกกล่าวหายูเครนว่าแสวงหาการโจมตีโรงงานไฟฟ้านิวเคลียร์ด้วยโดรนแต่เคียฟปฎิเสธ
ทั้งนี้อ้างอิงจากวิกีพีเดียพบว่าเตาปฎิกรณ์ที่ 4 ของโรงงานไฟฟ้าเชอร์โนบิลได้เกิดระเบิดครั้งร้ายแรงเมื่อ 26 เม.ย ปี 1986 ในสมัยที่ยูเครนยังอยู่ภายใต้อดีตสหภาพโซเวียต
อุบัติเหตุดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อวิศวกรได้ทำการทดสอบการทำงานของระบบหล่อเย็น และระบบทำความเย็นฉุกเฉินของแกนปฏิกรณ์นิวเคลียร์ แต่การทดสอบระบบได้ล่าช้ากว่ากำหนดจนต้องทำการทดสอบโดยวิศวกรกะกลางคืน ได้เกิดแรงดันไอน้ำสูงขึ้นอย่างฉับพลัน แต่ระบบตัดการทำงานอัตโนมัติไม่ทำงาน ส่งผลให้เกิดความร้อนสูงขึ้นจนทำให้แกนปฏิกรณ์นิวเคลียร์หมายเลข 4 หลอมละลาย และเกิดระเบิดขึ้น
ผลจากการระเบิดทำให้เกิดขี้เถ้าปนเปื้อนกัมมันตภาพรังสีพวยพุ่งขึ้นสู่บรรยากาศ ปกคลุมทางตะวันตกของสหภาพโซเวียต ยุโรปตะวันออก ยุโรปตะวันตก ยุโรปเหนือ ทางการยูเครน เบลารุส และรัสเซีย ต้องอพยพประชากรมากกว่า 336,431 คน ออกจากพื้นที่อย่างฉุกเฉิน
ข่าวโล่ป้องกันโรงงานไฟฟ้านิวเคลียร์เชอร์โนบิลรั่วเกิดขึ้นในช่วงเวลาที่รัสเซียเริ่มเปิดฉากโจมตียูเรนครั้งมโหฬารจากการเปิดเผยของกองทัพอากาศยูเครนเมื่อเช้าวันเสาร์(6)โดยเน้นไปที่โครงสร้างพื้นฐานทางพลังงานของยูเครน
เอพีรายงานว่าตามการแถลง มอสโกยิงมิสไซล์ 51 ลูกและโดรนอีก 653 ตัวโจมตีทั่วประเทศในชั่วข้ามคืน แต่ฝ่ายเคียฟสามารถสกัดโดรนปูตินได้ 653 ตัวและมิสไซล์อีก 30 ลูก พร้อมเสริมว่าเป็นการโจมตี 29 พิกัดและมีผู้ได้รับบาดเจ็บ 8 คน รัฐมนตรีมหาดไทยยูเครน อีกอร์ ไคลเมนโก (Ihor Klymenko) แถลง พร้อมชี้ว่า ในจำนวนทั้งหมดมี 3 คนบาดเจ็บในภูมิภาคกรุงเคียฟ
ทั้งนี้พบว่ารัสเซียโจมตีโดรนครั้งใหญ่ไปยังบรรดาสถานีไฟฟ้าและโครงสร้างพื้นฐานทางพลังงานในไม่กี่ภูมิภาคทั่วยูเครน บริษัทพลังงานแห่งชาติยูเครน Ukrenergo แถลงทางเทเลแกรม
และในวันเสาร์(6) โรงงานไฟฟ้านิวเคลียร์ซาโปรีเชีย ( Zaporizhzhia) นั้นเกิดไฟฟ้าดับทั้งหมดในชั่วข้ามคืน อ้างอิงจาก IAEA
ทั้งนี้โรงงานไฟฟ้านิวเคลียร์แห่งนี้อยู่ในพื้นที่ภายใต้การยึดครองของรัสเซียมาตั้งแต่ช่วงต้นสงครามยูเครนที่กำลังจะครบรอบ 4 ปีและอีกทั้งโรงงานไฟฟ้านิวเคลียร์ซาโปรีเชียไม่ได้เปิดการผลิตแต่ยังจำเป็นต้องมีไฟฟ้าจ่ายสำหรับระบบหล่อเย็นเตาปฎิกรณ์นิวเคลียร์ทั้ง 6 โรงที่ถูกปิดไปเพื่อหลีกเลี่ยงหายนะทางนิวเคลียร์ที่อาจคาดไม่ถึง
เอพีรายงานว่า ประธานาธิบดียูเครน โวโลดิมีร์ เซเลนสกี แถลงว่า สิ่งปลูกสร้างทางพลังงานเป็นเป้าหมายหลักของการโจมตีโดยรัสเซีย และเผยต่อว่าโดรนรัสเซียได้โจมตีสถานีรถไฟเกิดเพลิงไหม้ในเมืองฟาสติฟ (Fastiv) ตั้งใกล้ภูมิภาคกรุงเคียฟ
ในขณะที่กระทรวงกลาโหมรัสเซียแถลงว่า ระบบป้องกันภัยทางอากาศสามารถยิงโดรนยูเครน 116 ตกได้เหนือดินแดนรัสเซียในข้ามคืนวันศุกร์(5) เข้าสู่เช้าวันเสาร์(6)


