รัสเซียและสหรัฐฯ ยังไม่สามารถบรรลุข้อตกลงสันติภาพเพื่อยุติสงครามในยูเครนได้ หลังจากการประชุมหารือที่ทำเนียบเครมลินนาน 5 ชั่วโมงระหว่างประธานาธิบดี วลาดิมีร์ ปูติน และผู้แทนระดับสูงของประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ ตามคำแถลงจากฝ่ายรัสเซียวันนี้ (3 ธ.ค.)
ทรัมป์ บ่นซ้ำแล้วซ้ำเล่าว่า การยุติความขัดแย้งที่นองเลือดที่สุดในยุโรปนับตั้งแต่สงครามโลกครั้งที่ 2 เป็นหนึ่งในเป้าหมายด้านนโยบายต่างประเทศของตนที่ยากจะบรรลุ และผู้นำสหรัฐฯ ยังได้เอ่ยตำหนิทั้ง ปูติน และประธานาธิบดี โวโลดิมีร์ เซเลนสกี ของยูเครนอยู่หลายครั้ง
การเจรจาที่มอสโกระหว่าง ปูติน และ สตีฟ วิตคอฟฟ์ ทูตพิเศษของทรัมป์ รวมถึง เจเร็ด คุชเนอร์ ลูกเขยทรัมป์ ดำเนินไปจนถึงเวลาเที่ยงคืน และต่อมา ยูริ อูชาคอฟ ผู้ช่วยด้านนโยบายต่างประเทศคนสำคัญของปูติน ได้ออกมาประกาศว่าทั้ง 2 ฝ่าย "ยังไม่สามารถหาข้อตกลงประนีประนอมได้
"ยังมีงานอีกมากที่ต้องทำ" อูชาคอฟ กล่าวกับสื่อมวลชนในงานแถลงข่าวที่ทำเนียบเครมลิน
อูชาคอฟ ระบุว่า ปูติน มีปฏิกิริยาเชิงลบต่อข้อเสนอของสหรัฐฯ บางส่วน ขณะที่ วิตคอฟฟ์ เดินทางไปที่สถานทูตสหรัฐฯ ในกรุงมอสโกหลังการเจรจา เพื่อสรุปข้อมูลต่อทางทำเนียบขาว
อูชาคอฟ กล่าวเสริมว่า ขณะนี้ยังไม่มีแผนการประชุมระหว่าง ปูติน และ ทรัมป์ แม้ว่าเขาจะมองว่าการเจรจาเป็นไปในเชิงสร้างสรรค์ และมีโอกาสมากมายสำหรับความร่วมมือทางเศรษฐกิจระหว่างสหรัฐฯ และรัสเซียก็ตาม
อูชาคอฟ ย้ำว่า ปูตินได้ส่งสัญญาณที่สำคัญและคำทักทายถึง ทรัมป์ หลายครั้ง แต่ทั้งสองฝ่ายตกลงที่จะไม่เปิดเผยรายละเอียดต่อสื่อ
เขากล่าวเสริมว่า ทั้งสองฝ่ายยังได้หารือกันเกี่ยวกับ "ปัญหาดินแดน" ซึ่งเป็นคำพูดย่อๆ ของฝ่ายรัสเซียที่หมายถึงการอ้างสิทธิของรัสเซียเหนือดินแดนดอนบาสทั้งหมด แม้ว่ายูเครนจะครอบครองพื้นที่อย่างน้อย 5,000 ตารางกิโลเมตร (1,900 ตารางไมล์) ซึ่งรัสเซียอ้างว่าเป็นของตนก็ตาม
เกือบทุกประเทศในโลกยอมรับว่าภูมิภาคดอนบาสเป็นส่วนหนึ่งของยูเครน
“ร่างข้อเสนอของอเมริกาบางฉบับดูเหมือนจะยอมรับได้ในระดับหนึ่ง แต่จำเป็นต้องมีการหารือเพิ่มเติม” อูชาคอฟ กล่าว “บางรูปแบบที่เสนอมาไม่เหมาะสมสำหรับเรา นั่นคืองานที่จะต้องดำเนินต่อไป”
วิตคอฟฟ์ ซึ่งเป็นมหาเศรษฐีนักพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ชาวอเมริกันที่รู้จักกับ ทรัมป์ มาตั้งแต่ทศวรรษ 1980 และ คุชเนอร์ ซึ่งเป็นสามีของ อิวานกา บุตรสาวของทรัมป์ เริ่มต้นการเจรจาที่เครมลินหลังจากที่เดินข้ามจัตุรัสแดง ผ่านสุสานของ วลาดิมีร์ เลนิน ผู้ก่อตั้งสหภาพโซเวียต ไปยังทำเนียบเครมลิน
ทั้งสองได้พูดคุยผ่านล่ามกับ ปูติน อูชาคอฟ รวมถึง คิริลล์ ดมิตรีเยฟ ซึ่งเป็นทูตของปูติน
“ตอนนี้คนของเราอยู่ที่รัสเซีย เพื่อดูว่าเราจะสามารถหาข้อยุติได้หรือไม่ สถานการณ์ไม่ง่ายเลย ผมบอกคุณได้เลย วุ่นวายจริงๆ” ทรัมป์กล่าวเมื่อวันอังคาร (2) ที่วอชิงตัน พร้อมเสริมว่ามีผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตในสงครามรัสเซีย-ยูเครนเดือนละ 25,000 ถึง 30,000 คน
ร่างข้อเสนอสันติภาพของสหรัฐฯ 28 ประการที่รั่วไหลออกมาในเดือน พ.ย. สร้างความตื่นตระหนกให้กับเจ้าหน้าที่ยูเครนและยุโรป ซึ่งมองว่าข้อเสนอดังกล่าวเป็นการบีบให้ยูเครนยอมจำนนต่อข้อเรียกร้องหลักๆ ของมอสโก
หลังจากนั้น มหาอำนาจยุโรปก็ได้ยื่นข้อเสนอตอบโต้ และระหว่างการเจรจาที่เจนีวา สหรัฐฯ และยูเครนระบุว่าพวกเขาได้สร้าง “กรอบสันติภาพที่ได้รับการปรับแต่งใหม่” เพื่อยุติสงคราม
เซเลนสกี กล่าวที่เมืองดับลินว่า ทุกอย่างจะขึ้นอยู่กับการเจรจาที่มอสโก แต่เขากังวลว่าสหรัฐฯ อาจสูญเสียความสนใจในกระบวนการสันติภาพ
“จะไม่มีทางออกที่ง่าย สิ่งสำคัญคือทุกอย่างต้องยุติธรรมและเปิดกว้าง เพื่อให้มั่นใจว่าจะไม่มีการเล่นเกมลับหลังยูเครน” เขากล่าว
ก่อนการประชุมที่ทำเนียบเครมลินกับวิตคอฟฟ์ ปูติน กล่าวว่า รัสเซียไม่ได้ต้องการทำสงครามกับยุโรป แต่หากยุโรปเริ่มสงครามก่อน สงครามก็จะยุติลงอย่างรวดเร็วด้วยความพ่ายแพ้ของยุโรป ชนิดที่รัสเซียไม่เหลือใครให้เจรจาด้วย
ปูติน ยังขู่ว่าจะตัดขาดการเข้าถึงทะเลดำของยูเครน เพื่อตอบโต้ที่เคียฟส่งโดรนโจมตีเรือบรรทุกน้ำมันของ “กองเรือเงา” รัสเซียในทะเลดำ ขณะที่ อันดรี ซิบิฮา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศยูเครน กล่าวว่าคำพูดของ ปูติน สะท้อนให้เห็นว่า เขายังไม่พร้อมที่จะยุติสงคราม
ที่มา: รอยเตอร์


