เอเจนซีส์/รอยเตอร์ – มีรายงานมอสโกส่ง พลเอกอาวุโส โอเลก มาคาเรวิช (Oleg Makarevich) ผู้บัญชาการคุมกำลังหน่วยปฎิบัติการ Equator พร้อมทหารรัสเซีย 120 นายเข้าเวเนซุเอลาเพื่อฝึกทหารคาราคัสในการเผชิญหน้ากับกำลังทหารอเมริกันที่ลอยลำนอกฝั่งเตรียมรอคำสั่งเวลานี้ ขณะที่ปักกิ่งมีผลประโยชน์ทางพลังงานในเวเนซุเอลามองความเคลื่อนไหวของรัสเซียในภูมิภาคเป็นเสมือนเวทีทดสอบสำหรับโมเดลอำนาจไฮบริดจากเครมลินในหลังบ้านสหรัฐฯ
เดลีเมลของอังกฤษรายงานวันพุธ(26 พ.ย)ว่า ในขณะที่โลกกำลังเฝ้ารอดูว่าประธานาธิบดีสหรัฐฯ โดนัลด์ ทรัมป์ จะเอาจริงเปิดฉากใช้กำลังทหารที่เตรียมไว้เพื่อบุกโจมตีเวเนซุเอลาที่ประธานาธิบดีโคลัมเบีย กุสตาโบ เปโตร (Gustavo Petro)ได้ให้สัมภาษณ์พิเศษกับ CNN สหรัฐฯและรายงานวันพุธ(2)ว่า สิ่งเดียวที่สหรัฐฯต้องการจากเวเนซุเอลาคือ “น้ำมัน” ไม่ใช่คุณค่าทางประชาธิปไตยหรือการปราบยาเสพติดตามข้ออ้าง
สอดคล้องกับการวิเคราะห์ของรอยเตอร์ในวันพุธ(26)ว่า ไพ่ตายที่ประธานาธิบดีมาดูโรสามารถใช้ต่อรองกับผู้นำสหรัฐฯคือ “น้ำมัน” ที่เขาขายน้ำมันดิบส่วนใหญ่ของประเทศไปให้กับ “จีน”
โดยธิงแทงก์ชื่อดังของสหรัฐฯ The Atlantic Council ออกรายงานวานนี้(25) โดยหนึ่งในนั้นระบุว่า เพื่อหลีกเลี่ยงการคว่ำบาตรของตะวันตก รายงานระบุว่า รัฐบาลมาดูโรได้รับการจ่านเงินค่าพลังงานในรูปสกุลเงินดิจิทัล USDT มาตั้งแต่ปี 2024
บลูมเบิร์กเคยรายงานเมื่อสัปดาห์ที่แล้วระบุว่า ผู้นำโคลอมเบีย กุสตาโบ เปโตร หนุนให้ประธานาธิบดีเวเนซุเอลา นิโกลัส มาดูโร ยอมสละตำแหน่ง เพื่อให้มีรัฐบาลเปลี่ยนผ่านทำไปสู่การเลือกตั้งที่โปร่งใสมากกว่าทางเลือกอื่นที่จะทำให้สหรัฐฯสามารถเข้าแทรกแซงกิจการภายในด้วยกำลังทหารได้
เดลีเมลรายงานสถานการณ์ในทะเลแคริบเบียนที่เพนตากอนส่งกำลังเรือรบจำนวนมากเข้าไป พบเรือรบบางส่วนมาพร้อมเรดาร์ความสามารถตรวจจับได้สูงเพื่อค้นหาเป้าหมายพื้นผิวน้ำและทางอากาศ และยังมาพร้อมมิสไซล์พิสัยไกลที่สามารถยิงเข้าไปทะลุถึงด้านในเวเนซุเอลาได้อีกด้วย
โดยประมาณก่อนหน้ามีทหารอเมริกันราว 2,000 นายได้อยู่ในภูมิภาคก่อนหน้าการเสริมกำลัง แต่ในการส่งเข้ามาใหม่บรรดานักวิเคราะห์ได้ประเมินตัวเลขกำลังทหารอเมริกันอยู่ที่ 12,700 นาย เป็นที่น่าสนใจว่าตัวเลขยังต่ำกว่าจำนวนตัวเลขกำลังทหารที่แท้จริงที่ต้องการสำหรับการทำสงครามเต็มรูปแบบที่ต้องการ 50,000 นาย – 150,000 นายเหมือนเช่นที่เกิดในยูเครน
ทั้งนี้เดอะวอร์โซน TWZ ของสหรัฐฯได้รายงานเมื่อวันพุธ(19)ว่า ประธานาธิบดีรัสเซียส่ง พลเอกอาวุโส โอเลก มาคาเรวิช (Oleg Makarevich) ผู้บัญชาการคุมกำลังหน่วยปฎิบัติการ Equator พร้อมทหารรัสเซีย 120 นายเข้าเวเนซุเอลาเพื่อฝึกทหารคาราคัส อ้างอิงจากการเปิดเผยของพลโท คีรีโล บูดานอฟ (Kyrylo Budanov) หัวหน้าหน่วยข่าวกรองยูเครน GRU ให้สัมภาษณ์พิเศษ
ในช่วงระหว่างการทำสงครามบุกยูเครน มาคาเรวิชเป็นผู้บัญชาการหน่วย Dnepr และเมื่อมิถุนายนปี 2023 ประสบความสำเร็จสามารถทำลายโรงงานไฟฟ้าพลังน้ำ Kakhovka และในเวลานี้หน่วยกำลังรัสเซียมีไม่ต่ำกว่า 120 นายประจำอยู่ในเวเนซุเอลา นอกเหนือจากฝึกทหารเวเนซุเอลาแล้วพบว่า หน่วยปฎิบัติการ Equator ยังป้อนข้อมูลข่าวกรองให้คาราคัส และอีกทั้งรัสเซียยังช่วยเวเนซุเอลาเฝ้าจับตาฝักฝ่ายภายในประเทศและรัฐบาลต่างชาติ
และอาจเหมือนเป็นสงครามตัวแทนที่มีการเผชิญหน้าระหว่างสหรัฐฯเจ้าถิ่นที่ปิดล้อมเวเนซุเอลาทางทะเล และรัสเซียโดยมีเวเนซุเอลาเป็นฉากหน้า
การประลองกำลังล่าสุดอ้างอิงจากนิวสวีครายงานวานนี้(25)ว่า เรือบรรทุกน้ำมันรัสเซีย The Seahorse ประสบความสำเร็จหลังจากเผชิญหน้ากับเรือรบพิฆาตสหรัฐฯ USS Stockdale สะกัดหลายครั้งไม่ยอมให้ผ่านเข้าไปได้ถึงในเวเนซุเอลาแต่ในที่สุดจากการที่ต้องเปลี่ยนเส้นทางการเดินเรือหลายรอบในที่สุดก็สามารถหาวิธีเลี่ยงฝ่าไปได้เดินทางมาถึงท่าเรือ Puerto La Cruz ทางชายฝั่งตะวันเฉียงเหนือของเวเนซุเอลาได้สำเร็จในวันอาทิตย์(23) ที่ถึงแม้จะมีกองเรือสหรัฐฯขนาดใหญ่ปรากฎในทะเลแคริบเบียนก็ตาม
เดอะวอร์โซน TWZ รายงานว่า นายพลรัสเซียและลูกน้อง 90 นายประจำอยู่ในกรุงคารารัส ส่วนอีกไม่กี่สิบคนกระจัดกระจายไปตามจุดต่างๆใน มาไคโบ(Maracaibo),ลา ไกวรา(La Guaira) และที่เกาะอาเบเดซ( Avedes Island)
หัวหน้าหน่วยข่าวกรองยูเครนแสดงความเห็นต่อว่า เชื่อว่านายพลรัสเซียและหน่วยของเขาจะยังคงอยู่ในเวเนซุเอลาในช่วงเวลาที่สหรัฐฯเปิดปฎิบัติการโจมตี
“ผมคิดว่าพวกเขาจะอยู่หลังฉากและเจ้าหน้าที่รัสเซียจะพยายามพูดกับอเมริกาเพราะหน่วยของคนเหล่านั้นอยู่ในเวเนซุเอลา” บูดานอฟแสดงความเห็นพร้อมชี้ว่า “มันเป็นแค่เกมส์”
ทหารรัสเซียทำหน้าที่ฝึกสอนและเป็นที่ปรึกษาทางการทหาร “โดยทั่วไปเป็นหน่วยทหารราบ หน่วยโดรน UVA และหน่วยรบพิเศษ”
เมื่อต้นเดือนนี้ ทหารเวเนซุเอลาได้เริ่มการฝึกการควบคุมโดรน FPV ด้วยการใช้ซิมูเลเตอร์
ยุทโธปกรณ์ทางการทหารรัสเซียนี้ หัวหน้าหน่วยข่าวกรองยูเครน GRU ระบุว่า “พวกเราเห็น Buk-M2” แต่ชี้ว่ายังไม่ได้เห็น Pantsir-S1
ทั้งนี้พลพลเอกอาวุโส โอเลก มาคาเรวิช วัย 62 ปี ซึ่งบังคับบัญชาหน่วยเฉพาะกิจที่เวเนซุเอลานั้นเคยถูกประธานาธิบดีรัสเซีย วลาดิมีร์ ปูติน สั่งไล่ออกจากตำแหน่งผู้บัญชาการ Dnepr เมื่อตุลาคมปี 2023 หลังยูเครนสามารถโต้คืนได้ในสมรภูมิรบเคียร์ซอน(Kherson)
บทบาทของ “รัสเซีย” ในเวเนซุเอลาเป็นที่สนใจสำหรับมหามิตรเช่นปักกิ่ง โดยไชน่าโกลบอลเซาท์โปรเจกต์ (China Global South Project) ออกมาวิเคราะห์เมื่อวันที่ 3 พ.ย โดยชี้ว่า นักวิชาการจีนมองยุทธศาสตร์เวเนซุเอลาของรัสเซียเป็นเสมือนโมเดลอำนาจไฮบริด(Hybrid Power)ของเครมลินในดินแดนหลังบ้านของอเมริกา
งานวิจัยจากสถาบันการศึกษาละตินอเมริกา(Institute of Latin American Studies) ของสถาบันบัณฑิตสังคมศาสตร์จีน CASS (CHINESE ACADEMY OF SOCIAL SCIENCES) ในกรุงปักกิ่ง
ผู้แต่ง Gao Fei และ Guo Xi ได้แสดงให้เห็นว่า ผ่านความร่วมมือทั้งทางการทหารและการทูตทางพลังงาน (energy diplomacy) ได้เปลี่ยน 'เวเนซุเอลา' ให้เป็นหนึ่งในพื้นที่ทางยุทธศาสตร์ในการปรากฎตัวของรัสเซียในภูมิภาคครึ่งโลกตะวันตกที่ห่างไกลจากยุโรป
ในทางการเมือง มอสโกแสดงจุดยืนเป็นเสมือนผู้สนับสนุนที่แข็งขันของรัฐบาลมาดูโร
นักวิจัยจีนชี้ว่า จากทัศนคติของมอสโก นโยบายทางการทหารรัสเซียต่อเวเนซุเอลานั้นมียุทธศาสตร์ 2 ด้านได้แก่ (1)เพื่อสร้างฐานอิทธิพลรัสเซียในภูมิภาคละตินอเมริกาเพื่อตอบโต้ต่อการครอบงำทางการทหารของสหรัฐฯ และ (2)เพื่อเข้าถึงแหล่งน้ำมันและก๊าซธรรมชาติอย่างมหาศาลของเวเนซุเอลาที่เป็นส่วนหนึ่งของเครือข่ายพลังงานโลกของรัสเซีย


