เอเจนซีส์ – การศึกษาใหม่จากสถาบันธนาคารแห่งฟินแลนด์ด้านเศรษฐกิจเกิดใหม่ BOFIT (Bank of Finland Institute for Emerging Economies)ออกรายงานวิเคราะห์ล่าสุดชี้ว่า บรรดาผู้ส่งออกจีนได้เพิ่มอัตราแพงสูงลิ่วต่อสินค้าสำคัญโดยเฉพาะเกี่ยวข้องกับการทหารสำหรับผู้ซื้ออุตสาหกรรมทางการทหารรัสเซียเป็นการชี้ให้เห็นว่า การคว่ำบาตรตะวันตกได้ผลทางอ้อมกระทบสมรรถนะการทำสงครามของมอสโกในยูเครน ท่ามกลางรายงานมอสโกวางแผนแอบเจรจาลับวอชิงตันขอผ่อนคลายคว่ำบาตรเป็นขั้นถึงกับพ้อ “จีน” สนใจแต่ผลประโยชน์ตัวเองมากกว่าพันธมิตรร่วมอุดมการณ์
มอสโกไทม์สรายงานวานนี้(24 พ.ย)ว่า ตามการศึกษาของสถาบันธนาคารแห่งฟินแลนด์ด้านเศรษฐกิจเกิดใหม่ BOFIT (Bank of Finland Institute for Emerging Economies)พบว่า ราคาสินค้าที่อยู่ภายใต้การควบคุมการส่งออกของรัฐบาลจีนไปยังรัสเซีย ที่มีเป็นจำนวนมากเป็นชิ้นส่วนที่สามารถใช้ได้ 2 ด้านทั้งการทหารและการพลเรือนที่จำเป็นต่ออุตสาหกรรมการป้องกันประเทศเพิ่มจากอัตราเฉลี่ย 87% ระหว่างปี 2021 – ปี 2024 เมื่อเปรียบเทียบกับ 9% ของสินค้าที่คล้ายการที่ส่งมาจากประเทศอื่นๆ
ไฟแนนเชียลไทม์สที่รายงานในเรื่องนี้ระบุว่า การวิจัยแสดงให้เห็นว่าในระหว่างที่รัสเซียต้องพึ่งพาซัพพลายเออร์จีนเพื่อเลี่ยงการคว่ำบาตรของตะวันตกในการซื้อผลิตภัณฑ์ที่สามารถใช้ได้การทหาร การคว่ำบาตรจากตะวันตกเพื่อลงโทษรัสเซียหลังส่งกำลังเข้าบุกยูเครนเมื่อปี 2022 ผลักดันภาระต้นทุนให้กับมอสโก
เจ้าหน้าที่ตะวันตกที่เกี่ยวกับการคว่ำบาตรเปิดเผยกับไฟแนนเชียลไทม์สว่า ในขณะที่พวกเขาต้องการเห็นอุตสาหกรรมทางการทหารรัสเซียต้องโดนตัดขาดออกจากซัพพลายเออร์ของตัวเอง บริษัทจีนต่างๆถือโอกาสทองนี้ขึ้นราคาสินค้าขายให้รัสเซียนั้นกลายเป็นผลลัพท์ที่ดีเยี่ยม
“หากว่าคุณเพิ่มราคาสินค้าขึ้นไปอีก 80% คุณมีแค่เกือบครึ่งของในสิ่งที่สามารถซื้อได้จริง”
การมาร์คอัพราคาของจีนจำกัดความสามารถของมอสโกในการซื้อเทคโนโลยีอ่อนไหวถึงแม้ว่าจะสามารถเลี่ยงการคว่ำบาตรตะวันตกได้สำเร็จด้วยการทำงานร่วมกับซัพพลายเออร์จีนก็ตาม แหล่งข่าวเจ้าหน้าที่ตะวันตกเปิดเผย
ทั้งนี้เจ้าของงานวิจัยคือ ลิคคา คอร์โฮเนน (Iikka Korhonen) และ เฮลี ซีโมลา (Heli Simola) ให้ความสนใจไปที่บัญชีสินค้าเป็นต้นว่า เครื่องจักรกลและอุปกรณ์เครื่องกล ซึ่งเป็นประเภทที่รวมถึงจำนวนสิ่งของมากมายที่ถูกบ่งชี้ว่ามีความสำคัญทางอุตสาหกรรมการทหาร
ไฟแนนเชียลไทม์สรายงานว่า การได้รับผ่อนคลายการคว่ำบาตรยังคงอยู่ในความคิดของประธานาธิบดีรัสเซีย วลาดิมีร์ ปูติน ตลอดเวลา เพราะในแผนการสันติภาพยูเครน 28 ข้อเวอร์ชันดั้งเดิมที่มาจากการทำงานร่วมกันของสหรัฐฯ-รัสเซียและได้มีการส่งให้ประธานาธิบดียูเครน โวโลดิมีร์ เซเลนสกี เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ได้ชี้อย่างชัดเจนว่า “การยกเลิกการคว่ำบาตรจะมีการหารือและตกลงตามเฟสต่างๆและบนพื้นฐานของแต่ละกรณีไป”
มอสโกไทม์สรายงานว่า แหล่งข่าวใกล้ชิดกับรัฐบาลปูตินได้เปิดเผยกับรอยเตอร์แสดงความเห็นในเรื่องนี้วิจารณ์ว่า ปักกิ่งนั้นทำเพื่อผลประโยชน์ตัวเองเท่านั้นมากกว่าให้ความสนใจประเทศพันธมิตรที่ใกล้ชิด
“จีนไม่ทำตัวเป็นเหมือนพันธมิตร” แหล่งข่าวเจ้าหน้าที่รัสเซียกล่าวพร้อมเปิดเผยต่อว่า “บางครั้งทำให้พวกเราผิดหวังและหยุดการชำระ บางครั้งฉวยโอกาส บางครั้งปล้นซึ่งหน้า ไม่มีสิ่งใดที่มีแนวทางร่วมกันเกี่ยวกับมัน”
แหล่งข่าวคนที่ 2 ใกล้ชิดกับรัฐบาลเครมลินเปิดเผยกับรอยเตอร์ว่า อุตสาหกรรมการป้องกันประเทศรัสเซียนั้นต้องพึ่งพาอย่างหนักต่อเทคโนโลยีจีน
“หากปราศจากพวกเขา พวกเราคงไม่สามารถผลิตมิสไซล์ได้แม่แต่ลูกเดียว เอาแค่เฉพาะโดรนและเศรษฐกิจทั้งหมดคงต้องล้มไปนานก่อนหน้าแล้ว” และกล่าวต่อว่า “หากคนเหล่านั้นต้องการ สงครามคงยุติไปนานแล้ว” แหล่งข่าวรัสเซียให้สัมภาษณ์


