สภาท้องถิ่นไอร์แลนด์เหนือลงมติเห็นพ้องเมื่อวันจันทร์ (24 พ.ย.) ให้มีการเปลี่ยนชื่อถนนที่ตั้งชื่อตามอดีตเจ้าชายแอนดรูว์ ซึ่งถือเป็นสภาแรกในสหราชอาณาจักรที่ดำเนินการดังกล่าว หลังจากที่สมเด็จพระเจ้าชาร์ลส์ที่ 3 ทรงมีพระบรมราชโองการปลดพระอนุชาออกจากตำแหน่ง
เมื่อเดือนที่แล้ว สมเด็จพระเจ้าชาร์ลสทรงถอดถอนพระอิสริยยศเจ้าชายแอนดรูว์และขับไล่พระอนุชาออกจากพระราชวัง เพื่อป้องกันไม่ให้ชื่อเสียงของราชวงศ์อังกฤษเสียหายมากไปกว่านี้จากความสัมพันธ์ระหว่างแอนดรูว์กับ เจฟฟรีย์ เอปสตีน มหาเศรษฐีค้ากามผู้อื้อฉาวซึ่งได้ปลิดชีพตนเองในเรือนจำสหรัฐฯ เมื่อหลายปีก่อน
ประชาชนในพื้นที่อื่นๆ ของสหราชอาณาจักรได้เรียกร้องให้สภาท้องถิ่นเปลี่ยนชื่อถนนที่ตั้งชื่อตามเจ้าชายแอนดรูว์เช่นกัน
สมาชิกสภาในเขตมิดและอีสต์แอนทริมของไอร์แลนด์เหนือเห็นพ้องเป็นเอกฉันท์ในการประชุมเพื่อดำเนินการเปลี่ยนชื่อถนนปรินซ์แอนดรูว์เวย์ในเมืองคาร์ริกเฟอร์กัส และได้หารือกับชาวบ้านเกี่ยวกับชื่อถนนที่จะเปลี่ยนใหม่
“นี่เป็นข้อเสนอที่น่าเศร้า แต่ก็จำเป็น” แอนนา เฮนรี สมาชิกสภาจากพรรค Traditional Unionist Voice กล่าวในที่ประชุม
"น่าเสียดายที่การกระทำที่ถูกกล่าวหาของ แอนดรูว์ เมานต์แบ็ตเทน-วินด์เซอร์ ทำให้สภาแห่งนี้ไม่สามารถให้เกียรติท่านได้อีกต่อไป เฉกเช่นที่ประชาชนชาวมิดและอีสต์แอนทริมเคยทำมาในอดีต"
ญัตติที่เสนอโดย ลอเรน เกรย์ สมาชิกสภาพรรค Alliance ระบุว่าให้มีการเปลี่ยนชื่อถนนสายนี้ตามพระนามของสมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 แทน เพื่อเป็นการถวายพระเกียรติ
เจ้าหน้าที่สภาเขตจะเริ่มกระบวนการเปลี่ยนชื่อถนน ซึ่งรวมถึงการประสานกับหน่วยงานตามกฎหมาย เช่น สำนักงานไปรษณีย์และสำนักพระราชวัง และตรวจสอบด้วยว่าสภาจะสามารถรับผิดชอบค่าใช้จ่ายใดๆ สำหรับอาคารบ้านเรือน 10 แห่งที่ตั้งอยู่บนถนนสายนี้ได้หรือไม่
แอนดรูว์ วัย 65 ปี ซึ่งเป็นพระอนุชาของสมเด็จพระเจ้าชาร์ลส และพระราชโอรสองค์ที่ 2 ของสมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 ตกอยู่ภายใต้แรงกดดันที่เพิ่มขึ้นในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมาเกี่ยวกับพฤติกรรมของเขา และความสัมพันธ์กับเอปสตีน ซึ่งเป็นผู้กระทำความผิดทางเพศ
เขายังถูกบังคับให้หยุดใช้บรรดาศักดิ์ดยุกแห่งยอร์กเมื่อเดือนที่แล้ว ก่อนจะถูกถอดอิสริยยศความเป็นเจ้าชายรวมถึงยศทหารต่างๆ ในที่สุด
ที่มา: รอยเตอร์


