xs
xsm
sm
md
lg

เหมือนนัดกันมา!นักวิเคราะห์เขมรชื่นชมบทบาท'อันวาร์' ชี้ไม่ได้แทรกแซงความขัดแย้งไทย-กัมพูชา

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



นักวิเคราะห์ชื่อดังของกัมพูชา แสดงความชื่นชมต่อบทบาทของอันวาร์ อิบราฮิม นายกรัฐมนตรีมาลเซีย ในฐานะประธานอาเซียน ในความพยายามสยบความตึงเครียดในประเด็นพิพาทด้านเขตแดนระหว่างไทยกับกัมพูชา และจัดหาสถานที่สำหรับการเจรจา พร้อมเน้นว่าการอำนวยความสะดวกดังกล่าวไม่ควรถูกมองว่าเป็นการแทรกแซงกิจการภายในของทั้งไทยและกัมพูชา ตามรายงานของพนมเปญโพสต์

Kin Phea ผู้อำนวยการสถาบันความสัมพันธ์ระหว่างประเทศของสถาบันราชบัณฑิตสภาแห่งกัมพูชา ให้ความเห็นกับพนมเปญโพสต์ ระบุว่าอันวาร์ เช่นเดียวกับประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ มีบทบาทสำคัญในการเป็นคนกลางและอำนวยความสะดวกข้อตกลงหยุดยิงและข้อตกลงสันติภาพระหว่างกัมพูชาและไทย

"ในช่วงเวลาสำคัญดังกล่าว ผู้นำทั้ง 2 แสดงถึงการทูตที่มีหลักการ ความตั้งใจแน่วแน่และภาวะผู้นำที่โดดเด่น ในการป้องกันสถานการณ์ไม่ให้ลุกลามบานปลายไปมากกว่านี้ และกอบกู้เสถียรภาพตามแนวชายแดนร่วมของเรา" เขากล่าว

พนมเปญโพสต์รายงานว่า ก่อนหน้านี้ในวันอาทิตย์(23พ.ย.) อันวาร์ ปฏิเสธคำกล่าวหาของผู้คนบางกลุ่มในไทย ที่ว่ามาเลเซียแทรกแซงความตึงเครียดทางการทูตเมื่อเร็วๆนี้ระหว่างไทยกับกัมพูชา โดยชี้แจงว่าเขาเพียงแค่อำนวยความสะดวกด้านการทูต ในการมุ่งหน้าสู่การแก้ปัญหาอย่างฉันมิตร

ตามรายงานของสำนักข่าวเบอร์นามาของมาเลเซีย อันวาร์ชี้แจงว่า การมีส่วนร่วมของมาเลเซีย อยู่บนพื้นฐานสถานะของมาเลเซียล้วนๆ ในฐานะเพื่อนบ้านใกล้ชิดและไว้วางใจได้ และไม่ได้ชี้นิ้วสั่งว่าไทยและกัมพูชาควรคลี่คลายประเด็นความขัดแย้งอย่างไร

"ขอให้เราชี้แจงให้ชัด ลำดับแรกเลย ในฐานะเพื่อนบ้าน เรามีความกังวลโดยธรรมชาติ แต่เราไม่ได้เกี่ยวข้อง หรือกำหนดเงื่อนไขเฉพาะเจาะจงใดๆ เกี่ยวกับแนวทางที่พวกเขาจะบรรลุทางออก" อันวาร์ ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนมาเลเซียในวันอาทิตย์(23พ.ย.)

อันวาร์ บอกว่าความพยายามของมาเลเซีย นำร่องโดยความไว้เนื้อเชื่อใจของทั้ง 2 ประเทศที่มีต่อมาเลเซียมาช้านาน ในฐานะคู่หูที่เป็นมิตร ที่สามารถช่วยเปิดสายพูดคุยติดต่อสื่อสารยามจำเป็น "เราพยายามติดต่อคบค้าสมาคมกับทั้ง 2 ฝ่าย เพราะพวกเขามองเราเป็นมิตร"

"เพราะฉะนั้น มันจึงเป็นเรื่องไม่ถูกต้องสำหรับใครก็ตามในไทย ที่วาดภาพบทบาทมาเลเซียว่าเป็นการแทรกแซง ผมไม่รู้ว่าพวกเขามีมุมมองทางการเมืองภายในประเทศอย่างไร แต่การที่บ่งชี้ว่าเราแทรกแซง มันไม่ถูกต้องโดยสิ้นเชิง ไม่มีทางที่เราจะทำเช่นนั้น" เขากล่าว

Kin Phea กล่าวกับพนมเปญโพสต์ว่า คนทั้งกัมพูชาขอชื่นชมอันวาร์และทรัมป์ สำหรับความตั้งใจนำพาสันติภาพมาสู่ 2 ชาติเพื่อนบ้านและทั้งภูมิภาค "อิบราฮิม กระตือรือร้นอย่างมากและอุทิศเวลาของเขาอำนวยความสะดวกในประเด็นนี้ และเขายังมอบสถานที่ให้ไทยและกัมพูชาพูดคุยเกี่ยวกับชายแดน เขาไม่ได้บีบบังคับให้ประเทศไหนๆยอมรับเงื่อนไขใดๆ เขาแค่อำนวยความสะดวก การตัดสินใจขึ้นอยู่กับไทยและกัมพูชา"

ทั้งนี้ Kin Phea ยังชื่นชมเป็นอย่างสูงต่อการเข้าแทรกแซงในเวลาที่เหมาะสมของทรัมป์ ซึ่งเริ่มด้วยการหยุดยิงในวันที่ 28 กรฏาคม พร้อมบอกว่าคำกล่าวหาที่ว่า อันวาร์ แทรกแซงกิจการภายในของไทย เป็นเสียงสะท้อนที่มาจากพวกชาตินิยมสุดขั้วบางกลุ่ม

"ไทยไม่ต้องการให้ฝ่ายที่ 3 เข้าแทรกแซงข้อพิพาทนี้ พวกเขาต้องการคลี่คลายประเด็นนี้แบบทวิภาคีกับกัมพูชา เนื่องจากพวกเขามองว่าตนเองมีความเข้มแข็งกว่าทั้งในแง่เศรษฐกิจ การทหาร อิทธิพลสื่อมวลชนและการทูต ดังนั้นมันจึงจะเป็นเรื่องง่ายกว่าสำหรับพวกเขา ในการออกแรงกดดันและใช้อิทธิพล" Kin Phea ระบุ

เขากล่าวต่อว่า ในทางตรงกันข้าม กัมพูชาต้องการให้ฝ่ายที่ 3 เข้ามาเกี่ยวข้อง ในฐานะสักขีพยาน บนพื้นฐานที่ว่าไทยไม่อาจไว้วางใจได้ "ไทยถนัดเรื่องการกล่าวหา ใส่ร้ายและถาโถมแรงกดดันใส่กัมพูชา คนกลุ่มนี้อ้างว่ามาเลเซียหรือทรัมป์แทรกแซงกิจการภายในของพวกเขา นี่เป็นยุทธศาสตร์เบี่ยงเบนความสนใจไปจากปัญหาภายใน และเพื่อเรียกร้องให้มาเลเซียและสหรัฐฯอยู่ห่างจากประเด็นพิพาทชายแดน ถ้าพวกเขาปลีกตัวออกห่าง ไทยก็จะพลิกสถานการณ์ได้ง่ายขึ้น"

(ที่มา:พนมเปญโพสต์)


กำลังโหลดความคิดเห็น