xs
xsm
sm
md
lg

กระทบอิทธิพลสหรัฐฯ!สื่ออเมริกาเตือนทรัมป์ เสี่ยงผลักพันธมิตร'ไทย'หันหน้าเข้าหาจีน

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ อาจทำคะแนนได้อย่างยอดเยี่ยมในการวางสถานะตนเองในฐานะผู้สร้างสันติภาพโลก จากการที่สหประชาชาติลงมติสนับสนุนแผนสันติภาพของเขาในกาซา แต่ความขัดแย้ง 7 สมรภูมิ ที่เขาอ้างว่าช่วยคลี่คลาย เวลานี้บางแห่งสถานการณ์กำลังเสื่อมถอยลงเรื่อยๆ ในนั้นรวมถึงตามแนวชายแดนกัมพูชาและไทย ท่ามกลางเสียงเตือนของพวกผู้เชี่ยวชาญว่า นโยบายบีบบังคับของผู้นำอเมริกานั้น กำลังเสี่ยงผลักให้ ไทย หันหน้าเข้าหา จีน คู่ปรับสำคัญ ซึ่งเสี่ยงกระทบต่ออิทธิพลของวอชิงตันในภูมิภาค ตามรายงานของ The christian monitor องค์กรข่าวที่ไม่แสวงหาผลกำไร

The christian monitor ระบุว่าการพูดคุยสันติภาพเสื่อมทรามลง หลังเกิดเหตุทุ่นระเบิดลูกหนึ่งเกิดระเบิดทำให้ทหารไทยได้รับบาดเจ็บ 4 ราย โหมกระพือความเป็นไปได้ของการสู้รบระลอกใหม่ในความขัดแย้งตามแนวชายแดน ที่มีบ่อเกิดจากข้อพิพาทด้านเขจแดนที่ยืดเยื้อมานานระหว่าง 2 ชาติ สถานการณ์ล่าสุดนี้มีขึ้นหลังจากไทยและกัมพูชาลงนามในข้อตกลงหยุดยิงอย่างครอบคลุมเมื่อเดือนที่แล้ว ในพิธีที่มี ทรัมป์ เข้าร่มด้วย

การพังครืนของข้อตกลงสันติภาพที่เปราะบางที่รัฐบาลทรัมป์ช่วยหล่อหลอม ด้วยการเกี่ยวโยงมันเข้ากับข้อตกลงการค้า เกิดขึ้นในขณะที่ไทยกำลังหันหน้าเข้าหาจีนมากขึ้นเรื่อยๆ เสี่ยงคุกคามอิทธิพลของสหรัฐฯในภูมิภาคแถบนี้ ตามรายงานของ The christian monitor

รายงานของ The christian monitor อ้างความเห็นของโดนัลด์ กรีนลีส์ ที่ปรึกษาอาวุโสของเอเชียลิงค์ ณ มหาวิทยาลัยเมลเบิร์น ระบุว่า "จีนไม่ต้องการเห็นภาวะไร้เสถียรภาพในภูมิภาคแม่น้ำโขง บริเวณบันไดหน้าบ้าน" เขากล่าว "ส่วนทรัมป์ไม่อยากอับอายจากนโยบายที่ล้มเหลวต่างๆนานา ในฐานะประธานาธิบดีผู้สร้างสันติภาพ"

กัมพูชาและไทย บรรลุข้อตกลงสันติภาพในเบื้องต้น หลังจากสหรัฐฯขู่ระงับการเจรจาเกี่ยวกับมาตรการรีดภาษีจนกว่าทั้ง 2 ฝ่ายจะเห็นพ้องต้องกัน อย่างไรก็ตามครั้งที่ทั้ง 2 ฝ่าย ลงนามในข้อตกลงหยุดยิงอย่างเป็นทางการ ณ ที่ประชุมซัมมิตอาเซียนเมื่อเดือนที่แล้ว พวกนักวิจารณ์พากันตั้งคำถามว่าการขู่บังคับทางเศรษฐกิจจะนำมาซึ่งสันติภาพที่ยั่งยืนจริงหรือ

สุดท้ายแล้วเมื่อทุ่นระเบิดเกิดระเบิดขึ้น กองทัพไทยกล่าวหากัมพูชาเป็นคนวางทุ่นระเบิดใหม่ และทางนายกรัฐมนตรีอนุทิน ชาญวีรกูล ประกาศว่าแผนสันติภาพเป็นโมฆะ the christian monitor ระบุว่าผู้นำไทยใช้สุ้มเสียงท้าทายตอนที่ถูกถามเกี่ยวกับแนวโน้มผลกระทบที่จะเกิดขึ้นกับการค้ากับสหรัฐฯ "สำหรับการเจรจาการค้าและการรีดภาษี ผมไม่แคร์อีกต่อไป"

สถานะปัจจุบันเกี่ยวกับการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐฯกับไทย ไม่มีความชัดเจน เมื่อช่วงสุดสัปดาห์ที่แล้ว ทรัมป์บอกกับผู้สื่อข่าวว่าเขาโทรศัพท์หานายอนุทินและนายกรัฐมนตรีกัมพูชา และช่วยรักษาไว้ซึ่งข้อตกลงหยุดยิง โดยใช้ "คำขู่รีดภาษี" แต่ทางนายกรัฐมนตรีของไทยบอกว่าการเจรจาการค้ากับสหรัฐฯจะเดินหน้าแยกกันจากการเจรจาด้านความมั่นคง และยังคงแสดงท่าทีแข็งกร้าวในประเเด็นกัมพูชา

"ผมไม่กังวลเท่าไหร่เกี่ยวกับมาตรการรีดภาษีของทรัมป์ เพราะว่าเขามีมากมายหลายตลาดให้ขาย" สุริวงศ์ สามสิทธิ์ ผู้จัดการของโรงแรมแห่งหนึ่งในจังหวัดศรีสะเกษกล่าว ตามรายงานของ The christian monitor พร้อมระบุว่า "รัฐบาลของเรารอได้ เราสามารถรอได้"

รายงานข่าวของ The christian monitor ระบุต่อว่าหนึ่งในตลาดเหล่านั้น อาจเป็น "จีน" พร้อมชี้จีนเป็นคู่หูการค้าใหญ่ที่สุดของไทยมานานกว่า 1 ทศวรรษ และเป็นบ่อเกิดด้านการท่องเที่ยวและยุทโธปกรณ์ด้านการทหารที่สำคัญมากขึ้นเรื่อยๆ สำหรับไทย

The christian monitor รายงานด้วยว่าเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ในขณะที่ความตึงเครียดระหว่างกัมพูชาและไทยโหมกระพือขึ้นอีกรอบ พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงเสด็จฯเยือนปักกิ่งครั้งประวัติศาสตร์ และพบปะกับประธานาธิบดี สี จิ้นผิงของจีน ในวาระครบรอบ 50 ปี แห่งความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่าง 2 ชาติ พระองค์ถือเป็นกษัตริย์ไทยพระองค์แรกที่เสด็จฯเยือนจีนอย่างเป็นทางการ ในขณะที่จีนนำเสนอตนเองในฐานะพันธมิตรที่น่าเชื่อถือ กำลังหาทางยกระดับความร่วมมือทางเศรษฐกิจและส่งเสริมเสถียรภาพในภูมิภาค

(ที่มา: the christian monitor)


กำลังโหลดความคิดเห็น