เอเจนซีส์/เอพี/รอยเตอร์ – กระทรวงต่างประเทศปาเลสไตน์วันเสาร์(15 พ.ย)เตือนชาวกาซาเสี่ยงตกเป็นเหยื่อโดน Al-Majd Europe ร่วมมือเทลอาวีฟแอบขนขึ้นเครื่องส่งเข้าแอฟริกาใต้ พบบางส่วนมา มาเลเซีย ออสเตรเลีย และแคนาดา ผู้เชี่ยวชาญออสเตรเลียจวก “เป็นการล้างเผ่าพันธุ์”
อัลญะซีเราะห์ของกาตาร์รายงานวันอาทิตย์(16 พ.ย)ว่า ชาวปาเลสไตน์ 153 คนเดินทางเครื่องบินเช่าเหมาลำของสายการบิน Global Airways เดินทางถึงสนามบินโจฮันเนสเบิร์ก แอฟริกาใต้ ในวันพฤหัสบดี(13)
สถานทูตปาเลสไตน์ในกรุงพริทอเรียแถลงว่า กำลังทำงานเพื่อช่วยเหลือชาวปาเลสไตน์ทั้งหมดที่ถูกส่งตัวขึ้นเครื่อง
พร้อมกันนี้ยังได้ออกคำเตือนว่า บริษัททั้งหลาย บุคคลที่ไม่เป็นทางการและตัวกลางที่ไม่ได้จดทะเบียนในเขตยึดครองอิสราเอลในดินแดนปาเลสไตน์ อาจล่อลวงทำให้เกิดความสำคัญผิดแก่บรรดาพลเมืองกาซาเพื่อเป้าประสงค์ให้ย้ายออกไปจากเขตฉนวนกาซาโดยถาวร
“กระทรวงต่างประเทศปาเลสไตน์เรียกร้องให้ประชาชนของเรา โดยเฉพาะพลเมืองของพวกเราในเขตฉนวนกาซาให้ใช้ความระมัดระวังไม่ตกเป็นเหยื่อต่อการลักลอบค้ามนุษย์ต่อพ่อค้าและบริษัทสูบเลือดต่างๆและต่อเอเยนต์การพลัดถิ่น” รายงานจากแถลงการณ์
อ้างอิงจากเอพี หน่วยข่าวกรองลับแอฟริกาใต้เวลานี้กำลังสอบสวนคนที่อยู่เบื้องหลังเครื่องบินเช่าเหมาลำที่นำพลเมืองปาเลสไตน์ 153 คนออกมาจากเขตฉนวนกาซาในตะวันออกกลางข้ามทวีปถึงดินแดนกาฬทวีปได้
ทั้งนี้เป็นที่น่าสังเกตว่าคนเหล่านี้ไม่มีหนังสือเดินทางที่สมบูรณ์และถูกกักตัวบนเครื่องนาน 12 ชั่วโมง ประธานาธิบดีแอฟริกาใต้แถลงเองในวันศุกร์(14)
เอพีรายงานว่า บรรดาคนทั้งหมดนั้นรวมไปถึงครอบครัวและเด็กๆและมีผู้หญิงกำลังตั้งครรภ์ 9 เดือนที่ถูกกักตัวบนเครื่องในสภาพอากาศร้อนจัดและไม่มีทั้งอาหารและน้ำประทังชีวิต
ตามการรายงานระบุว่าเครื่องบินเช่าเหมาลำร่อนลงที่ท่าอากาศยานนานาชาติ O.R. Tambo เช้าวันพฤหัสบดี(13)
ประธานาธิบดีแอฟริกาใต้ ซีริล รามาโฟซา (Cyril Ramaphosa) แถลงว่า พริทอเรียกำลังสอบสวนอย่างเร่งด่วนว่าชาวปาเลสไตน์เหล่านี้มาถึงแอฟริกาใต้ผ่านการแวะพักที่กรุงไนโรบี เคนยา ได้อย่างไร
กระทรวงมหาดไทยแอฟริกาใต้ไฟเขียวให้ชาวปาเลสไตน์ 130 คนสามารถอยู่ในประเทศได้ชั่วคราวและกลุ่มเอ็นจีโอ Gift of the Givers จะเป็นคนดูแลในระหว่างนี้
เจ้าหน้าที่แอฟริกาใต้แถลงว่า และที่เหลืออีก 23 คนจะปล่อยให้เดินทางไปประเทศอื่นตามจุดหมายปลายทางแต่ไม่มีการเปิดเผยชื่อประเทศออกมา
ทั้งนี้รอยเตอร์รายงานว่า อิมเทียซ ซูไลมาน ( Imtiaz Sooliman )ประธานองค์กร Gift of the Givers กล่าวว่า ปาเลสไตน์ที่อยู่บนเครื่องมีบางส่วนมีวีซ่าเพื่อเดินทางไปมาเลเซีย ออสเตรเลีย และแคนาดา และคนเหล่านั้นได้รับอนุญาตให้เดินทางต่อไปยังประเทศจุดหมายปลายทางเหล่านั้น
แหล่งข่าวเจ้าหน้าที่ทหารอิสราเอลได้เปิดเผยกับเอพีว่า องค์กร Al-Majd Europe อยู่เบื้องหลังการจัดการเดินทางคนเหล่านี้มาแอฟริกาใต้
Al-Majd Europe ตั้งอยู่ในเยอรมันแต่มีสำนักงานที่อิสราเอลได้เคยให้ความช่วยเหลือนำชาวปาเลสไตน์ออกจากกาซาก่อนหน้า
เว็บไซต์ทางการของ Al-Majd Europe ระบุว่าเป็นองค์กรเพื่อมนุษยธรรมก่อตั้งที่เยอรมันในปี 2010 และมีฐานอยู่ในเยรูซาเลมมีเป้าหมายเพื่อช่วยบรรเทาทุกข์ต่อชุมชนมุสลิมในพื้นที่ขัดแย้ง
เป็นที่น่าสังเกตว่า ไม่มีการระบุถึงที่ตั้งอย่างชัดเจนหรือเบอร์โทรศัพท์ แต่อ้างว่าทำงานร่วมกับองค์กรอื่นมากมายรวมองค์กรระหว่างประเทศ 15 องค์กรแต่ไม่มีการเปิดเผยชื่อออก ข้อความระบุวันศุกร์(14)ว่า “จะประกาศในเร็ววันนี้”
อัลญะซีเราะฮ์รายงาน ผู้เชี่ยวชาญออสเตรเลีน แอนโธนี โลเวนสตีน ( Antony Loewenstein) ผู้แต่งหนังสือ The Palestine Laboratory เกี่ยวกับกองทัพอิสราเอลและอุตสาหกรรมการสอดแนม แสดงความเห็นว่า การเคลื่อนย้ายคนออกนี้น่าจะเป็นปฎิบัติการที่ต้องใช้เวลาเตรียมการร่วมหลายสัปดาห์หรือหลายเดือนก่อนที่จะสังเกตได้
ผู้เชี่ยวชาญให้สัมภาษณ์จากกรุงจาการ์ตาว่า มีข่าวลือมากมายเกี่ยวกับบริษัทต่างๆสำหรับเที่ยวบินประเภทนี้ที่ดูเหมือนต้องได้ไฟเขียวจากอิสราเอลและการอนุญาตจากประเทศต่างๆ
“ผมมองว่าเป็นเสมือนรูปแบบของการล้างเผ่าพันธุ์” เขากล่าว
ทั้งนี้ในวันเสาร์(15) กษัตริย์แห่งจอร์แดนและนายกรัฐมนตรีปากีสถานต่างแสดงความเห็นว่า จะไม่มีความอดทนสำหรับการลักลอบเคลื่อนย้ายปาเลสไตน์ออกจากเขตฉนวนกาซาระหว่างเสด็จพระราชดำเนินเยือนกรุงอิสลามาบัดอย่างเป็นทางการนาน 2 วัน


