xs
xsm
sm
md
lg

ไทยซวยไป!สื่อนอกชี้ทรัมป์เปลี่ยนท่าทีโอบอุ้มกัมพูชา เป้าหมายงัดข้อแย่งชิงอิทธิพลจีน

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



นิกเกอิ เอเชีย รายงานในวันเสาร์(15พ.ย.) ดูเหมือนประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ ได้เปลี่ยนท่าทีที่มีต่อกัมพูชา เวลานี้ดูเหมือนว่ามีความตั้งใจร่วมมือกับ ฮุน มาเนต นายกรัฐมนตรีเขมรและรัฐบาลของเขา ในเป้าหมายถ่วงดุลอิทธิพลจีน หลังจากได้กลับลำท่าทีแข็งกร้าว กำหนดเพดานภาษีเล่นงานพนมเปญถึง 49% เมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา

รายงานข่าวของนิกเกอิ เอเชีย อ้างคำกล่าวของโฆษกกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯรายหนึ่ง ระบุว่า "อเมริกากำลังหาทางทำงานร่วมกับนายกรัฐมนตรีฮุน มาเนตและคณะรัฐบาลของเขา ในการส่งเสริมวิสัยทัศน์ร่วมของเรา เพื่อเสรีภาพ ความรุ่งเรือง ความมั่นคงและความยืดหยุ่นในภูมิภาคอินโด-แปซิฟิก"

"เรามุ่งมั่นร่วมมือกับรัฐบาลฮุน มาเนต ส่งเสริมบรรยากาศการลงทุนและสถานะในเวทีนานาชาติของกัมพูชา ในนั้นรวมถึงปราบปรามอย่างกว้างขวางสแกมออนไลน์ที่เล็งเป้าเล่นงานพลเมืองอเมริกา ยุติการดำเนินคดีที่มีแรงจูงใจทางการเมือง และเปิดทางให้สื่อมวชนอิสระปฏิบัติการโดยปราศจากการแทรกแซงใดๆ" โฆษกกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯบอกกับนิกเกอิ เอเชีย

มิรา ราปป์-ฮูเปอร์ อดีตผู้อำนวยการอาวุโสสภาความมั่นคงแห่งชาติ ด้านกิจการเอเชียตะวันออกและโอเชียเนีย ภายใต้ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ให้สัมภาษณ์กับนิกเกอิ เอเชีย ว่าในปี 2024 ทาง ลอยด์ ออสติน รัฐมนตรีกลาโหม ณ ขณะนั้น และ ซาแมนธา พาวเวอร์ ผู้บริหารองค์กร USAID ได้เดินทางระดับสูงเยือนกัมพูชา เพื่อสำรวจความเป็นไปได้ในการฟื้นฟูความสัมพันธ์ระหว่าง 2 ชาติ

ราปป์-ฮูเปอร์ เน้นว่าสถานการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้น เนื่องจาก ฮุน มาเนต นายกรัฐมนตรีกัมพูชาคนปัจจุบัน มีความตั้งใจเล่นเกมเสี่ยงกว่าเดิม และมองถึงความเป็นไปได้ที่จะขยายความเป็นหุ้นส่วนสู่ขอบเขตต่างๆที่เกินกว่าที่อดีตนายกรัฐมนตรีฮุนเซน บิดาของเขาเคยมีส่วนร่วม เธอบอกต่อว่าจากการที่มีการปรับลดเงินทุนในโครงการหนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง(BRI) กัมพูชากลายมาเป็นสถานที่แห่งหนึ่ง ที่โครงการต่างๆหลายโครงการที่จีนให้การสนับสนุน ประสบกับความล้มเหลว

ฮุน มาเนต เรียนจบจากโรงเรียนนายร้อยทหารบกสหรัฐฯและมหาวิทยาลัยนิวยอร์ก และก้าวขึ้นมาสืบทอดอำนาจผู้เป็นพ่อ ในฐานะนายกรัฐมนตรีปี 2023

นิกเกอิ เอเชีย ระบุว่าเมื่อเดือนเมษายน สหรัฐฯกำหนดมาตรการรีดภาษีสินค้านำเข้าจากกัมพูชา สูงที่สุดชาติหนึ่งของโลก อ้างว่าดินแดนแห่งนี้เป็นศูนย์กลางการเปลี่ยนถ่ายสินค้าที่สำคัญที่สุดของจีนแผ่นดินใหญ่ สำหรับหลีกเลี่ยงมาตรการรีดภาษีของอเมริกา

อย่างไรก็ตามเร็วๆนี้รัฐบาลทรัมป์ได้เปลี่ยนท่าที โดยเมื่อวันที่ 26 ตุลาคม ระหว่างการประชุมซัมมิตอาเซียนในมาเลเซีย ทรัมป์ พบปะกับ ฮุน มาเนต ลงนามในข้อตกลงการค้าและตกลงปรับลดเพดานภาษีลงเหนือ 19% หลังจากก่อนหน้านั้น ฮุน มาเนต เสนอชื่อ ทรัมป์ ชิงรางวัลโนเบลสาขาสันติภาพ

เมื่อวันที่ 6 พฤศจิกายน มาร์โก รูบิโอ รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ ยกเลิกมาตรการปิดล้อมทางอาวุธที่กำหนดเล่นงานกัมพูชา อ้างว่าประเทศแห่งนี้มีความพยายามอย่างไม่ลดละในการธำรงไว้ซึ่งสันติภาพและความมั่นคง ในนั้นรวมถึงกลับมาประสานงานกับอเมริกาในด้านความร่วมมือกลาโหมและต่อสู้กับอาชญากรรมข้ามชาติ ทั้ง 2 ฝ่ายยังเห็นพ้องกลับมาซ้อมรบร่วม "Angkor Sentinel" ซึ่งระงับไปเมื่อ 8 ปีก่อน

แม้วอชิงตันส่งสัญญาณในทางบวกกับกัมพูชา แต่ขณะเดียวกันก็ยังคงใช้ท่าทีแข็งกร้าวต่ออาชญากรรมสแกมในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และแสดงความกังวลเกี่ยวกับความเคลื่อนไหวของจีน ในการปรับปรุงฐานทัพเรือเรียมในกัมพูชา แลกกับการจัดตั้งฐานที่มั่นทางทหาร

นักวิชาการรายหนึ่งของสถาบัน ISEAS-Yusof Ishak ในสิงคโปร์ เน้นว่าการที่รัฐบาลทรัมป์ ได้ติดต่อพูดคุยกับกัมพูชาด้วยความกระตือรือร้นมาตั้งแต่เดือนกัมพูชา บ่งชี้ว่าวอชิงตันต้องการถ่วงดุลจีนในกัมพูชา และเป้าหมายของ ทรัมป์ ในขั้นต่ำสุด ดูเหมือนว่าจะเป็นการสร้างอำนาจต่อรองเหนือจีน ผ่านกัมพูชา

(ที่มา:นิกเกอิเอเชีย)


กำลังโหลดความคิดเห็น