อัยการพิเศษเกาหลีใต้ดำเนินการสั่งฟ้องอดีตประธานาธิบดี ยุน ซอกยอล เพิ่มเติมในข้อหาเกี่ยวกับการใช้อำนาจในทางมิชอบและช่วยเหลือรัฐศัตรู สืบเนื่องจากการประกาศใช้กฎอัยการศึกระยะสั้นๆ เมื่อปีที่แล้ว
โฆษกอัยการระบุในงานแถลงข่าวว่า ยุน พยายามยั่วยุให้เกิดความขัดแย้งทางทหารระหว่างเกาหลีใต้และเกาหลีเหนือเพื่อประกาศกฎอัยการศึก โดยอ้างอิงหลักฐานที่พบในโทรศัพท์มือถือของเจ้าหน้าที่ทหาร ซึ่งมีถ้อยคำบางคำที่บ่งชี้ถึงการยั่วยุที่อาจเกิดขึ้นต่อเกาหลีเหนือ เช่น "โดรน" และ "การโจมตีแบบผ่าตัด (surgical strike)
ยุน ถูกศาลรัฐธรรมนูญถอดถอดออกจากตำแหน่งเมื่อเดือน เม.ย. และกำลังอยู่ระหว่างการพิจารณาคดีในข้อหาก่อกบฏ อันเนื่องมาจากการประกาศกฎอัยการศึกที่ล้มเหลว ซึ่งหากศาลตัดสินว่ามีความผิด เขาอาจมีโทษถึงขั้นประหารชีวิต
ยุน ยืนกรานอย่างต่อเนื่องว่า เขาไม่เคยตั้งใจที่จะบังคับใช้อำนาจทางทหาร แต่ประกาศกฎอัยการศึกเพื่อส่งสัญญาณเตือนภัยการกระทำผิดของพรรคฝ่ายค้าน และเพื่อปกป้องประชาธิปไตยจากกลุ่ม "ต่อต้านรัฐ"
ตามบันทึกดังกล่าว อดีตประธานาธิบดี ยุน ซอกยอล, คิม ยอง-ฮยอน อดีตรัฐมนตรีกระทรวงกลาโหม และยอ อิน-ฮยอง อดีตหัวหน้าหน่วยข่าวกรองทางทหาร วางแผนที่จะยุยงให้เกาหลีเหนือโจมตีเกาหลีใต้ โฆษกอัยการ พัค จี-ยอง กล่าว
เธอระบุด้วยว่า บุคคลทั้งสามสมรู้ร่วมคิดกันสร้างความตึงเครียดในประเทศ เพื่อเป็นข้ออ้างให้ ยุน ประกาศใช้กฎอัยการศึก
คิม และ ยอ ก็ถูกตั้งข้อหาเพิ่มเติมเช่นเดียวกัน
ทีมอัยการพิเศษกล่าวหา ยุน และผู้บังคับบัญชาทหารว่าสั่งการให้ปฏิบัติการลับด้วยโดรนเข้าสู่เกาหลีเหนือเพื่อปลุกปั่นความตึงเครียดระหว่างประเทศ และเพื่อให้การประกาศกฎอัยการศึกของเขามีความชอบธรรม
ในเดือน ต.ค. ปีที่แล้ว เกาหลีเหนือแถลงว่าเกาหลีใต้ได้ส่งโดรนไปโปรยใบปลิวต่อต้านเกาหลีเหนือถึงกรุงเปียงยาง และเผยแพร่ภาพถ่ายซากโดรนทหารของเกาหลีใต้ที่ตก
แม้จะเผชิญการตรวจสอบอย่างเข้มงวดและแรงกดดันทางการเมือง แต่ในขณะนั้นกองทัพเกาหลีใต้กลับปฏิเสธที่จะแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับข้อสงสัยเรื่องปฏิบัติการใช้โดรน ขณะที่วันนี้ (10) เจ้าหน้าที่กระทรวงกลาโหมเกาหลีใต้ก็ยังไม่ให้ความเห็นใดๆ เกี่ยวกับเรื่องนี้
อดีตรัฐมนตรีกลาโหม คิม ก็กำลังถูกพิจารณาคดีในข้อหาที่เกี่ยวข้องกับการประกาศกฎอัยการศึกเช่นกัน
ยอ อ้างว่า เขารู้สึกเสียใจอย่างสุดซึ้งที่ไม่ได้คัดค้านคำสั่งของยุน ขณะที่โฆษกอัยการกล่าวว่า ยอ ใช้ข้อแก้ตัวต่างๆ นานาที่ไม่สมเหตุสมผลเกี่ยวกับบันทึกที่พบในโทรศัพท์มือถือของเขา
ที่มา: รอยเตอร์


