เอพี/เอเจนซีส์ – ประธานาธิบดีรัสเซีย วลาดิมีร์ ปูติน วานนี้(5 พ.ย) สั่งการให้เจ้าหน้าที่ยื่นแผนวิเคราะห์หนทางนำรัสเซียมาสู่การทดสอบการระเบิดของนิวเคลียร์อีกครั้งเพื่อตอบโต้การคุกคามจากวอชิงตัน แต่อดีตผู้นำ CIA ชี้ รัสเซีย-จีน แอบลอบทดสอบนิวเคลียร์มาโดยตลอด
เอพีรายงานวันนี้(6 พ.ย)ว่า ผู้นำรัสเซียระหว่างนั่งเป็นประธานการประชุมสภาความมั่นคงรัสเซียในวันพุธ(5) สั่งการให้กระทรวงกลาโหมรัสเซียและกระทรวงต่างประเทศรัสเซียและหน่วยงานรัฐอื่นๆให้วิเคราะห์เป้าหมายของวอชิงตันหลังการประกาศการทดสอบนิวเคลียร์ของทรัมป์และสั่งให้เสนอแผนความเป็นไปได้ที่รัสเซียจะกลับมาทดสอบนิวเคลียร์
ทั้งนี้เมื่อวันที่ 30 ต.ค ก่อนการประชุมซัมมิตระหว่างทรัมป์-สี สิ้นผิง ที่การประชุมเอเปคในเกาหลีใต้ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ โดนัลด์ ทรัมป์ประกาศช็อกโลกว่า อเมริกาจะหวนคืนสู่สังเวียนกลับมาเริ่มทดสอบนิวเคลียร์ใหม่อีกครั้งเพื่อเท่าเทียมกับรัสเซียและจีน
เอพีชี้ว่า แต่ทว่ารัฐมนตรีกระทรวงพลังงานสหรัฐฯ คริส ไรท์ (Chris Wright) แถลงวันอาทิตย์(2)ว่า การทดสอบอาวุธนิวเคลียร์ของทรัมป์นี้จะไม่รวมถึงการทดสอบการระเบิดนิวเคลียร์แต่อย่างใด ซึ่งที่ผ่านมากองทัพสหรัฐฯทดสอบมิสไซล์นิวเคลียร์ของตัวเองเป็นปกติ แต่ไม่ได้ทดสอบการระเบิดนิวเคลียร์มาตั้งแต่ปี 1992 ซึ่งสนธิสัญญาว่าด้วยการห้ามทดลองนิวเคลียร์โดยสมบูรณ์ CTBT (Comprehensive Nuclear Test Ban Treaty) ที่สหรัฐฯร่วมลงนามแต่ไม่ได้ให้ปฎิญญารับรองนั้นถูกใช้จากทั่วโลกที่มีอาวุธนิวเคลียร์ครอบครองรวม รัสเซีย จีน เว้นแต่ “เกาหลีเหนือ”
หนังสือพิมพ์นิวยอร์กโพสต์ของสหรัฐฯรายงานวันจันทร์(3)อ้าง อดีตผู้อำนวยการ CIA จอห์น แรตคลิฟฟ์ (John Ratcliffe) และประธานคณะกรรมาธิการข่าวกรองประจำสภาสูงสหรัฐฯ ทอม ค็อตตอน ( Tom Cotton) ที่ต่างยืนยันคำพูดของประธานาธิบดีทรัมป์ว่า “ถูกต้อง” จากที่เปิดเผยว่าทั้งรัสเซียและคู่หูจีนนั้นกำลังซุ่มทดสอบนิวเคลียร์แบลับๆอยู่
โดยแรตคลิฟฟ์ได้โพสต์วันจันทร์(3)ว่า “@realDonaldTrump พูดถูกต้อง” พร้อมเปิดเผยการประเมินของข่าวกรองสหรัฐฯที่ย้อนไปถึงสมัยแรกของทรัมป์ที่ชี้ว่าทั้งรัสเซียและจีนไม่ได้ทำตามข้อกำหนดการหยุดพักชั่วคราวการทดสอบการระเบิดนิวเคลียร์”
ส่วน สว.ค็อตตอน เปิดเผยบนแพลตฟอร์ม X เช่นกันโดยชี้ว่า “การทดสอบเหล่านี้ไม่ได้เกิดขึ้นเมื่อนานมาแล้ว และอีกทั้งยังเป็นส่วนหนึ่งของโครงการปรับปรุงนิวเคลียร์ให้มีความทันสมัย”
เอพีรายงานต่อว่า ระหว่างการประชุมสภาความมั่นคงรัสเซีย รัฐมนตรีกลาโหมรัสเซีย อันเดรย์ เบลูซอฟ (Andrei Belousov) ได้รายงานต่อประธานาธิบดีปูตินเกี่ยวกับความพยายามของสหรัฐฯที่จะทำให้คลังแสงนิวเคลียร์ของตัวเองมีความทันสมัย พร้อมแสดงการวิเคราะห์ว่าถึงการที่อเมริกาจะหันกลับมาทดสอบนิวเคลียร์ใหม่จะเป็นการเพิ่มระดับภัยคุกคามทางการทหารอย่างสูงต่อรัสเซีย
เบลูซอฟยังแนะนำในที่ประชุมว่า มอสโกต้องเริ่มการเตรียมสำหรับการทดสอบนิวเคลียรทันทีที่หมู่เกาะโนวายา เซมเลีย (Novaya Zemlya) ในเขตอาร์กติก
และเสริมว่าที่นี่เป็นที่อดีตสหภาพโซเวียตได้ทำการทดสอบอาวุธนิวเคลียร์ครั้งสุดท้ายในปี 1990 นั้นมีความพร้อมอย่างรวดเร็วต่อการกลับมาทดสอบการระเบิดของนิวเคลียร์
ส่วนพลเอก วาเลรีย์ เกราซิมอฟ (Valery Gerasimov) ประธานคณะเสนาธิการทหารรัสเซียออกมาสนับสนุนการเตรียมความพร้อมอย่างรวดเร็วต่อการทดสอบนิวเคลียร์รัสเซีย
โดยชี้ว่าหากไม่ใช้มาตรการที่เหมาะสมในเวลานี้อาจทำให้รัสเซียพลาดเวลาและโอกาสในการตอบโต้สหรัฐฯอย่างรวดเร็ว
ปูตินที่ได้รับฟังการเสนอจากผู้นำทางการทหารและเจ้าหน้าที่รัสเซียระดับสูงที่ชี้ไปถึงสัญญาณความขัดแย้งที่ส่งออกมาจากวอชิงตันที่ว่าสหรัฐฯจะกลับมาเริ่มทดสอบการระเบิดนิวเคลียร์ ผู้นำรัสเซียสั่งการให้เจ้าหน้าที่หน่วยงานรัฐต่างๆรวบรวมข้อมูลต่อปัญหา วิเคราะห์ภายใต้กรอบการทำงานของสภาความมั่นคงรัสเซียพร้อมกับยื่นข้อเสนอที่ประสานงานกันกลับมา
เอพีรายงานว่า โฆษกดมิตรี เพสคอฟ ได้ย้ำว่าประธานาธิบดีรัสเซีย 'ไม่ได้สั่งการเริ่มการเตรียมความพร้อมสำหรับการทดสอบนิวเคลียร์' และอธิบายโดยชี้ว่า แต่เป็นการสั่งเจ้าหน้าที่ให้วิเคราะห์ว่ามีความจำเป็นมากน้อยเพียงไรในการเริ่มการเตรียมความพร้อม ตามการรายงานของ TASS สื่อรัสเซียที่ชี้ว่า มอสโกจำเป็นต้องเข้าใจเจตนาของสหรัฐฯก่อนการตัดสินใจหลังจากนี้
แต่อย่างไรก็ตามกระบอกเสียงของปูติน ดมิตรี เมดเวเดฟ (Dmitry Medvedev) รองประธานสภาความมั่นคงรัสเซียที่มีผู้นำรัสเซียเป็นประธานเปิดเผยว่า
“ไม่มีใครรู้ว่าทรัมป์หมายความว่าอย่างไรเกี่ยวกับ “การทดสอบนิวเคลียร์” (ตัวเขาคงไม่เข้าใจเช่นกัน)” ในการโพสต์แสดงความเห็นบนแพลตฟอร์ม แต่เมดเวเดฟชี้ว่าต้องพิจารณาความเห็นของประธานาธิบดีสหรัฐฯอย่างจริงจัง


