xs
xsm
sm
md
lg

ไทยเตรียมรับมือ! ไต้ฝุ่น 'คัลแมกี' ซัดถล่มฟิลิปปินส์ตอนกลาง ทำฝนตกหนัก-น้ำท่วมสูง พบเสียชีวิตแล้ว 1 ราย

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



สำนักงานภัยพิบัติแห่งชาติฟิลิปปินส์รายงานพบผู้เสียชีวิต 1 ราย หลังพายุไต้ฝุ่นคัลแมกี (Kalmaegi) พัดถล่มภาคกลางของฟิลิปปินส์ในวันอังคาร (4 พ.ย.) โดยฝนที่ตกหนัก ลมกระโชกแรง และคลื่นพายุซัดฝั่งส่งผลให้ประชาชนหลายหมื่นคนต้องอพยพออกจากบ้านเรือน

คับแมกี หรือที่เรียกกันในท้องถิ่นว่า ติโน พัดขึ้นฝั่งฟิลิปปินส์ด้วยความเร็วลมต่อเนื่อง 150 กิโลเมตรต่อชั่วโมง และลมกระโชกแรงถึง 205 กิโลเมตรต่อชั่วโมง โดยคาดการณ์ว่าพายุลูกนี้จะเคลื่อนตัวผ่านภูมิภาคหมู่เกาะวิซายัน และออกสู่ทะเลจีนใต้ภายในวันพุธ (5)

สำนักงานภัยพิบัติแห่งชาติฟิลิปปินส์รายงานว่า ประชาชนหลายหมื่นคนได้อพยพออกจากภูมิภาควิซายัน ซึ่งรวมถึงบางส่วนของทางใต้ของเกาะลูซอนและทางเหนือของเกาะมินดาเนา โดยมีรายงานผู้เสียชีวิตแล้วอย่างน้อย 1 ราย

คลิปวิดีโอบนเพจเฟซบุ๊กของสถานีวิทยุ DZRH เผยให้เห็นสภาพบ้านเรือนในเมืองตาลิไซจมอยู่ใต้น้ำทั้งหมด มองเห็นเพียงหลังคาบ้านเรือนเท่านั้น โดยภาพเหตุการณ์คล้ายคลึงกันนี้ถูกเผยแพร่ในโซเชียลมีเดียในหลายพื้นที่ของเมืองเซบู ซึ่งรถยนต์จำนวนมากและท้องถนนจมอยู่ใต้น้ำเช่นกัน

สำนักงานอุตุนิยมวิทยาของรัฐ PAGASA ระบุว่า การรวมกันของพายุคัลแมกีและแนวเฉือนทำให้เกิดฝนตกหนักและลมแรงทั่วหมู่เกาะวิซายันและพื้นที่ใกล้เคียง

“เนื่องจากอิทธิพลของภูมิประเทศ พายุติโนอาจอ่อนกำลังลงเล็กน้อยขณะเคลื่อนผ่านหมู่เกาะวิซายัน อย่างไรก็ตาม คาดว่าพายุจะยังคงมีความรุนแรงเท่ากับพายุไต้ฝุ่นตลอดเส้นทางที่เคลื่อนผ่านประเทศ” PAGASA ระบุในรายงานช่วงเช้าวันนี้ (4)


เที่ยวบินกว่า 160 เที่ยวทั้งขาเข้าและขาออกจากพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบถูกยกเลิก ขณะที่เรือในทะเลได้รับคำแนะนำให้มุ่งหน้าไปยังท่าเรือที่ปลอดภัยที่ใกล้ที่สุดทันที

PAGASA เตือนถึงความเสี่ยงสูงที่จะเกิด “คลื่นพายุซัดฝั่งที่อาจเป็นอันตรายถึงชีวิต และสร้างความเสียหาย” ซึ่งจะอาจสูงกว่า 3 เมตร ตามแนวชายฝั่งและชุมชนในพื้นที่ลุ่มต่ำในภาคกลางของฟิลิปปินส์ รวมถึงบางส่วนของเกาะมินดาเนา

พายุคัลแมกีเกิดขึ้นในขณะที่ฟิลิปปินส์ซึ่งได้รับผลกระทบจากพายุโซนร้อนเฉลี่ย 20 ลูกในแต่ละปีกำลังฟื้นตัวจากภัยพิบัติหลายครั้ง รวมถึงแผ่นดินไหวและสภาพอากาศเลวร้ายในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา

เมื่อเดือน ก.ย. พายุไต้ฝุ่นรากาซาซึ่งพัดถล่มทางตอนเหนือของลูซอนทำให้หน่วยงานภาครัฐและโรงเรียนต้องหยุดการเรียนการสอน เนื่องจากมีลมกระโชกแรงและฝนตกหนัก

ที่มา: รอยเตอร์










กำลังโหลดความคิดเห็น