ตำรวจเกาหลีใต้แถลงเมื่อวันจันทร์(3พ.ย.) กำลังดำเนินการสืบสวนคดีลักพาตัวและสูญหาย 24 คดี ที่เกี่ยวข้องกับองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ ในนั้นรวมถึง Prince Group และ Huiwon Group โดยบริษัททั้ง 2 ถูกระบุว่าเป็นผู้บงการที่อยู่เบื้องหลังการฉ้อโกงทางออนไลน์และฟอกเงินของพวกอาชญากรที่มีฐานในกัมพูชา และเพิ่งถูกคว่ำบาตรโดยประชาคมนานาชาติ ในนั้นรวมถึงสหรัฐฯ
ปาร์ค จองโบ ผู้บัญชาการสำนักงานตำรวจนครบาลโซล เน้นย้ำระหว่างแถลงข่าวประจำวันว่า "เราได้เริ่มสืบสวนในเบื้องต้น(สืบสวนเป็นการภายใน) Prince Group และ Huiwon Group และอยู่ระหว่างวิเคราะห์ข่าวกรองที่เกี่ยวข้อง"
ถ้อยแถลงระบุต่อว่า "ปัจจุบันได้มีการจัดตั้งคณะทำงานเฉพาะกิจ สำหรับบุคคลสูญหาย ถูกลักพาตัวและโดนกักขัง ภายในหน่วยสืบสวนเคลื่อนที่ของแผนกสืบสวนของสำนักงานตำรวจนครบาลโซล และอยู่ระหว่างสืบสวนคดีต่างๆที่เกี่ยวข้อง 17 คดี นอกจากนี้แล้วสถานตำรวจท้องถิ่นยังได้รับแจ้งคดีลักษณะเดียวกันอีก 7 คดี ซึ่งได้ถูกโอนย้ายคดีมายังคณะทำงานเฉพาะกิจเป็นที่เรียบร้อยแล้ว"
รายงานข่าวระบุว่าปัจจุบันตำรวจเกาหลีใต้ พยายามบล็อคโฆษณาหลอกจ้างงาน ที่ล่อล่วงประชาชนเข้าร่วมองค์กรอาชญากรรมในต่างแดน ด้วยการเสนองานพาร์ทไทม์รายได้งามให้แก่เหยื่อ โดย ปาร์ค กล่าวในเรื่องนี้ว่า "เราร้องขอให้ลบและบล็อคโฆษณาต่างๆ 131 โฆษณา ที่พิจารณาแล้วว่าเกี่ยวข้องกับกิจกรรมทางอาญา"
"นอกเหนือจากนี้แล้ว เรายังคงคำขออย่างเป็นทางการขอความร่วมมือกับเว็บไซต์ต่างๆ 29 แห่ง ที่โพสต์ลักษณะดังกล่าวปรากฏขึ้นถี่ๆ เรียกร้องให้พวกเขาบล็อคการเข้าถึง สืบเนื่องจากมีความเป็นไปได้สูงที่มันจะเกี่ยวข้องกับองค์กรอาชญากรรม" ถ้อยแถลงระบุ
สำนักข่าวโซชุน ระบุว่ามีรายงานว่าสำนักงานของ Prince Group ในเกาหลีใต้ ปัจจุบันถูกปิดไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยตำรวจเน้นย้ำว่า " Prince Group ไม่ได้จดทะเบียนในฐานะนิติบุคคลทางธุรกิจในเกาหลีใต้ เรากำลังตรวจสอบสัญญาเช่าอาคารและประเด็นอื่นๆที่เกี่ยวข้อง"
ขณะเดียวกันเมื่อเดือนที่แล้ว แผนกสืบสวนด้านความมั่นคงของสำนักงานตำรวจนครบาลโซล ได้บุกจู่โจมตรวจค้น Upbit แพลตฟอร์มแลกเปลี่ยนสกุลเงินดิจิทัลที่ใหญ่ที่สุดของเกาหลีใต้ เพื่อสอบสวนเส้นทางการฟอกเงิน
แม้มีข่าวลือว่าการจู่โจมดังกล่าวเป็นส่วนหนึ่งในการสืบสวนกรณีการถอนเงินเสมือนที่เกี่ยวข้องกับบริษัทในเครือของ Huiwon Group แต่ตำรวจชี้แจงว่ามันเป็นการสืบสวนคนละคดี ขณะที่แหล่งข่าวตำรวจยืนยันเช่นกันว่า "การจู่โจม Upbit ไม่มีความเกี่ยวข้องโดยสิ้นเชิงกับกัมพููชา และเกี่ยวข้องกับการสืบสวนกรณีการแฮกข้อมูลของเกาหลีเหนือ"
(ที่มา:โชซุน)
                    

