อิสราเอลในวันพุธ(29ต.ค.) ยืนยันว่ายังคงยึดมั่นต่อข้อตกลงหยุดยิงในกาซาที่มีสหรัฐฯสนับสนุน แม้เพิ่งเปิดปฏิบัติการแก้แค้นให้กับนายทหารยิวที่เสียชีวิตรายหนึ่ง ด้วยการถล่มฉนวนปาเลสไตน์ตลอดทั้งวัน สังหารผู้คนไปอย่างน้อย 104 ราย ความเคลื่อนไหวที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ รุดออกมากลบกระแสความกังวล บอกเป็นแค่การตอบโต้กลับและเชื่อว่าข้อตกลงหยุดยิงยังไม่เสี่ยงพังครืน
แม้กองทัพอิสราอลเน้นย้ำว่ายังคงมีความตั้งใจยึดถือข้อตกลงหยุดยิงในฉนวนปาเลสไตน์ แต่พวกเขาแถลงว่าได้ปฏิบัติการโจมตีทางอากาศทางเหนือของกาซาอีกระลอก โดยอ้างว่าบริเวณดังกล่าวถูกใช้จัดเก็บอาวุธ
เหตุสังหารกำลังพลของอิสราเอลรายหนึ่งเมื่อวันอังคาร(28ต.ค.) โหมกระพือสถานการณ์ลุกลามบานปลายครั้งเลวร้ายที่สุดนับตั้งแต่ข้อตกลงหยุดยิงที่มีประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ เป็นคนกลาง มีผลบังคับใช้ในวันที่ 10 ตุลาคม ราว 2 ปี หลังจากสงครามเริ่มต้นขึ้น อันมีชนวนเหตุจากการที่พวกนักรบฮามาสบุกจู่โจมเล่นงานอิสราเอล
อิสราเอลอ้างว่าทหารนายดังกล่าวถูกฆ่าในเหตุโจมตีด้วยกลุ่มมือปืนในดินแดนที่อยู่ภายใน "แนวเส้นสีเหลือง" บริเวณที่กำลังพลของพวกเขาถอนตัวออกมาภายใต้ข้อตกลงหยุดยิง อย่างไรก็ตามฮามาสปฏิเสธคำกล่าวหานี้
ขณะเดียวกันอิสราเอลให้คำจำกัดความการโจมตีในวันพุธ(29ต.ค.) ว่าเป็นการเล่นงานเป้าหมายหนึ่งใกล้เขตเบต ลาฮียา ทางเหนือของฉนวนกาซา บริเวณที่อ้างว่าถูกใช้จัดก็บอาวุธ พร้อมบอกว่าพวกเขายังคงยึดมั่นข้อตกลงหยุดยิง แต่จะตอบโต้อย่างหนักหน่วงต่อการล่วงละเมิดใดๆ
"เราต้องการรับประกันว่าเป้าหมายของประธานาธิบดีทรัมป์ และสิ่งที่เราเห็นพ้องต้องกันในการปลดอาวุธฮามาสและทำให้กาซาเป็นเขตปลอดทหาร จะบรรลุในท้ายที่สุด" เบนจามิน เนทันยาฮู นายกรัฐมนตรีอิสราเอลกล่าวในช่วงค่ำวันพุธ(29ต.ค.) "มีความพยายามที่แท้จริงในความร่วมมือ และด้วยความร่วมือดังกล่าว ความมั่นคงยังคงอยู่ภายใต้การควบคุมของเรา"
ในการตอบโต้เหตุนายทหารเสียชีวิต กองทัพเปิดปฏิบัติการในสิ่งที่ให้คำจำกัดความว่าเป็นการเล็งเป้าหมายเล่นงานพวกนักรบฮามาสหลายสิบเป้าหมายทั่งฉนวนกาซา เช่นเดียวกับคลังอาวุธและอุโมงค์ของกลุ่ม
ทั้งนี้ในบรรดา 24 เป้าหมายทางทหาร กองทัพอิสราเอลชี้แจงว่าหนึ่งในนั้นมีผู้บัญชาการรายหนึ่งของฮามาส ซึ่งเข้าร่วมในการโจมตีคิบบุตซ์แห่งหนึ่ง ระหว่างปฏิบัติการจู่โจมเมื่อวันที่ 7 ตุลาคม 2023 ที่โหมกะพือสงคราม
กระทรวงสาธารณสุขกาซาเปิดเผยว่ามีเด็ก 46 คน และผู้หญิง 20 คน อยู่ในบรรดาผู้เสียชีวิต 104 ราย ในปฏิบัติการโจมตีทางอากาศดังกล่าว
สำนักงานสื่อสารมวลชนของรัฐบาลกาซา ที่บริหารงานโดยฮามาส เผยแพร่ถ้อยแถลงระบุว่าเป้าหมายต่างๆที่อยู่ในรายชื่อของอิสราเอล เป็นผลผลิตของ "ยุทธการบิดเบือนข้อมูลอย่างเป็นระบบ จัดฉากและโกหก โดยมีเป้าหมายบั่นทอนความจริงและปิดบังการก่ออาชญากรรมกับพลเรือน"
อย่างไรก็ตามแม้อิสราเอลทิ้งบอมบ์อย่างหนักและสังหารผู้คนไปนับร้อย แต่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ ยังอ้างว่าข้อตกลงหยุดยิงยังไม่ตกอยู่ในความเสี่ยง
"ผมเข้าใจดี พวกเขากำจัดทหารอิสราเอลไปนายหนึ่ง" ทรัมป์บอกกับผู้สื่อข่าวบนเครื่องบินแอร์ฟอร์ซวัน "ดังนั้นอิสาเอลจึงโจมตีกลับและพวกเขาควรตอบโต้กลับ เมื่อมันเกิดขึ้น พวกเขาก็ตอบโต้กลับ" ผู้นำสหรัฐฯระบุว่า "ไม่มีอะไรสั่นคลอนข้อตกลงหยุดยิง คุณต้องเข้าใจว่าฮามาสเป็นส่วนเล็กมากๆของสันติภาพในตะวันออกกลาง และพวกเขาจำเป็นต้องวางตัวให้ดี"
(ที่มา:รอยเตอร์)


