xs
xsm
sm
md
lg

สื่อผู้ดีแฉ “บอริส จอห์นสัน” เป็นต้นตอ "วิกฤตเมกกะสถานทูตจีน" ใหญ่สุดในยุโรป ไฟเขียวอนุมัติกับมือ “สหรัฐฯ” เคยเตือนหวั่นเป็นภัยความมั่นคงแดนผู้ดี

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



เอเจนซีส์ - อดีตนายกรัฐมนตรีอังกฤษ บอริส จอห์นสัน ถูกสื่อแดนผู้ดีชื่อดังเปิดชื่อเป็นคนไฟเขียวปี 2018 อนุมัติโปรเจกต์สร้างสถานทูตจีนใหญ่ที่สุดกลางกรุงลอนดอนที่กลายเป็นประเด็นร้อน สหรัฐฯเคยออกมาเตือนภัยความมั่นคงหากตั้งสำเร็จ ขู่ถึงขั้นจะลดระดับการแชร์ข่าวกรองลับกับอังกฤษหากไม่ทำตาม

เดอะการ์เดียนของอังกฤษรายงานวันพุธ(29 ต.ค)ว่า อดีตนายกรัฐมนตรีอังกฤษ บอริส จอห์นสัน สมัยนั่งดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีต่างประเทศ(วันที่ 13 ก.ค ปี 2016 – วันที่ 9 ก.ค ปี 2018) พบว่าในปีสุดท้ายของการดำรงตำแหน่งเขาได้ยินยอมอนุญาตให้ปักกิ่งสามารถเปลี่ยนโรงกษาปณ์หลวงอังกฤษเก่า (Royal Mint Court) ที่รัฐบาลจีนซื้อไว้ในปีเดียวกัน โดยมีพื้นที่โดยรวม 20,000 ตารางเมตรในราคา 255 ล้านปอนด์เพื่อเป็นสถานทูตจีนที่ใหญ่ที่สุดในยุโรป

โดยในหนังสือถึงรัฐมนตรีต่างประเทศจีน หวัง อี้ (Wang Yi) พบว่าจอห์นสันได้อนุญาตให้ปักกิ่งสามารถใช้โรงกษาปณ์หลวงอังกฤษเก่าเพื่อตั้งสถานทูตจีนแห่งใหม่เมื่อพฤษภาคมปี 2018 และพบว่ารัฐบาลจีนได้ซื้อโรงกษาปณ์หลวงอังกฤษเก่าในเดือนเดียวกัน(พฤษภาคม)

การเปิดเผยได้แสดงให้เห็นว่าพรรคคอนเซอร์เวตีฟของอังกฤษภายใต้อดีตนายกรัฐมนตรีหญิง เทเรซา เมย์ ซึ่งรับไม้ต่อจากจอห์นสันได้ให้หลักประกันแก่ปักกิ่งว่า โปรเจกต์จะสามารถดำเนินการต่อไปได้ที่กลายเป็นวิกฤตยืดเยื้อยังไม่สามารถอนุมัติได้นาน 7 ปีมาจนถึงปัจจุบัน หลังจากฝ่ายการเมืองและประชาชนอังกฤษพบและไม่พอใจอย่างหนักถึงขั้นออกมาต่อต้านประท้วงครั้งใหญ่

หนังสือของอดีตรัฐมนตรีต่างประเทศ บอริส จอห์นสัน ที่ตอบไปยังรัฐมนตรีต่างประเทศจีนในเมษายน อนุมัติการเปลี่ยนอดีตโรงกษาปณ์เป็นสถานทูตจีนขนาดมหึมา 

ภายในหนังสือเขาแสดงความยินดีโดยชี้ว่า เป็นโปรเจกต์การก่อสร้างสถานทูตจีนในต่างประเทศที่สูงสุดเท่าที่เคยมีมา และในหนังสือยังเปิดเผยด้วยว่า ในทางเดียวกันฝ่ายอังกฤษจะมีการปรับปรุงสถานทูตอังกฤษประจำกรุงปักกิ่งที่จอห์นสันชี้ว่า การปรับปรุงนี้จะเป็นหนึ่งในการลงทุนก่อสร้างสถานทูตอังกฤษในต่างแดนที่สูงที่สุดเท่าที่เคยมีมา

“ผมมีความยินดีต่อข้อเท็จจริงที่สิ่งนี้จะเป็นการลงทุนทางการทูตในต่างแดนของจีนที่สูงที่สุด (และ) การปรับปรุงใหม่ของสถานทูตของพวกเราในกรุงปักกิ่งจะเป็นหนึ่งในการลงทุนทางการทูตในต่างแดนที่สูงสุดของพวกเรา”

เดอะการ์เดียนชี้ว่า จอห์นสันเชื่อว่าโปรเจกต์สถานทูตนี้เป็นการแสดงให้เห็นถึงความสัมพันธ์ที่แข็งแกร่งระดับทวิภาคีระหว่างอังกฤษ-จีน ซึ่งเขาได้ระบุในหนังสือถึงหวัง อี้ว่า โปรเจกต์มีข้อผูกพันทางการเมืองในระดับสูงสุดและอ้างไปยังคำมั่นที่ได้ให้ต่อสถานทูตอังกฤษในกรุงปักกิ่ง

สื่ออังกฤษเคยเปิดเผยในปีที่ผ่านมาว่า อย่างไรก็ตามรัฐบาลจีนได้ปฎิเสธคำขอการปรับปรุงสถานทูตอังกฤษประจำกรุงปักกิ่งระหว่างที่โปรเจกต์สถานทูตจีนขนาดยักษ์ของตัวเองยังคงลูกผีลูกคน และพบว่า โอลิเวอร์ ร็อบบินส์ (Oliver Robbins) เจ้าหน้าที่ระดับสูงของกระทรวงต่างประเทศอังกฤษได้เดินทางไปกรุงปักกิ่งในเดือนนั้นเพื่อพยายามเจรจาให้สามารถไฟเขียว

หนังสือพิมพ์นิวยอร์กไทม์สของสหรัฐฯได้รายงานเมื่อวันจันทร์(27)ชี้ว่า อังกฤษต้องการเงินจากจีน แต่ก็ยังคงวิตกถึงสิ่งที่จะตามมาด้วย โดยเดอะการ์เดียเคยรายงานเมื่อวันที่ 20 มิ.ยว่า ทำเนียบขาวออกคำเตือนมายังลอนดอน ต่อ 'ความวิตกอย่างลึกซึ้ง' ที่จีนจะสามารถสอดแนมเข้าถึงการสื่อสารอ่อนไหวของหนึ่งในชาติพันธมิตรที่ใกล้ชิดที่สุดของเรา สอดคล้องกับรัฐสภาเนเธอร์แลนด์ได้ออกคำเตือนเช่นเดียวกันต่อพิกัดที่ตั้งแห่งใหม่ของสถานทูตจีน

ธิงแทงก์ชื่อดังของสหรัฐฯ CIS เคยรายงานเมื่อวันที่ 13 มิ.ย ปีนี้ ถึงโปรเจกสถานทูตจีนใหญ่ที่จะสร้างใหญ่ที่สุดในยุโรประบุว่า เชื่อว่ามีความเสี่ยงต่อความมั่นคงอังกฤษจากพิกัดที่ตั้งและขนาดของสถานทูตที่กว้างใหญ่ไพศาล 

โดยธิงแทงก์ชื่อดังชี้ว่า การทำจารกรรมลับจากสถานทูตในต่างแดนถือเป็นเรื่องที่ปกติมาก แต่สถานทูตจีนแห่งใหม่นี้ตั้งอยู่ใกล้เคเบิลไฟเบอร์ออปติกและการสื่อสารอ่อนไหวเชื่อมต่อฮับศูนย์กลางทางการเงินของกรุงลอนดอนและ Canary Wharf จะทำให้ปักกิ่งสามารถสอดแนมข้อมูลที่ไหลผ่านได้เป็นจำนวนมากในแต่ละวัน

และเป็นที่น่าสนใจว่ารัฐบาลอังกฤษชุดปัจจุบันจากพรรคแรงงานอังกฤษ นายกรัฐมนตรี เซอร์ เคียร์ สตาร์เมอร์ ซึ่งอดีตเคยเป็นหัวหน้าฝ่ายค้าน ในช่วงแรกของการดำรงตำแหน่งเขาเป็นคนฟื้นแผนโปรเจกต์สถานทูตจีน และยังเป็นนายกฯแดนผู้ดีคนแรกในรอบกว่า 5 ปีที่ได้พบประธานาธิบดีจีน สี จิ้นผิง

CIS ชี้ว่า ต่างตอบแทนหรือ quid pro quo น่าจะมีบทบาทสำคัญระหว่างอังกฤษและจีน ด้วยเหตุผลที่ว่าสถานทูตอังกฤษในกรุงปักกิ่งจำเป็นต้องซ่อมแซมด่วนแต่โดนรัฐบาลจีนสั่งแช่แข็งเพื่อบีบให้ฝ่ายลอนดอนไฟเขียวโปรเจกต์สถานทูตขนาดยักษ์ของตัวเอง

ประกอบกับปัจจัยทางเศรษฐกิจเป็นตัวเร่งจากสาเหตุที่อังกฤษต้องการแสวงหาหนทางเพื่อกู้เศรษฐกิจที่เติบโตช้าของตัวเองด้วยการดึงดูดการลงทุนจากจีนเป็นปัจจัยสูงสุด เกิดขึ้นในช่วงเวลาที่ความสัมพันธ์ทางการค้าระหว่างอังกฤษและสหรัฐฯไม่แน่นอนภายใต้สมัย 2 ของรัฐบาลประธานาธิบดีสหรัฐฯ โดนัลด์ ทรัมป์ ที่อาจทำให้ผู้นำอังกฤษตัดสินใจมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งทางเศรษฐกิจกับจีนมากขึ้น 

ธิงก์แทงก์เปิดเผยว่า หนังสือพิมพ์ไทม์สของอังกฤษได้รายงานว่า ระหว่างการเจรจาการค้ากับอังกฤษเมื่อพฤษภาคมนี้ ผู้นำสหรัฐฯเคยขอให้นายกฯสตาร์เมอร์ยกเลิกโปรเจกต์ก่อสร้างสถานทูตจีนนี้ พร้อมยังข่มขู่จะลดระดับการแชร์ข่าวกรองให้อังกฤษ


กำลังโหลดความคิดเห็น