xs
xsm
sm
md
lg

หนักแน่ไทย!ผู้เชี่ยวชาญกัมพูชาแนะรบ.ยกระดับกองทัพ หลังทรัมป์เตรียมปลดแบนขายอาวุธให้เขมร

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



พวกนักสังเกตการณ์สถานการณ์ชายแดนกัมพูชา-ไทย เรียกร้องรัฐบาลให้เสริมความเข้มแข็งในศักยภาพภายในประเทศและกองกำลังป้องกันชาติ แม้ทำข้อตกลงสันติภาพกับไทย อ้างว่าศักยภาพที่แข็งแกร่งในด้านการป้องกันชาติเท่านั้น ที่จะรับประกันสันติภาพอันยาวนาน ตามรายงานของ kampucheathmey สื่อมวลชนกัมพูชา

เสียงเรียกร้องของพวกผู้เชี่ยวชาญเหล่านี้ มีขึ้นในขณะที่มีข่าวว่า สหรัฐฯจะถอนมาตรการปิดล้อมทางอาวุธที่กำหนดเล่นงานกัมพูชา และขยายความร่วมมือในด้านต่อสู้กับองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ ในนั้นรวมถึงพวกค้ายาเสพติดและศูนย์สแกมเมอร์ออนไลน์ โดยทำเนียบขาวอ้างถึงความขยันขันแข็งของกัพูชาในการเสาะแสวงหาสันติภาพและความมั่นคง

ดอคเตอร์ Kin Phe นักรัฐศาสตร์ ให้ความเห็นกับ kampucheathmey ว่าแม้มีข้อตกลงหยุดยิง แต่หนทางยังอีกยาวไกล ความภักดีของไทยต่อข้อตกลงหยุดยิงยังคงไม่อาจเชื่อได้อย่างเต็มที่ และท่ามกลางการเฉลิมฉลองข้อตกลงสันติภาพ เขาเรียกร้องให้รัฐบาลทำงานเสริมความเข้มแข็งแก่ศักยภาพด้านต่างๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในด้านศักยภาพการป้อนกันชาติ, ศักยภาพภายในประเทศ, ความเป็นหนึ่งเดียวกันของคนในชาติ รวมไปถึงยกระดับศักยภาพห่วงโซ่การผลิตภายใน และคุณภาพของทรัพยากรมนุษย์

เขากล่าวต่อว่า "เราต้องเปลี่ยนทุกความท้าทายเหล่านี้เป็นโอกาสในการพัฒนาและเสริมความเข้มแข็งแก่ตัวเราเอง โดยเฉพาะอย่างยิ่งเสริมความเข้มแข็งแก่ภาคการป้องกันประเทศของเรา ปรับปรุงกองทัพให้มีความทันสมัย ยกระดับห่วงโซ่การผลิตภายในประเทศ เสริมสร้างความเข้มแข็งแก่ผลิตภัณฑ์ต่างๆของเรา คุณภาพของประชาชนของเรา และโดยเฉพาะอย่างยิ่งเสริมความเข้มแข็งแก่จิตวิญญาณแห่งความเป็นหนึ่งเดียวกันของชาวเขมร"

Preap Kol เจ้าหน้าที่ระดับสูงของรัฐบาลและนักสังเกตการณ์ชายแดน บอกว่าความเป็นหนึ่งเดียวกันภายในประเทศเป็นสิ่งสำคัญ เช่นเดียวกับความเป็นเอกราชด้านความเป็นเจ้าของผลิตภัณฑ์ ส่งเสริมผลิตภัณฑ์ท้องถิ่นและยกระดับศักยภาพการป้องกันประเทศ ด้วยยุทธศาสตร์ที่ถูกต้องและชัดเจน

เจ้าหน้าที่ระดับสูงของรัฐบาลรายนี้กล่าวต่อว่า "การเสริมสร้างความเข้มแข็งและเพิ่มศักยภาพของกองทัพ การฝึกฝนของเราต้องเริ่มต้นกับพลเมืองที่อยู่ประจำการในกองทัพ ซึ่งเราจะเริ่มดำเนินการตั้งแต่ปี 2026 เป็นต้นไป ทหารอาชีพจำเป็นต้องเข้ารับการฝึกฝนเป็นประจำ เพื่อที่พวกเขาจะมีทั้งความสามารถและศักยภาพที่แข็งแกร่ง นอกเหนือจากนี้แล้วการปรับปรุงอาวุธให้มีความทันสมัยก็ควรได้รับการพิจารณา เพื่อที่เราจะมีความสามารถในการสู้รบ ทหารของเราต้องผ่านการฝึกฝนเพื่อเรียนรู้วิธีการใช้อาวุธเหล่านั้น และเราต้องลงทุนในหนทางต่างๆที่รับใช้ภาคการป้องกันประเทศของเรา มากกว่าครั้งไหนๆ"

แม้มีข้อตกลงสันติภาพ แต่ทาง kampucheathmey อ้างว่าพวกนักสังเกตการณ์ทั้งหลายยังคงไม่ไว้วางใจไทยอย่างเต็มที่ กระนั้นผู้เชี่ยวชาญด้านภูมิรัฐศาสตร์อย่าง Dr. Chey Tech Win เชื่อว่าข้อตกลงสันติภาพมีค่าพอที่จะบีบให้ไทยเคารพมัน แม้จะไม่ต้องการก็ตาม เขาบอกต่อว่าสิ่งที่ทำให้ข้อตกลงมีความหนักแน่นมากขึ้นก็คือ การที่มีสหรัฐฯในฐานะผู้สนับสนุนหลัก ใครก็ตามที่คัดค้านมันก็จะเท่ากับการไม่เคารพอเมริกา นอกจากนี้แล้วเขาชี้ว่าหลังข้อตกลงมีผลบังคับใช้ ประเทศต่างๆที่เป็นสักขีพยานในข้อตกลงจะแต่งตั้งคณะสังเกตการณ์ในทั้ง 2 ประเทศและมอบความช่วยเหลือทั้งทางการเงินและทางเทคนิค สำหรับดำเนินการตามข้อตกลง

นายกรัฐมนตรีกัมพูชาและไทย ลงนามในข้อตกลงสันติภาพเมื่อวันที่ 26 ตุลาคม 2025 ในกรุงกัวลาลัมเปอร์ เมืองหลวงของมาเลเซีย โดยมี อันวาร์ ฮิบราฮิม นายกรัฐมนตรีมาเลเซียและประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ เป็นสักขีพยาน ทาง kampucheathmey รายงานว่าเหตุการณ์ประวัติศาสตร์นี้ได้รับการขานรับด้วยความยินดีจากประชาชนชาวกัมพูชา และหวังว่าจะสามารถฟื้นฟูสันติภาพระหว่าง 2 ชาติ

(ที่มา:kampucheathmey/mgronline)


กำลังโหลดความคิดเห็น