ประธานาธิบดี วลาดิมีร์ ปูติน แห่งรัสเซียเผยในวันอาทิตย์ว่า (26 ต.ค.) มอสโกประสบความสำเร็จในการทดสอบขีปนาวุธร่อนบูเรเวสต์นิก (Burevestnik) ขับเคลื่อนด้วยพลังงานนิวเคลียร์ ซึ่งเป็นอาวุธนิวเคลียร์ที่สามารถเจาะเกราะป้องกันได้ทุกชนิด และกำลังเตรียมเดินหน้าประจำการระบบอาวุธดังกล่าว
การทดสอบขีปนาวุธบูเรเวสต์นิกควบคู่ไปกับการซ้อมรบนิวเคลียร์เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว เป็นสัญญาณว่ารัสเซียจะไม่ยอมจำนนต่อแรงกดดันจากตะวันตกเกี่ยวกับสงครามยูเครนตามที่ ปูติน เคยพูดไว้ ในขณะที่ประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ แสดงท่าทีแข็งกร้าวมากขึ้นในการผลักดันให้รัสเซียหยุดยิง
พลเอก วาเลรี เกราซิมอฟ ผู้บัญชาการทหารสูงสุดของรัสเซีย เปิดเผยกับ ปูติน ว่า ขีปนาวุธบูเรเวสต์นิกดังกล่าวเดินทางได้ไกลถึง 14,000 กิโลเมตร (8,700 ไมล์) และอยู่ในอากาศนานประมาณ 15 ชั่วโมงในการทดสอบเมื่อวันที่ 21 ต.ค.
รัสเซียระบุด้วยว่า ขีปนาวุธ 9M730 Burevestnik (Storm Petrel) ซึ่งองค์การสนธิสัญญาแอตแลนติกเหนือ (นาโต) ขนานนามว่า SSC-X-9 Skyfall นั้นเข้าขั้น “ไร้เทียมทาน” ต่อระบบป้องกันขีปนาวุธทั้งในปัจจุบันและอนาคต ด้วยพิสัยการยิงที่แทบจะไร้ขีดจำกัด และเส้นทางการบินที่คาดเดาไม่ได้
“มันเป็นอาวุธที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ซึ่งไม่มีใครในโลกมี” ปูติน ซึ่งสวมชุดลายพรางระหว่างการประชุมร่วมกับเหล่านายพลที่ดูแลสงครามในยูเครนกล่าวในคำแถลง ซึ่งเครมลินเผยแพร่เมื่อวันอาทิตย์ (26)
ตั้งแต่ประกาศเปิดตัวขีปนาวุธ 9M730 Burevestnik ครั้งแรกในปี 2018 ปูติน ได้ยกให้มันเป็นเครื่องมือตอบโต้การเคลื่อนไหวของสหรัฐฯ ในการสร้างระบบโล่ป้องกันขีปนาวุธ หลังจากที่วอชิงตันถอนตัวออกจากสนธิสัญญาต่อต้านขีปนาวุธปี 1972 ฝ่ายเดียวในปี 2001 รวมไปถึงการที่สหรัฐฯ ขยายพันธมิตรทางทหารของนาโต
ปูติน กล่าวเมื่อวันอาทิตย์ (26) ว่า ครั้งหนึ่งเขาเคยได้รับแจ้งจากผู้เชี่ยวชาญของรัสเซียว่า อาวุธชนิดนี้ไม่น่าจะเป็นไปได้ แต่ตอนนี้เขากล่าวว่า "การทดสอบครั้งสำคัญ" ของมันได้เสร็จสิ้นลงแล้ว
เขาบอกกับ เกราซิมอฟ ผู้บัญชาการทหารที่ไว้วางใจในช่วงสงครามว่า รัสเซียจำเป็นต้องเข้าใจวิธีการจัดระดับอาวุธ และเตรียมโครงสร้างพื้นฐานสำหรับการติดตั้งขีปนาวุธบูเรเวสต์นิก
ช่วงเวลาของการทดสอบขีปนาวุธ รวมถึงการที่ ปูติน ออกมาประกาศเรื่องนี้ขณะสวมชุดทหารในการประชุมที่ศูนย์บัญชาการกับนายพลผู้รับผิดชอบในสงครามยูเครน ถือเป็นการส่งสัญญาณไปยังฝ่ายตะวันตก และโดยเฉพาะอย่างยิ่งไปยัง ทรัมป์
ทำเนียบขาวยังไม่ได้แสดงความคิดเห็นใดๆ เกี่ยวกับขีปนาวุธดังกล่าว
สำหรับ ทรัมป์ ผู้ซึ่งมองว่ารัสเซียเป็นเพียง "เสือกระดาษ" เพราะไม่สามารถทำให้ยูเครนพ่ายแพ้ได้อย่างรวดเร็ว สิ่งนี้บ่งบอกว่ารัสเซียยังคงเป็นคู่แข่งทางทหารระดับโลก โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเรื่องอาวุธนิวเคลียร์ และข้อเสนอของมอสโกเกี่ยวกับการควบคุมอาวุธนิวเคลียร์เป็นสิ่งที่ไม่ควรมองข้าม
สารของ ปูติน ถึงโลกตะวันตก หลังจากที่สหรัฐฯ ได้มอบข่าวกรองเกี่ยวกับเป้าหมายโครงสร้างพื้นฐานพลังงานพิสัยไกลในรัสเซียให้กับยูเครน ก็คือมอสโกมีศักยภาพที่จะตอบโต้ได้ หากพวกเขาคิดจะทำ
หลังจากที่วอลล์สตรีทเจอร์นัล (WSJ) รายงานว่า รัฐบาล ทรัมป์ ได้ยกเลิกข้อจำกัดสำคัญเกี่ยวกับการใช้ขีปนาวุธพิสัยไกลบางรุ่นที่จัดหาโดยพันธมิตรตะวันตกของยูเครน ปูตินก็ได้ออกมาเตือนเมื่อวันพฤหัสบดี (23) ว่า หากรัสเซียถูกโจมตี การตอบโต้ก็จะ "รุนแรงมาก หรืออาจถึงขั้นท่วมท้น"
เกราซิมอฟ กล่าวว่า ขีปนาวุธบูเรเวสต์นิกเคยบินด้วยพลังงานนิวเคลียร์มาแล้ว ทว่าการทดสอบครั้งนี้แตกต่างออกไป เพราะเป็นการบินระยะทางไกลมาก แม้ว่าโดยพื้นฐานแล้วขีปนาวุธรุ่นนี้จะมีพิสัยทำการ "ไม่จำกัด" ก็ตาม
เขายังย้ำว่า ขีปนาวุธบูเรเวสต์นิกสามารถเจาะทะลุระบบป้องกันขีปนาวุธได้ทุกตัว
เมื่อวันพุธที่แล้ว (22) ปูตินได้ควบคุมการทดสอบกองกำลังนิวเคลียร์เชิงยุทธศาสตร์ของรัสเซียทั้งทางบก ทางทะเล และทางอากาศ เพื่อฝึกซ้อมความพร้อมรบและโครงสร้างการบังคับบัญชา ขณะ เกราซิมอฟ กล่าวว่า การฝึกซ้อมยิงขีปนาวุธข้ามทวีป Yars และ Sineva เสร็จสมบูรณ์แล้ว รวมไปถึงขีปนาวุธร่อนที่ยิงจากอากาศ Kh-102 จำนวน 2 ลูกด้วย
ปูติน กล่าวว่า "สิ่งที่เรียกว่าความทันสมัยของกองกำลังป้องปรามนิวเคลียร์ของเราอยู่ในระดับสูงสุด" และ "สูงกว่าประเทศมหาอำนาจนิวเคลียร์อื่นๆ"
ในส่วนของยูเครน เกราซิมอฟ ระบุว่า กองกำลังรัสเซียได้ปิดล้อมทหารยูเครนจำนวนมากไว้ที่เมืองโปครอฟสค์ในภูมิภาคโดเนตสค์ และยังคงรุกคืบอย่างต่อเนื่องในภูมิภาคคาร์คิฟ ดนีโปรเปตรอฟสค์ และซาปอริซเซีย
ที่มา: รอยเตอร์


