คดีตามราวีคุกคามชาวกัมพูชาในเกาหลีใต้ที่พบเห็นมากขึ้นเรื่อยๆ ได้ก่อความกังวลแก่หลายฝ่าย หลังประชาชาวเกาหลีใต้พากันเดือดดาลต่อเหตุนักศึกษาชาวเกาหลีใต้รายหนึ่ง ถูกลักพาตัว ทรมานและฆ่า ในกัมพูชา ตามรายงานของหนังสือพิมพ์โคเรียเฮรัลด์ในวันอาทิตย์(26ต.ค.)
ท่ามกลางความเดือดดาลที่กระพือคดีตามราวีคุกคามชาวกัมพูชาในเกาหลีใต้ กระตุ้นให้พวกผู้เชี่ยวชาญออกมาเตือนว่า อย่าโยงปฏิบัติการเครือข่ายอาชญากรรมในกัมพูชา กับชาวกัมพูชาผู้ไม่รู้อีโหน่อีเหน่ในเกาหลีใต้
รายงานของสถานีโทรทัศน์เคบีเอส ระบุว่าชายชาวกัมพูชารายหนึ่ง ถูกชายชาวเกาหลีใต้ที่อยู่ในสภาพเมามาย ทุบตีที่ศีรษะหลังถามว่าเขามาจากไหน พอเขาตอบกลับไปว่าเขามาจากกัมพูชา ชายชาวเกาหลีใต้ก็ลงมือโจมตีเขา เหยื่อให้สัมภาษณ์กับสถานีโทรทัศน์แห่งนี้ว่า ตอนนี้เขากลัวจนไม่กล้าออกไปไหนแล้ว และลังเลที่จะตอบทุกครั้งที่ถูกถามว่าเป็นคนชาติไหน
สื่อมวลชนท้องถิ่นเกาหลีใต้หลายแห่งรายงานด้วยว่าพลเมืองกัมพูชา ยังถูกคนขับแท็กซี่ให้บริการ แม้ขึ้นไปบนรถแล้วก็ตาม
พวกผู้เชี่ยวชาญให้สัมภาษณ์กับโคเรียเฮรัลด์ ว่าเป็นเรื่องจำเป็นที่ต้องจัดการกับเครือข่ายอาชญากรรมในกัมพูชา ที่อาจเกี่ยวข้องกับคดีต่างๆเมื่อเร็วๆนี้ แต่เตือนว่าอารมณ์ความรู้สึกของประชาชนไม่ควรลุกลามกลายเป็นความเกลียดชังหรือเลือกปฏิบัติกับประชาคมชาวกัมพูชาในเกาหลีใต้
ปาร์ค ยู-รี หัวหน้าศูนย์สนับสนุนผู้พักอาศัยชาวต่างชาติในเมืองอุลซาน กล่าวว่า "เหตุการณ์ต่างๆนานาที่เกิดขึ้นในกัมพูชา ลงมือโดยแก๊งอาชญากรรม มันน่าเศร้าที่ภาพลักษณ์แรงงานต่างชาติที่ทำงานหนักและไม่รู้อีโหน่อีเหน่ ได้รับความเสียหายอย่างหนัก"
ชอย ฮัง-ซุบ มหาวิทยาลัยกุ๊กมิน ให้ความเห็นว่า "เราสามารถวิพากษ์วิจารณ์ตำรวจหรือรัฐบาลกัมพูชา แต่มันไม่ถูกต้องที่จะปลูกฝังความเกลียดชังที่มีต่อประชาชนชาวกัมพูชา"
ปัจจุบันมีชาวกัมพูชาราว 60,000 คน ที่พำนักอยู่ในเกาหลีใต้ ในนั้นราว 5,000 นาย กลายมาเป็นพลเมืองโดยการแปลงสัญชาติ
(ที่มา:โคเรียเฮรัลด์)


