ราคาน้ำมันขยับขึ้นในวันอังคาร(21ธ.ค.) ฟื้นตัวจากที่ดิ่งลงหนักหนึ่งวันก่อนหน้านี้ คาดหมายคลังเชื้อเพลิงสำรองระดับต่ำในสหรัฐฯ ส่วนวอลล์สตรีทปิดในกรอบแคบๆ ท่ามกลางรายงานผลประกอบการบริษัท ขณะที่ทองคำปิดลบหนักหน่วงที่สุดในรอบ 5 ปี จากแรงขายทำกำไรของนักลงทุน
สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัส อินเตอร์มีเดียต หรือไลต์สวีตครูด งวดส่งมอบเดือนพฤศจิกายน เพิ่มขึ้น 30 เซนต์ ปิดที่ 57.82 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ด้านเบรนท์ทะเลเหนือลอนดอน งวดส่งมอบเดือนธันวาคม เพิ่มขึ้น 31 เซนต์ ปิดที่ 61.32 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
น้ำมันดิบทั้ง 2 สัญญาแตะระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนพฤษภาคมเมื่อวันจันทร์(20ต.ค.) จากกำลังผลิตในสหรัฐฯที่สูงสุดเป็นประวัติการณ์และการตัดสินใจของโอเปกพลัส ที่เดินหน้าปรับเพิ่มกำลังผลิตเร็วกว่าแผนที่วางเอาไว้ ก่อความคาดหมายอุปทานล้นตลาด
อย่างไรก็ตามในวันอังคาร(21ต.ค.) คลังน้ำมันดิบสำรองและน้ำมันกลั่นสำรองที่ค่อนข้างต่ำของสหรัฐฯ ช่วยต้านทานแรงกดดันบางส่วนที่มีต่อราคาน้ำมันดิบทั้ง 2 สัญญา จากความเห็นของนักวิเคราะห์
ส่วนตลาดหุ้นสหรัฐฯปิดทรงตัวในวันอังคาร(21ต.ค.) จากรายงานผลประกอบการบริษัทในแง่บวก และแนวโน้มความเป็นไปได้ที่อเมริกาจะบรรลุข้อตกลงการค้ากับจีน
ดาวโจนส์ เพิ่มขึ้น 218.16 จุด (0.47 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 46,924.74 เอสแอนด์พี เพิ่มขึ้น 0.22 จุด (0.00 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 6,735.35 จุด แนสแดค ลดลง 36.88 จุด (0.16 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 22,953.67 จุด
ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ คาดหมายว่าจะบรรลุข้อตกลงการค้าอย่างยุติธรรมกับ สี จิ้นผิง ประธานาธิบดีจีน ครั้งที่ทั้ง 2 คน พบปะกันในเกาหลีใต้ ในสัปดาห์หน้า และปฏิเสธความเสี่ยงของเหตุกระทบกระทั่งกันในประเด็นไต้หวัน
ในด้านผลประกอบการ หุ้นของจีเอ็มพุ่งทะยานหลังบริษัทปรับเพิ่มประมาณการผลดำเนินงานตลอดทั้งปี และโคคา-โคลา ปิดบวก หลังบริษัทโพสต์รายงานผลประกอบการดีกว่าที่พวกนักวิเคราะห์คาดหมายไว้
ด้านราคาทองคำร่วงลงวันเดียว หนักสุดในรอบ 5 ปีในวันอังคาร(21ต.ค.) นักลงทุนเทขายทำกำไร หลังจากหนึ่งวันก่อนหน้านี้ทุบสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์ โดยราคาทองคำโคเม็กซ์ งวดส่งมอบเดือนธันวาคม ลดลง 250.30 ดอลลาร์ หรือ 5.70 % ปิดที่ 4,109.10 ดอลลาร์ต่อออนซ์
(ที่มา:รอยเตอร์)