xs
xsm
sm
md
lg

ทะแม่งๆ อีกแล้ว!? มอสโกบอก ‘เร็วเกินไป’นัดหมายเตรียมซัมมิตทรัมป์-ปูติน ขณะปธน.US กลับลำอีกรอบ อ้างไม่เคยพูดว่า ‘ยูเครนจะรบชนะรัสเซีย’

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


(ภาพจากแฟ้ม) ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐฯ จับมือกับประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน ของรัสเซีย ก่อนการเจรจาหารือกันที่ฐานทัพของสหรัฐฯในรัฐอะแลสกา, สหรัฐฯ เมื่อวันที่ 15 ส.ค. 2025  ทั้งนี้ภาพเช่นนี้ยังจะไม่ได้เห็นกันอีกครั้งในเร็ววันนี้ เมื่อนัดหมายที่ผู้นำทั้งสองจะพบกันอีกรอบที่ฮังการี ทำท่าอาจจะไม่ราบรื่น
มอสโกดับความหวังทรัมป์ในการได้พบปูตินโดยเร็ว ชี้เร็วเกินไปที่จะกำหนดเวลานัดหมายระหว่างรัฐมนตรีต่างประเทศของทั้งสองชาติ เพื่อเตรียมการสำหรับซัมมิต ขณะที่ทรัมป์กลับลำอีกครั้ง ยันไม่เคยพูดว่า ยูเครนจะรบชนะรัสเซีย ด้านยุโรปยังพยายามขอมีส่วนร่วม ออกคำแถลงค้านข้อเสนอให้เคียฟยกดินแดนที่มอสโกยึดได้เพื่อแลกกับสันติภาพ

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ยังคงย้ำว่า ต้องการให้เกิดสันติภาพในยูเครน แม้ยอมรับว่า ยากกว่าการผลักดันข้อตกลงหยุดยิงในกาซาก็ตาม กระนั้น หลังจากคุยโทรศัพท์เมื่อวันพฤหัสฯ (16 ต.ค.) ทรัมป์และประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน ต่างเผยว่า จะนัดพบกันที่บูดาเปสต์เพื่อหารือเกี่ยวกับสงครามในยูเครน โดยที่ทรัมป์กล่าวว่าอาจจัดขึ้นได้ใน 2 สัปดาห์ข้างหน้า

ทรัมป์ยังบอกอีกว่า มาร์โค รูบิโอ รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ อาจพบกับเซียร์เก ลาฟรอฟ รัฐมนตรีต่างประเทศรัสเซีย เพื่อเตรียมการเรื่องนี้ โดยที่มีรายงานข่าวว่า รูบิโอกับลาฟรอฟได้หารือกันทางโทรศัพท์แล้วในวันจันทร์ (20)
ทว่า ในวันอังคาร (21) เซียร์เก รยาบคอฟ รัฐมนตรีช่วยต่างประเทศรัสเซีย แถลงว่า ยังเร็วเกินไปที่จะกำหนดเวลาเพื่อเตรียมการพบปะระหว่างลาฟรอฟกับรูบิโอ พร้อมสำทับว่า ไม่มีการพูดถึงการพบกันดังกล่าวทั้งก่อนหน้าและระหว่างที่ทั้งคู่พูดคุยทางโทรศัพท์เมื่อวันจันทร์

ทางด้านทรัมป์กล่าวกับผู้สื่อข่าวที่ทำเนียบขาวในวันจันทร์ก่อนเริ่มการประชุมกับนายกรัฐมนตรีแอนโทนี อัลบานีส ของออสเตรเลียว่า เขาไม่เคยพูดว่า ยูเครนจะรบชนะรัสเซีย แต่บอกว่า อาจชนะเนื่องจากอะไรก็เกิดขึ้นได้ในสงคราม

ก่อนหน้านั้นไม่นาน ประธานาธิบดีโวโลดิมีร์ เซเลนสกี้ของยูเครน เผยว่า ได้รับแจ้งจากทรัมป์ระหว่างหารือกันที่ทำเนียบขาวเมื่อวันศุกร์ (17 ต.ค.) ว่า ข้อเสนอของปูตินให้ยูเครนยกโดเนตสก์และลูฮันสก์ให้รัสเซียยังเหมือนเดิม

กระนั้น เซเลนสกี้ยืนยันว่า การหารือกับทรัมป์เป็นไปด้วยดี แม้ถูกผู้นำสหรัฐฯ ปฏิเสธคำขอขีปนาวุธร่อนโทมาฮอว์ก และแม้รายงานหลายฉบับระบุว่า เขาถูกกดดันให้ยอมรับข้อเรียกร้องของปูตินก็ตาม

ก่อนหน้าพบกับเซเลนสกี้หลายสัปดาห์ ทรัมป์แสดงออกเปิดเผยว่า มีความเป็นไปได้ที่จะส่งโทมาฮอว์กซึ่งมีพิสัยทำการถึง 2,500 กิโลเมตรให้ยูเครนซึ่งจะช่วยให้กองกำลังเคียฟโจมตีเข้าไปในดินแดนรัสเซียลึกขึ้น

ทว่า หลังคุยกับปูตินครั้งล่าสุด ทรัมป์กลับพูดชัดเจนว่า ยังลังเลที่จะส่งระบบขีปนาวุธดังกล่าวให้เคียฟ อย่างน้อยในตอนนี้ รวมทั้งเรียกร้องให้เคียฟและมอสโกยุติการสู้รบโดยยึดตามสถานการณ์ที่เป็นอยู่ในขณะนี้

เกี่ยวกับเรื่องโทมาฮอว์ก เซเลนสกี้แก้เกี้ยวว่า ทรัมป์คงไม่อยากทำให้สถานการณ์ตึงเครียดจนกว่าจะได้พบกับปูติน และเสริมว่า ยูเครนเห็นด้วย ถ้าข้อเสนอของทรัมป์ในการยุติการสู้รบโดยยึดตามแนวรบปัจจุบันจะทำให้สงครามยุติลง

เซเลนสกี้ยังหวังว่า การประชุมสุดยอดระหว่างทรัมป์กับปูตินที่ตนเองไม่ได้รับเชิญและอาจจัดขึ้นที่เมืองหลวงของฮังการีนั้น จะนำไปสู่ข้อตกลงสันติภาพ พร้อมเหน็บว่า ตนไม่เชื่อว่า นายกรัฐมนตรีวิกเตอร์ ออร์บานของฮังการี ที่ขัดขวางยูเครนในทุกที่จะทำสิ่งดีๆ เพื่อคนยูเครนหรือแค่ให้การสนับสนุนอย่างเป็นกลางก็ตาม

ต่อมาในวันอังคาร ผู้นำ 8 ชาติของยุโรป ได้แก่ สหราชอาณาจักร ฟินแลนด์ ฝรั่งเศส เยอรมนี อิตาลี นอร์เวย์ โปแลนด์ เดนมาร์ก และเจ้าหน้าที่อาวุโสของสหภาพยุโรป (อียู) ได้ออกคำแถลงร่วมระบุว่า จะเดินหน้าแผนการใช้สินทรัพย์ของรัสเซียมูลค่าหลายแสนล้านดอลลาร์ที่ถูกอายัดในต่างประเทศเพื่อสนับสนุนให้เคียฟเอาชนะสงครามกับมอสโก

คำแถลงยังสนับสนุนจุดยืนของทรัมป์ให้ยุติการสู้รบทันที และเริ่มต้นการเจรจาโดยอิงกับแนวรบปัจจุบัน แต่ยืนยันในหลักการที่ว่า พรมแดนระหว่างประเทศต้องไม่เปลี่ยนแปลงโดยการใช้กำลังทหาร ก่อนสำทับว่า สิ่งที่เกิดขึ้นทั้งหมดบ่งชี้ว่า ปูตินเลือกการทำลายล้างมากกว่าสันติภาพ

(ที่มา: เอเอฟพี/รอยเตอร์/เอพี)
กำลังโหลดความคิดเห็น