พิพิธภัณฑ์ลูฟร์ ปิดให้บริการเป็นวันที่สองในวันจันทร์ (20 ต.ค.) ขณะตำรวจฝรั่งเศสไล่ล่ากลุ่มโจรที่บุกปล้นกวาดเครื่องเพชรล้ำค่ากลางวันแสกๆ ไปได้ในเวลาไม่ถึง 10 นาทีเมื่อ 1 วันก่อนหน้านี้ ซึ่งเหล่านักการเมืองชั้นนำวิพากษ์วิจารณ์ว่า เป็นเหตุการณ์สุดอัปยศสำหรับแดนน้ำหอม
ทางการฝรั่งเศสเผยว่า ทีมเจ้าหน้าที่สอบสวนซึ่งมีจำนวนราว 60 คน มุ่งประเด็นที่ว่า พวกแก๊งองค์การอาชญากรรมอาจอยู่เบื้องหลังการปล้นอุกอาจคราวนี้ที่เกิดขึ้นเมื่อวันอาทิตย์ (19) โดยพวกแหล่งข่าวที่ขอให้สงวนนามและบรรดาเจ้าหน้าที่ซึ่งแถลงให้ข้อมูลข่าวสารอย่างเปิดเผย ต่างระบุว่า โจรกลุ่มไปถึงพิพิธภัณฑ์ชื่อก้องโลกในกรุงปารีสแห่งนี้เมื่อเวลาประมาณ 9.30 น. ปิดฉากภารกิจการปล้นในเวลาแค่ 7 นาทีและกวาดเครื่องเพชรอัญมณีล้ำค่า 8 ชิ้นก่อนหลบหนีลอยนวลด้วยรถสกูตเตอร์
เจอรัลด์ ดาร์มาแนง รัฐมนตรียุติธรรมฝรั่งเศส ยอมรับว่า เหตุการณ์ที่หนังสือพิมพ์หลายฉบับระบุว่าเป็น “การปล้นแห่งศตวรรษ” ครั้งนี้ สะท้อนถึงความล้มเหลว และทำให้ภาพลักษณ์ของฝรั่งเศสติดลบและน่าอับอาย รวมทั้งยังทำให้คนฝรั่งเศสรู้สึกว่า ตัวเองถูกปล้นอย่างน่าหยามหยัน
จอร์แดน บาร์เดลลา ผู้นำพรรคเนชันแนล แรลลี ซึ่งเป็นพรรคขวาจัด โพสต์บนแพลตฟอร์มเอ็กซ์ว่า การปล้นลูฟร์เป็นความอัปยศเกินทนทานของฝรั่งเศส พร้อมตั้งคำถามว่า รัฐที่ล้มเหลวนี้ยังจะฝืนลากสังขารไปอีกนานแค่ไหน
ฟรองซัวส์-ซาเวียร์ เบลลามี จากพรรครีพับลิกันที่มีจุดยืนอนุรักษนิยม สำทับว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นอาการของประเทศที่ไม่สามารถปกป้องมรดกของชาติได้
รายงานระบุว่า รัฐมนตรีมหาดไทยและรัฐมนตรีวัฒนธรรมฝรั่งเศสจัดการประชุมฉุกเฉินในวันจันทร์ เพื่อหารือเพิ่มมาตรการรักษาความปลอดภัยพิพิธภัณฑ์ลูฟร์
ขณะเดียวกัน พิพิธภัณฑ์ชื่อดังระดับโลกแห่งนี้ ซึ่งเก็บรักษางานศิลปะล้ำค่า เช่น ภาพโมนาลิซา และให้การต้อนรับผู้เยี่ยมชมถึง 8.7 ล้านคนในปีที่ผ่านมา ประกาศปิดให้บริการเป็นวันที่ 2 ในวันจันทร์
ต่อไปนี้คือรายละเอียดบางแง่มุมของอาชญากรรมที่สั่นสะเทือนฝรั่งเศสครั้งนี้

แกะรอยโจรกรรมอุกอาจ
เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นระหว่าง 9.30-9.40 น.วันอาทิตย์ (19) หลังจากพิพิธภัณฑ์เปิดไม่นาน โดยคนร้ายสวมหน้ากากไม่มีอาวุธ 4 คนใช้รถกระเช้าไฟฟ้า เพื่อเข้าสู่อาคารอะพอลโลแกลเลอรี ซึ่งเป็นห้องจัดแสดงเครื่องประดับเพชรและอัญมณีล้ำค่า ผ่านทางระเบียงด้านที่อยู่ใกล้แม่น้ำแซน
ภาพถ่ายจากที่เกิดเหตุเผยให้เห็นบันไดรถกระเช้าทอดไปที่หน้าต่างชั้น 2 โดยโจร 2 คนใช้เครื่องตัดชนิดใช้แบตเตอรี่ตัดกระจกหน้าต่างและเข้าสู่พิพิธภัณฑ์ ก่อนข่มขู่เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยทำให้ต้องอพยพผู้เยี่ยมชม
โจรเหล่านี้ฉกของจากตู้จัดแสดงสองตู้และพยายามจุดไฟเผารถของตัวเอง แต่ถูกพวกเจ้าหน้าที่พิพิธภัณฑ์ขัดขวาง
ราชิดา ดาติ รัฐมนตรีวัฒนธรรม ให้สัมภาษณ์สถานีทีวี ทีเอฟ1 โดยอ้างอิงคลิปเหตุการณ์ว่า คนร้ายก่อเหตุอย่างใจเย็นและไม่มีผู้บาดเจ็บ ดูเป็นมืออาชีพมาก มีประสบการณ์และเตรียมแผนมาอย่างดี เมื่อปล้นสำเร็จแล้วก็ขี่สกูตเตอร์ 2 คันหลบหนีไป
ลอว์รองต์ นูเนซ รัฐมนตรีมหาดไทย สำทับว่า ดูจากความคล่องแคล่วว่องไวในการปล้นแล้ว เป็นไปได้ว่า แก๊งคนร้ายอาจเป็นพวกสมาชิกแก๊งอาชญากรต่างชาติ
สิ่งของที่ถูกปล้น
จากการเปิดเผยของเจ้าหน้าที่ สิ่งของที่ถูกปล้นมี 8 ชิ้น ได้แก่ รัดเกล้าและเข็มกลัดของจักรพรรดินียูจีนี พระมเหสีของนโปเลียนที่ 3, สร้อยคอมรกตและต่างหูมรกต 1 คู่ของจักรพรรดินีมารี หลุยส์, รัดเกล้า สร้อยคอ และต่างหู 1 ข้างจากชุดแซฟไฟร์ของพระราชินีมารี—อาเมลี และพระราชินีออร์แตนส์, เข็มกลัดเรลิเควียรี โดยเครื่องเพชรและอัญมณีเหล่านี้สร้างขึ้นในยุคศตวรรษที่ 19 ทั้งหมด มีการประดับประดาด้วยเพชรและอัญมณีมีค่าอื่นๆ หลายพันเม็ด
นอกจากนั้นยังพบของอีก 2 ชิ้นที่รวมถึงมงกุฎของจักรพรรดินียูจีนี ที่คนร้ายทำตกใกล้ที่เกิดเหตุขณะหลบหนี โดยมงกุฎนี้ประดับด้วยเพชรกว่า 1,000 เม็ด
ไม่ใช่ครั้งแรก
ปี 1911 พนักงานชาวอิตาลีของพิพิธภัณฑ์ลูฟร์ซุกภาพโมนา ลิซาไว้ใต้เสื้อโค้ทและหลบหนีออกไป ก่อนถูกจับได้ในอีก 2 ปีต่อมา โดยคนร้ายบอกว่า ที่ทำไปเพราะเชื่อว่า ผลงานระดับมาสเตอร์พีซของลีโอนาร์โด ดาวินชี ชิ้นนี้เป็นของอิตาลี ทั้งนี้ในเวลานั้น ภาพโมนา ลิซา ยังไม่ค่อยมีคนรู้จักกันนัก ไม่เหมือนกับในปัจจุบัน ที่ภาพเขียนนี้มีการรักษาความปลอดภัยอย่างเข้มงวดกวดขันยิ่ง
ปี 1998 เลอ เชอแมง เดอ แซฟร์ ภาพเขียนของกามิลล์ โกโรต์ ศิลปินแห่งศตวรรษที่ 19 ถูกขโมยไปจากพิพิธภัณฑ์ลูฟร์และไม่มีใครได้พบเห็นอีกเลย เหตุการณ์นี้ทำให้มีการยกเครื่องระบบรักษาความปลอดภัยพิพิธภัณฑ์ครั้งใหญ่
นอกจากนั้น ในระยะหลังมานี้ยังมีพิพิธภัณฑ์อื่นๆ ในฝรั่งเศสตกเป็นเป้าหมายการโจรกรรม
เดือนที่แล้ว พิพิธภัณฑ์อาดริญอง ดูบุชในลิโมจส์ถูกบุกและขโมยเครื่องลายครามที่มีมูลค่า 11 ล้านดอลลาร์
เดือนพ.ย. 2024 สิ่งของ 7 ชิ้นที่มีมูลค่าทางประวัติศาสตร์หายไปจากพิพิธภัณฑ์คอนญัค-เจย์ในปารีส ก่อนตามกลับมาได้ 2-3 ชิ้นในอีกไม่กี่วันต่อมา
เดือนเดียวกันนั้น กลุ่มโจรพกอาวุธบุกเข้าไปในพิพิธภัณฑ์ไฮรอนในเบอร์กันดี และยิงขู่หลายนัดก่อนหลบหนีไปพร้อมงานศิลป์แห่งศตวรรษ 20 มูลค่านับล้าน
(ที่มา: เอเอฟพี/รอยเตอร์/บีบีซี)
ทางการฝรั่งเศสเผยว่า ทีมเจ้าหน้าที่สอบสวนซึ่งมีจำนวนราว 60 คน มุ่งประเด็นที่ว่า พวกแก๊งองค์การอาชญากรรมอาจอยู่เบื้องหลังการปล้นอุกอาจคราวนี้ที่เกิดขึ้นเมื่อวันอาทิตย์ (19) โดยพวกแหล่งข่าวที่ขอให้สงวนนามและบรรดาเจ้าหน้าที่ซึ่งแถลงให้ข้อมูลข่าวสารอย่างเปิดเผย ต่างระบุว่า โจรกลุ่มไปถึงพิพิธภัณฑ์ชื่อก้องโลกในกรุงปารีสแห่งนี้เมื่อเวลาประมาณ 9.30 น. ปิดฉากภารกิจการปล้นในเวลาแค่ 7 นาทีและกวาดเครื่องเพชรอัญมณีล้ำค่า 8 ชิ้นก่อนหลบหนีลอยนวลด้วยรถสกูตเตอร์
เจอรัลด์ ดาร์มาแนง รัฐมนตรียุติธรรมฝรั่งเศส ยอมรับว่า เหตุการณ์ที่หนังสือพิมพ์หลายฉบับระบุว่าเป็น “การปล้นแห่งศตวรรษ” ครั้งนี้ สะท้อนถึงความล้มเหลว และทำให้ภาพลักษณ์ของฝรั่งเศสติดลบและน่าอับอาย รวมทั้งยังทำให้คนฝรั่งเศสรู้สึกว่า ตัวเองถูกปล้นอย่างน่าหยามหยัน
จอร์แดน บาร์เดลลา ผู้นำพรรคเนชันแนล แรลลี ซึ่งเป็นพรรคขวาจัด โพสต์บนแพลตฟอร์มเอ็กซ์ว่า การปล้นลูฟร์เป็นความอัปยศเกินทนทานของฝรั่งเศส พร้อมตั้งคำถามว่า รัฐที่ล้มเหลวนี้ยังจะฝืนลากสังขารไปอีกนานแค่ไหน
ฟรองซัวส์-ซาเวียร์ เบลลามี จากพรรครีพับลิกันที่มีจุดยืนอนุรักษนิยม สำทับว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นอาการของประเทศที่ไม่สามารถปกป้องมรดกของชาติได้
รายงานระบุว่า รัฐมนตรีมหาดไทยและรัฐมนตรีวัฒนธรรมฝรั่งเศสจัดการประชุมฉุกเฉินในวันจันทร์ เพื่อหารือเพิ่มมาตรการรักษาความปลอดภัยพิพิธภัณฑ์ลูฟร์
ขณะเดียวกัน พิพิธภัณฑ์ชื่อดังระดับโลกแห่งนี้ ซึ่งเก็บรักษางานศิลปะล้ำค่า เช่น ภาพโมนาลิซา และให้การต้อนรับผู้เยี่ยมชมถึง 8.7 ล้านคนในปีที่ผ่านมา ประกาศปิดให้บริการเป็นวันที่ 2 ในวันจันทร์
ต่อไปนี้คือรายละเอียดบางแง่มุมของอาชญากรรมที่สั่นสะเทือนฝรั่งเศสครั้งนี้
แกะรอยโจรกรรมอุกอาจ
เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นระหว่าง 9.30-9.40 น.วันอาทิตย์ (19) หลังจากพิพิธภัณฑ์เปิดไม่นาน โดยคนร้ายสวมหน้ากากไม่มีอาวุธ 4 คนใช้รถกระเช้าไฟฟ้า เพื่อเข้าสู่อาคารอะพอลโลแกลเลอรี ซึ่งเป็นห้องจัดแสดงเครื่องประดับเพชรและอัญมณีล้ำค่า ผ่านทางระเบียงด้านที่อยู่ใกล้แม่น้ำแซน
ภาพถ่ายจากที่เกิดเหตุเผยให้เห็นบันไดรถกระเช้าทอดไปที่หน้าต่างชั้น 2 โดยโจร 2 คนใช้เครื่องตัดชนิดใช้แบตเตอรี่ตัดกระจกหน้าต่างและเข้าสู่พิพิธภัณฑ์ ก่อนข่มขู่เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยทำให้ต้องอพยพผู้เยี่ยมชม
โจรเหล่านี้ฉกของจากตู้จัดแสดงสองตู้และพยายามจุดไฟเผารถของตัวเอง แต่ถูกพวกเจ้าหน้าที่พิพิธภัณฑ์ขัดขวาง
ราชิดา ดาติ รัฐมนตรีวัฒนธรรม ให้สัมภาษณ์สถานีทีวี ทีเอฟ1 โดยอ้างอิงคลิปเหตุการณ์ว่า คนร้ายก่อเหตุอย่างใจเย็นและไม่มีผู้บาดเจ็บ ดูเป็นมืออาชีพมาก มีประสบการณ์และเตรียมแผนมาอย่างดี เมื่อปล้นสำเร็จแล้วก็ขี่สกูตเตอร์ 2 คันหลบหนีไป
ลอว์รองต์ นูเนซ รัฐมนตรีมหาดไทย สำทับว่า ดูจากความคล่องแคล่วว่องไวในการปล้นแล้ว เป็นไปได้ว่า แก๊งคนร้ายอาจเป็นพวกสมาชิกแก๊งอาชญากรต่างชาติ
สิ่งของที่ถูกปล้น
จากการเปิดเผยของเจ้าหน้าที่ สิ่งของที่ถูกปล้นมี 8 ชิ้น ได้แก่ รัดเกล้าและเข็มกลัดของจักรพรรดินียูจีนี พระมเหสีของนโปเลียนที่ 3, สร้อยคอมรกตและต่างหูมรกต 1 คู่ของจักรพรรดินีมารี หลุยส์, รัดเกล้า สร้อยคอ และต่างหู 1 ข้างจากชุดแซฟไฟร์ของพระราชินีมารี—อาเมลี และพระราชินีออร์แตนส์, เข็มกลัดเรลิเควียรี โดยเครื่องเพชรและอัญมณีเหล่านี้สร้างขึ้นในยุคศตวรรษที่ 19 ทั้งหมด มีการประดับประดาด้วยเพชรและอัญมณีมีค่าอื่นๆ หลายพันเม็ด
นอกจากนั้นยังพบของอีก 2 ชิ้นที่รวมถึงมงกุฎของจักรพรรดินียูจีนี ที่คนร้ายทำตกใกล้ที่เกิดเหตุขณะหลบหนี โดยมงกุฎนี้ประดับด้วยเพชรกว่า 1,000 เม็ด
ไม่ใช่ครั้งแรก
ปี 1911 พนักงานชาวอิตาลีของพิพิธภัณฑ์ลูฟร์ซุกภาพโมนา ลิซาไว้ใต้เสื้อโค้ทและหลบหนีออกไป ก่อนถูกจับได้ในอีก 2 ปีต่อมา โดยคนร้ายบอกว่า ที่ทำไปเพราะเชื่อว่า ผลงานระดับมาสเตอร์พีซของลีโอนาร์โด ดาวินชี ชิ้นนี้เป็นของอิตาลี ทั้งนี้ในเวลานั้น ภาพโมนา ลิซา ยังไม่ค่อยมีคนรู้จักกันนัก ไม่เหมือนกับในปัจจุบัน ที่ภาพเขียนนี้มีการรักษาความปลอดภัยอย่างเข้มงวดกวดขันยิ่ง
ปี 1998 เลอ เชอแมง เดอ แซฟร์ ภาพเขียนของกามิลล์ โกโรต์ ศิลปินแห่งศตวรรษที่ 19 ถูกขโมยไปจากพิพิธภัณฑ์ลูฟร์และไม่มีใครได้พบเห็นอีกเลย เหตุการณ์นี้ทำให้มีการยกเครื่องระบบรักษาความปลอดภัยพิพิธภัณฑ์ครั้งใหญ่
นอกจากนั้น ในระยะหลังมานี้ยังมีพิพิธภัณฑ์อื่นๆ ในฝรั่งเศสตกเป็นเป้าหมายการโจรกรรม
เดือนที่แล้ว พิพิธภัณฑ์อาดริญอง ดูบุชในลิโมจส์ถูกบุกและขโมยเครื่องลายครามที่มีมูลค่า 11 ล้านดอลลาร์
เดือนพ.ย. 2024 สิ่งของ 7 ชิ้นที่มีมูลค่าทางประวัติศาสตร์หายไปจากพิพิธภัณฑ์คอนญัค-เจย์ในปารีส ก่อนตามกลับมาได้ 2-3 ชิ้นในอีกไม่กี่วันต่อมา
เดือนเดียวกันนั้น กลุ่มโจรพกอาวุธบุกเข้าไปในพิพิธภัณฑ์ไฮรอนในเบอร์กันดี และยิงขู่หลายนัดก่อนหลบหนีไปพร้อมงานศิลป์แห่งศตวรรษ 20 มูลค่านับล้าน
(ที่มา: เอเอฟพี/รอยเตอร์/บีบีซี)