xs
xsm
sm
md
lg

ระทึก! เครื่องบินขนส่งสินค้าไถลตกทะเลที่ 'สนามบินฮ่องกง' พบผู้เสียชีวิต 2 ราย

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



เครื่องบินขนส่งสินค้าที่เดินทางมาจากนครดูไบประสบอุบัติเหตุลื่นไถลออกนอกรันเวย์ลงสู่ทะเลขณะลงจอดที่สนามบินนานาชาติฮ่องกงเมื่อเช้าวันจันทร์ (20 ต.ค.) โดยสื่อท้องถิ่นรายงานว่าพบผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 2 ราย

ภาพถ่ายหลังเกิดอุบัติเหตุแสดงให้เห็นเครื่องบินขนส่งสินค้ารุ่นโบอิ้ง 747 ที่ลำตัวเครื่องมีลวดลาย cargoAirACT จมอยู่ใต้น้ำบางส่วน ใกล้กับกำแพงกันคลื่นของสนามบินฮ่องกง โดยสไลด์หนีภัยอยู่ในสภาพกางออก และส่วนหัวและหางเครื่องบินขาดออกจากกัน

สนามบินฮ่องกงระบุถ้อยแถลงว่า ลูกเรือทั้ง 4 คนบนเครื่องบินได้รับการช่วยเหลือแล้ว ขณะที่หนังสือพิมพ์เซาท์ไชน่ามอร์นิงโพสต์รายงานโดยอ้างตำรวจว่า มีผู้เสียชีวิต 2 รายที่อยู่ในยานพาหนะภาคพื้นดินใกล้กับรันเวย์ ซึ่งคาดว่าเกิดจากการถูกเครื่องบินชน

สนามบินฮ่องกงเปิดเผยว่า รันเวย์ด้านเหนือของสนามบินขนส่งสินค้าที่พลุกพล่านที่สุดในโลกถูกปิดหลังจากเหตุการณ์นี้ ส่วนรันเวย์ด้านใต้และตอนกลางจะยังคงเปิดให้บริการต่อไป

อุบัติเหตุดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อเวลาประมาณ 3.50 น. ตามเวลาฮ่องกงของวันจันทร์ (20)

สำนักงานการบินพลเรือนฮ่องกงระบุในคำแถลงว่า เครื่องบินลำนี้ "เบี่ยงออกนอกรันเวย์ด้านเหนือหลังจากลงจอด และตกลงไปในทะเล"

"เจ้าหน้าที่ภาคพื้นดิน 2 คนได้รับผลกระทบ และตกลงไปในทะเล อาการของพวกเขายังอยู่ระหว่างรอยืนยัน"


สายการบินเอมิเรตส์ระบุว่า เที่ยวบิน EK9788 ได้รับความเสียหายขณะลงจอดที่ฮ่องกงเมื่อวันจันทร์ (20) โดยเป็นเครื่องบินขนส่งสินค้ารุ่นโบอิ้ง 747 ที่เช่าและดำเนินการโดยสายการบิน ATC Airlines

"ลูกเรือได้รับการยืนยันว่าปลอดภัย และไม่มีสินค้าอยู่บนเครื่อง" เอมิเรตส์ ระบุ

ACT Airlines เป็นสายการบินของตุรกีที่ให้บริการขนส่งสินค้าเพิ่มเติมแก่สายการบินชั้นนำ โดยล่าสุดทางสายการบินยังไม่ได้ตอบข้อซักถามเกี่ยวกับอุบัติเหตุที่เกิดขึ้น

FlightRadar24 ซึ่งเป็นเว็บไซต์บริการติดตามเที่ยวบินระบุว่า เครื่องบินที่ประสบอุบัติเหตุมีอายุการใช้งาน 32 ปี และเคยใช้เป็นเครื่องบินโดยสารก่อนที่จะถูกดัดแปลงเป็นเครื่องบินขนส่งสินค้า

สำนักงานการบินพลเรือนฮ่องกงระบุว่า ได้รายงานเหตุการณ์ดังกล่าวต่อสำนักงานสอบสวนอุบัติเหตุทางอากาศประจำฮ่องกงแล้ว และพร้อมที่จะให้การสนับสนุนกระบวนการสอบสวน

ที่มา: รอยเตอร์




กำลังโหลดความคิดเห็น