ประธานาธิบดี สี จิ้นผิง ของจีนเรียกร้องความพยายามไปสู่การรวบรวมชาติ (reunification) ในสารแสดงความยินดีที่ส่งถึงผู้นำคนใหม่ของพรรคก๊กมินตั๋ง พรรคฝ่ายค้านหลักของไต้หวันเมื่อวันอาทิตย์ (19 ต.ค.) โดยกระบวนการเลือกตั้งหัวหน้าพรรคเกิดขึ้นท่ามกลางข้อครหาเรื่องการแทรกแซงจากปักกิ่ง
เจิ้ง ลี่เหวิน (鄭麗文) อดีตสมาชิกรัฐสภาซึ่งจะก้าวขึ้นดำรงตำแหน่งหัวหน้าพรรคก๊กมินตั๋ง (KMT) ในวันที่ 1 พ.ย. ได้รับชัยชนะในการเลือกตั้งเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา (18) ท่ามกลางความตึงเครียดที่เพิ่มขึ้นกับรัฐบาลปักกิ่งซึ่งมองว่าเกาะประชาธิปไตยแห่งนี้เป็นดินแดนในอธิปไตยจีน ขณะที่รัฐบาลไต้หวันเองคัดค้านอย่างหนักต่อการอ้างสิทธิ์เช่นนี้ของปักกิ่ง
พรรคก๊กมินตั๋งสนับสนุนความสัมพันธ์อันใกล้ชิดกับจีนมาโดยตลอด และเป็นคู่เจรจาที่ปักกิ่งต้องการ แต่จีนปฏิเสธที่จะพูดคุยกับประธานาธิบดีไล่ ชิงเต๋อ และพรรคประชาธิปไตยก้าวหน้า (DPP) โดยเรียกเขาว่า "นักแบ่งแยกดินแดน"
ในสารแสดงความยินดีที่ส่งไปในฐานะผู้นำพรรคคอมมิวนิสต์จีน สี บอกกับ เจิ้ง ว่า ทั้งสองพรรคควรเสริมสร้าง "รากฐานทางการเมืองร่วมกัน" ตามรายงานของสำนักข่าวซินหวา
สี ยังกล่าวด้วยว่า ทั้งสองฝ่ายควรที่จะ "รวบรวมประชาชนส่วนใหญ่ในไต้หวันเข้าด้วยกัน เพื่อกระชับการแลกเปลี่ยนและความร่วมมือ ส่งเสริมการพัฒนาร่วมกัน และผลักดันการรวมชาติ"
ในสารที่ส่งถึงสี จิ้นผิง เจิ้ง ไม่ได้กล่าวถึงการรวมเป็นหนึ่งกับปักกิ่งแต่อย่างใด แต่กล่าวว่าทั้งสองฝั่งช่องแคบไต้หวันเป็น "สมาชิกของประชาชาติจีน" โดยใช้ถ้อยคำในภาษาจีนที่หมายถึงเชื้อชาติมากกว่าสัญชาติ
“ทั้งสองฝ่ายควรเสริมสร้างการแลกเปลี่ยนและความร่วมมือระหว่างช่องแคบไต้หวันบนพื้นฐานที่มีอยู่ (และ) ส่งเสริมสันติภาพและเสถียรภาพทั่วช่องแคบไต้หวัน” เจิ้ง กล่าว ตามถ้อยแถลงของพรรคก๊กมินตั๋ง
แม้ว่าพรรคก๊กมินตั๋วจะแพ้การเลือกตั้งประธานาธิบดีเมื่อปีที่แล้ว ทว่าพรรคและพรรคพันธมิตรอย่างพรรคประชาชนไต้หวัน (Taiwan People's Party) ซึ่งเป็นพรรคเล็กๆ กลับครองที่นั่งในสภานิติบัญญัติรวมกันมากที่สุด
เจิ้ง วัย 55 ปี คัดค้านการเพิ่มงบประมาณด้านกลาโหมซึ่งเป็นนโยบายหลักของ ไล่ ชิงเต๋อ และเธอได้รับคะแนนโหวตจากสมาชิกพรรคก๊กมินตั๋งเหนือ ห่าว หลงปิน ผู้สมัครคู่แข่งที่เป็นอดีตนายกเทศมนตรีกรุงไทเป
ที่มา: รอยเตอร์