รอยเตอร์ – ชาวอเมริกันนับล้านรวมตัวทั่วประเทศเมื่อวันเสาร์ (18 ต.ค.) ร่วมประท้วง “โนคิงส์” เพื่อประณามแนวโน้มการใช้อำนาจเผด็จการและปัญหาการทุจริตที่ไร้การควบคุมของทรัมป์
ผู้จัดการชุมนุมคาดว่า มีประชาชนหลายล้านคนออกไปแสดงพลังอย่างสันติที่จุดชุมนุมกว่า 2,600 แห่งในเมืองต่างๆ ทั่วอเมริกา เพื่อท้าทายนโยบายของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ที่แปลงโฉมรัฐบาลและบรรทัดฐานประชาธิปไตยแบบหน้ามือเป็นหลังมืออย่างรวดเร็วแบบที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนนับจากเข้ารับตำแหน่งในเดือน ม.ค.
ลีอาห์ กรีนเบิร์ก ผู้ร่วมก่อตั้งอินดิวิซิเบิลที่เป็นแกนนำจัดการชุมนุมในวันเสาร์โดยมีกลุ่มรากหญ้ากว่า 300 แห่งร่วมสนับสนุนและช่วยเหลือ กล่าวว่า ในความเป็นอเมริกันนั้นไม่มีอะไรมากไปกว่าการประกาศว่า “เราไม่มีกษัตริย์” และการใช้สิทธิ์ในการประท้วงอย่างสันติ
ผู้ประท้วงอัดแน่นย่านไทมส์สแควร์ในนิวยอร์กซิตี้ ที่ตำรวจเผยว่า ไม่มีการจับกุมที่เกี่ยวข้องกับการประท้วงแม้แต่คนเดียว แม้มีประชาชนกว่า 100,000 คนชุมนุมในทั้ง 5 เขต
การชุมนุมที่บอสตัน ฟิลาเดลเฟีย แอตแลนตา เดนเวอร์ ชิคาโก และซีแอตเติล ดึงดูดฝูงชนแห่งละหลายพันคน ขณะที่ทางฝั่งตะวันตกมีการชุมนุมหลายสิบจุดทั่วลอสแองเจลีส
การประท้วงเหล่านี้ที่เป็นไปอย่างสันติและผ่อนคลายคล้ายบรรยากาศของเทศกาล สะท้อนความไม่พอใจที่เพิ่มมากขึ้นของคนอเมริกันซึ่งส่วนใหญ่มีแนวทางฝ่ายซ้าย ต่อหลายสิ่งที่เกิดขึ้น เช่น การที่ทรัมป์ฟ้องร้องคดีอาญากับศัตรูทางการเมือง การนำทหารเข้าปราบปรามผู้อพยพ และการส่งกองกำลังป้องกันชาติเข้าสู่เมืองต่างๆ โดยอ้างว่า เพื่อต่อสู้กับปัญหาอาชญากรรมและปกป้องเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมือง
นอกจากนั้น ขณะที่คณะบริหารพยายามรีบเร่งดำเนินการตามนโยบายเหล่านั้น ทรัมป์กลับแต่งตั้งลิ่วล้อที่จงรักภักดีแต่ขาดประสบการณ์รับตำแหน่งต่างๆ ในคณะบริหาร และพยายามกดดันสื่อ บริษัทกฎหมาย และสถาบันอุดมศึกษา
ที่ฮิวสตัน แดเนียล อะบอยต์ กาเมซ นาวิกโยธินวัย 30 ปี ที่ร่วมชุมนุมที่ศาลาว่าการเมืองซึ่งเจ้าหน้าที่ระบุว่า มีผู้เข้าร่วมราว 5,000 คน บอกว่า ไม่เข้าใจว่า เกิดอะไรขึ้นในอเมริกาตอนนี้
เควิน ไบรซ์ ทหารผ่านศึกวัย 70 ปีที่ร่วมชุมนุมที่เมืองพอร์ตแลนด์ รัฐโอเรกอน บอกว่า ทุกสิ่งที่เขาเคยยืนหยัดต่อสู้ระหว่างเป็นทหารกำลังตกอยู่ในความเสี่ยง ดังนั้น แม้สนับสนุนพรรครีพับลิกันมาตลอดชีวิต แต่เขาไม่สนับสนุนแนวทางของพรรคในขณะนี้
ทรัมป์แทบไม่พูดถึงการประท้วงเมื่อวันเสาร์ กระนั้น ระหว่างให้สัมภาษณ์ฟ็อกซ์ บิสเนสที่ออกอากาศในวันศุกร์ (17 ต.ค.) เขาบอกว่า ตนเองไม่ใช่กษัตริย์อย่างที่หลายคนโจมตี
ทางด้านพรรคเดโมแครตที่สมาชิกมีความเห็นขัดแย้งกันเรื่องวิธีที่ดีที่สุดในการต่อต้านทรัมป์นั้น สมาชิกระดับสูงอย่างชัค ชูเมอร์ ผู้นำเสียงข้างน้อยในวุฒิสภา รวมถึงสมาชิกสายก้าวหน้า อาทิ อเล็กซานเดรีย โอคาซิโอ-คอร์เทซ ต่างประกาศสนับสนุนขบวนการ “โนคิงส์”
เมื่อวันศุกร์ ไมค์ จอห์นสัน ประธานสภาผู้แทนราษฎรจากพรรครีพับลิกัน วิจารณ์ว่า การประท้วงโนคิงส์สะท้อนความเกลียดชังต่ออเมริกา
สมาชิกรีพับลิกันคนอื่นๆ กล่าวหาผู้จัดการชุมนุมว่า ยั่วยุบรรยากาศที่อาจกระตุ้นให้เกิดความรุนแรงทางการเมืองมากขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลังจากเมื่อเดือนที่แล้วเพิ่งมีการลอบสังหารชาร์ลี เคิร์ก นักเคลื่อนไหวฝ่ายขวาที่เป็นพันธมิตรของทรัมป์
การชุมนุมในวันเสาร์มีเป้าหมายเพื่อต่อยอดการสนับสนุนระดับรากหญ้าจากการจัดการประท้วงโนคิงส์ราว 2,000 จุดทั่วอเมริกาเมื่อวันที่ 14 มิ.ย. ซึ่งเป็นวันคล้ายวันเกิดทรัมป์และมีการจัดพิธีสวนสนามที่วอชิงตัน
ดานา ฟิชเชอร์ ศาสตราจารย์มหาวิทยาลัยอเมริกันในวอชิงตัน และผู้แต่งหนังสือหลายเล่มเกี่ยวกับขบวนการเคลื่อนไหวในอเมริกา คาดว่า การประท้วงในวันเสาร์อาจมีผู้เข้าร่วมมากที่สุดในประวัติศาสตร์สมัยใหม่ของอเมริกา
ทั้งนี้ ฟิชเชอร์คาดว่า การประท้วงโนคิงส์เมื่อเดือนมิ.ย.มีผู้เข้าร่วมกว่า 3 ล้านคน ขณะที่จี เอลเลียต มอร์ริส นักข่าวชื่อดัง คาดว่า มีถึง 4-6 ล้านคน
ฟิชเชอร์ปิดท้ายว่า แม้การประท้วงไม่ได้ทำให้นโยบายของทรัมป์เปลี่ยนแปลง แต่อาจเป็นกำลังใจให้เจ้าหน้าที่ที่ได้รับเลือกตั้งในทุกระดับที่ไม่เห็นด้วยกับทรัมป์